จัดระเบียบทุกงานอีเว้นท์ สะดวกทั้งคนจัด ง่ายทั้งคนใช้ ไปกับ ZipEvent
คุณภาโรจน์ เด่นสกุล หรือคุณเจ ผู้เป็น CEO และ Co-Founder ของ ZipEvent ได้ให้สัมภาษณ์กับเราว่า ZipEvent เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คนที่เป็นผู้จัดงานอีเว้นท์ สามารถประชาสัมพันธ์และช่วยจัดการระบบบริหารงาน ทั้งด้านการขายตั๋ว การลงทะเบียนเข้างาน การให้ข้อมูลภายในงาน ผู้เข้าร่วมงานสามารถเช็กข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นได้เลย
อีกทั้งยังมี E-ticket หรือตั๋วออนไลน์ที่สามารถใช้ในการลงทะเบียนเข้างานได้ ไม่จำเป็นต้องต่อคิวเซ็นชื่อ รอลงทะเบียนเหมือนอย่างแต่ก่อน และนอกจากนั้นถ้าเป็นงานสัมมนา ผู้ใช้งาน ZipEvent ก็สามารถส่งคำถาม Q&A ขึ้นไปยังเวทีได้โดยตรง หรือถ้าเป็นงาน EXPO ก็สามารถดูแผนผังงาน รายชื่อผู้ออกบูธต่าง ๆ ได้
“เราพยายามจะเอาข้อมูลหรือเอกสารต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายมารวมอยู่ในแอพพลิเคชั่นเรา พูดง่าย ๆ ก็คือ เราจะเข้ามาแก้ปัญหาทุกอย่างตั้งแต่ PR ก่อนวันงาน ลงทะเบียน ระหว่างงาน และตอนจบงาน ก็จะมีสรุปผลให้กับผู้จัดงาน”
คุณเจเล่าถึงความเป็นมาในการเริ่มต้นทำ ZipEvent ว่า “เกิดขึ้นจากตอนที่ยังเด็ก ครอบครัวชอบพาไปงานต่าง ๆ ทำให้เจอทั้งการต่อคิวลงทะเบียน หลงทางหาบูธไม่เจอ และประกอบกับช่วงที่อยากเริ่มทำ Startup ได้พยายามหางานอีเว้นท์ที่เกี่ยวข้องกับ Startup แต่ไม่สามารถหาได้เลย ไม่มีแหล่งที่จะมาบอกได้ครบถ้วน ต้องหาเองทีละงาน อีกทั้งยังรู้สึกว่ามีงานอีเว้นท์ดี ๆ อีกมากมายที่ไม่ได้รับการ PR ให้คนอื่นรู้ จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่จะปล่อยให้ใครหลาย ๆ คนพลาดตรงนั้นไป จึงได้หันมาทำ ZipEvent เพื่อตอบโจทย์ตรงนี้”
กว่าจะสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ออกมาให้หลายคนได้ใช้งานกันได้นั้น ย่อมผ่านความชำนาญและความเหน็ดเหนื่อยจากทีมงานมาไม่ใช่น้อย ซึ่งสมาชิกของทีม ZipEvent นี้ก็มีอยู่ทั้งหมด 5 คน แบ่งเป็น 4 ทีมคือ Business Marketing Developer และ Designer “ตอนนั้นเราก็รวมทีมกันเข้าโครงการ AIS The StartUp แต่ยังไม่ได้ใช้ชื่อ ZipEvent ก็ติด 1
ใน 20 ทีมสุดท้าย ซึ่งตอนนั้นก็ลองไปคุยกับผู้จัดงานอีเว้นท์ดู แต่อาจจะเพราะตลาดอีเว้นท์ในตอนนั้นยังใหม่สำหรับเค้าในการทำอะไรแบบนี้ จึงได้หันไปทำ Startup ตัวอื่นแทนอยู่ปีหนึ่ง จนถึงวันที่คิดอยากจะย้อนกลับไปทำเกี่ยวกับอีเว้นท์แบบเดิม และคิดว่าตลาดในตอนนี้คงพร้อมแล้วสำหรับ ZipEvent เราจึงปลุกมันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง”
หลังจากที่เริ่มตัดสินใจทำ Startup ขึ้นมา การปลุกปั้นบางสิ่งบางอย่างให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต่อให้แอพพลิเคชั่นนั้นจะดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีใครรู้จัก ก็ย่อมไม่มีทางประสบความสำเร็จ โดยคุณเจได้จำแนกเรื่องการดึงลูกค้าเข้ามาใช้งานออกเป็น 2 จุดใหญ่ ๆ คือ 1. ด้านคนใช้งาน และ 2. ด้านคนจัดงาน “ในแง่คนใช้งานก็จะมี 2 ส่วน คือ ออนไลน์และออฟไลน์ โดยออนไลน์เราก็จะทำโฆษณาลงโซเชียลมีเดียหลัก ๆ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ แต่สำหรับออฟไลน์เวลามีผู้จัดงานหรือพาร์ทเนอร์ใช้บริการ ZipEvent เราก็จะไปออกบูธหน้างาน เพื่อเป็นการโปรโมทตัวเองไปในตัว และในแง่ของคนจัดงานเราก็จะเข้าไปเสนอเองโดยตรงเลยมากกว่า”
ปัญหาหลักที่ ZipEvent เจอมาเลยก็คือ การเป็น Startup ทำให้เข้าถึงผู้จัดงานระดับสูงได้ยาก ยังไม่มีใครไว้ใจ และบางที่ก็ยังไม่เปิดรับ เพราะใช้งานไม่เป็น “เราก็ต้องส่งคนเข้าไปอธิบายถึงประโยชน์ ข้อดี วิธีใช้ และทุกอย่างให้เค้าเข้าใจว่า ตัวผลิตภัณฑ์ของเรามันดีกับเค้ามากจริงๆ”
สำหรับ Startup แล้ว การจะหาเงินทุนมาหมุนเวียนเพื่อพัฒนาธุรกิจได้ย่อมมาจากการพิทชิ่ง หลายท่านที่สนใจในการทำ Startup ก็คงอยากรู้เบื้องลึกของการพิทชิ่งว่าเป็นอย่างไร คุณเจมีขั้นตอน วิธี และการเตรียมการอย่างไร ซึ่งสำหรับคุณเจ ZipEvent ผู้ผ่านการพิทชิ่งมาหลายเวที ได้บอกเล่าถึงเคล็ดลับไว้ว่า
“หลังจากพิทชิ่งครั้งแรกที่บอกไปก็ได้มีโอกาสไปพิทชิ่งอีกหลายเวที ผมก็จะเน้นการเตรียมตัวเยอะ ๆ เปิดมาให้กระชากใจว่าปัญหาที่เราทำคืออะไร จะไปตอบโจทย์ยังไง ต่อมาคือปัญหาใหญ่ขนาดไหน มีคนประสบปัญหานี้กี่ร้อยล้านคน และหลังจากนั้นก็โยงเข้าโซลูชั่นของเรา ว่าตอบโจทย์ยังไง ประกอบด้วยกี่ส่วนแล้ว ค่อยจูงเข้ามาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เรา ว่าจะขายยังไง และต่อมาคือ แทร็คชั่น เราทำอะไรมาบ้าง ในอนาคตเราจะทำอะไรบ้าง และสุดท้ายคือปิดด้วยทีม ทีมเรามีใครบ้าง”
จริง ๆ แล้วการพิทชิ่งนั้นไม่มีสูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน แต่สิ่งที่คุณเจเน้นย้ำอย่างที่สุดเลยก็คือ การฝึกฝน เพราะการพิทชิ่งเป็นเหมือนประตูสู่โอกาสที่ยิ่งใหญ่ มี Startup มากมายที่พร้อมจะคว้าโอกาสนั้นแข่งกับคุณ ดังนั้นอย่าปล่อยให้โอกาสดี ๆ หลุดลอยไป เพียงเพราะการเตรียมตัวมาไม่เพียงพอ
“สำหรับคนที่อยากทำ Startup ก็อยากให้ลองศึกษาตลาดให้ดีว่า ถ้ามีแบบนี้ ทำแบบนี้ คนจะใช้หรือเปล่า และเมื่อคิดได้แล้ว ตัดสินใจแล้ว ก็ลงมือทำ เพราะถ้าคิดอย่างเดียว แต่ไม่ลงมือทำ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าผิดพลาดล้มเหลวก็อย่าเพิ่งท้อ แค่เริ่มใหม่ก็พอ”