“บ้านเฮา” นวัตกรรมข้าวไทย มาตรฐานออร์แกนิค EU และ IFOAM
“บ้านเฮา” (Barn House) เป็นผลิตภัณฑ์การเกษตรวิจัย จนกลายเป็นข้าวกล้องงอกหอมมะลิออร์แกนิค โดย คุณจอมพจน์ เกษมรุ่งชัยกิจ (เอ) ผู้คิดค้น เล่าว่า “จุดเริ่มต้นมาจากความสนใจส่วนตัว เดิมทีเป็นคนไม่ค่อยดูแลสุขภาพ จนวันหนึ่งป่วยเรื่องไต เลยมีโอกาสศึกษาเรื่องสุขภาพอย่างจริงจัง ดังนั้น จึงนำโจทย์เรื่องข้าวกล้องมาเป็นจุดต่อยอด เนื่องจากข้าวมีสรรพคุณหลากหลาย จากนั้นจึงได้คิดสูตรการผลิตพร้อมไปปรึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ช่วยวิจัยสูตรอีกทางหนึ่ง”
“นอกจากนี้ ได้นำไอเดียดังกล่าวเข้ามาปรึกษาที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กระทั่งเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวกล้องงอกหอมมะลิออร์แกนิค แบรนด์บ้านเฮา (Barn House) โดยผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการพัฒนาหลายส่วน ทั้งคุณค่าทางโภชนาการที่เพิ่มขึ้น อย่างวิตามินและสารกาบา ที่ทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่นได้มีการวิจัยแล้วพบว่า ช่วยลดอาการอัลไซเมอร์ได้ เนื้อข้าวมีความนิ่มกว่าข้าวกล้องทั่วไป”
“รวมทั้ง ทางด้านมหาวิทยาลัยมหิดล ได้วิจัยทางการแพทย์เรื่องคุณประโยชน์ของข้าวกล้องงอก พบว่า ดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และยังวิจัยร่วมกับทางคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกด้วย พบว่าข้าวกล้องงอกมีฤทธิ์ต้านมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งงานวิจัยของบ้านเฮาหลายชิ้นได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการระดับสากลมาแล้ว”
คุณเอ เล่าต่อว่า “ข้าวกล้องงอกหอมมะลิออร์แกนิค แบรนด์บ้านเฮา (Barn House) ทำการวิจัยตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทั้งหมดมี 14 โครงการ ใช้เวลาวิจัย 7-8 ปี เพราะการวิจัยนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องการตอบโจทย์ผู้บริโภคให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งผลให้ต้องใช้งบประมาณจากหลักแสนถึงหลักล้านได้”
“หลังจากผลิตภัณฑ์สามารถนำออกตลาดได้แล้ว ก็มีผลการตอบรับดี ซึ่งเราเริ่มจำหน่ายจริง ๆ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยวางจำหน่ายที่สยามพารากอน เอ็มโพเรียม ห้างสรรพสินค้าเครือเดอะมอลล์ และร้านหนังสือซีเอ็ดทุกสาขา หรือสามารถโทร.มาโดยตรงได้ที่เบอร์ 080-419-6565”
สำหรับรางวัลทางด้านนวัตกรรม “ข้าวกล้องงอกหอมมะลิออร์แกนิค แบรนด์บ้านเฮา (Barn House) ได้รับรางวัลแพ็กเก็จจิ้ง Demark Award ส่วนตัวผลิตภัณฑ์เนื่องจากเราทำการวิจัยนานไปหน่อย คณะกรรมการได้ตัดสินรางวัลไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ จุดเด่นแห่งความสำเร็จผลิตภัณฑ์บ้านเฮา นั้นคือ 1. คุณภาพ เราผลิตโดยตรงในโรงงานที่ได้รับมาตรฐานอาหารสากล ซึ่งได้รับมาตรฐานออร์แกนิค EU และ IFOAM และ 2. คุณสมบัติชัดเจน เพราะมีงานวิจัยรองรับ เวลาไปคุยกับลูกค้า เราสามารถนำงานวิจัยไปเสนอด้วยได้ เลยทำให้คำพูดเรามีน้ำหนักมากขึ้น สำหรับการพัฒนา ตอนนี้พยายามส่งออกไปต่างประเทศ อาจต้องใช้เวลาพอสมควร อีกทั้งเรื่องคู่แข่งก็เพิ่มขึ้น ดังนั้น ปีนี้เราจึงต้องปรับตัวผลิตในนามแบรนด์อื่นด้วยเช่นกัน” คุณเอ กล่าวทิ้งท้าย