แพลตฟอร์ม "TAGTHAI"
หรือ “ทักทาย”
แพลตฟอร์มศูนย์รวมข้อมูลด้านการท่องเที่ยว
รวมทั้งสินค้าและบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวครบวงจร 77
จังหวัดทั่วประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นจากการผลักดันของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนไทย
ในโครงการ Digital Tourism Platform ภายใต้คณะทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์
ตามแนวทางประชารัฐเปิดตัวให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว
โดย บริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารจัดการ เปิดมิติใหม่การท่องเที่ยวไทย ที่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี สอดรับกับกระแสการท่องเที่ยวที่ทั่วโลกที่เติบโตก้าวกระโดด
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ข้อมูลจากองค์การท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ
( UNWTO) ระบุว่า ปี 2561
ที่ผ่านมามียอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก 1.4
พันล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2560
ประมาณ 6%
ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่าปี 2561
ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอยู่ที่ 38 ล้านคน
สำหรับปี 2562 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ตั้งเป้าหมายยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ที่
40-41 ล้านคน สร้างรายได้ 1.12 ล้านล้านบาท
ส่วนเป้าหมายนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยอยู่ที่ 166 ล้านคน-ครั้ง
รายได้รวมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยรวมกันไม่ต่ำกว่า 3.3 ล้านล้านบาท
ไม่แปลกที่ทุกประเทศทั่วโลกพยายามขับเคลื่อนผลักดันนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว
เพื่อสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มจากการท่องเที่ยวโดยอาศัยทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยว
ศิลปวัฒนธรรมตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นจุดขาย
เช่นเดียวกับประเทศไทยที่หลายปีที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐและเอกชนตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของภาคท่องเที่ยวท่องเที่ยวและบริการเพิ่มมากขึ้น
ทำให้เอเจนต์ออนไลน์ หรือ Online Travel Agents-OTAs ช่องทางการขายห้องพักของโรงแรม รีสอร์ต
โฮมสเตย์ ในลักษณะลูกค้าสามารถจองห้องพักได้เองโดยตรง
เป็นช่องทางการขายช่องทางใหม่ตรงถึงผู้บริโภคโดยผ่านเทคโนโลยียีดิจิทัล อย่าง Travelloka ,Agoda,
Booking.com, Expedia,Tripadvisor ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแพลตฟอร์มข้ามชาติสบโอกาสเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยตลาดท่องเที่ยวแหล่งใหญ่ของโลกช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต ในประเทศไทย
ตกอยู่ในสภาพจำยอมต้องอาศัยแพลตฟอร์มเอเจนต์ออนไลน์
ข้ามชาติเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และกับการยอมจ่ายค่าคอมมิสชั่นในอัตราที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่
20-30% หรือมากกว่านั้น
เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ตลาดในปัจจุบันที่นักท่องเที่ยวทั้งไทย ต่างชาติ นิยมจองห้องพักสำหรับการเดินทางและการท่องเที่ยวล่วงหน้าโดยผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบาย ความมั่นใจว่าจะมีที่พักหรือแหล่งพำนัก ขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์เรื่องค่าใช้จ่าย จากระดับราคาห้องพักที่มีให้เลือกหลากหลายระดับ สามารถเปรียบเทียบอัตราค่าที่พัก และเลือกตัดสินใจจองได้ตามความต้องการ
ดัน “TAGTHAI” ประชัน OTAs ต่างชาติ
“TAGTHAI” หรือ
www.tagthai.com คือ เอเจนต์ออนไลน์ หรือ Online Travel Agents-OTAs ช่องทางการขายห้องพักของโรงแรม รีสอร์ต
โฮมสเตย์ โดยลูกค้าสามารถจองห้องพักได้เองโดยตรง ช่องทางการขายช่องทางใหม่ตรงถึงผู้บริโภคโดยผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล
เช่นเดียวกับ Travelloka
,Agoda, Booking.com, Expedia,Tripadvisor ฯลฯ
ซึ่งส่วนเป็นแพลตฟอร์มข้ามชาติ “TAGTHAI” จึงถูกผลักดันให้เกิดขึ้นโดยหน่วยงานรัฐและเอกชน
50 องค์กรร่วมกันขับเคลื่อน
ภายใต้การบริหารจัดการของ บริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม
จุดเด่นของ เอเจนต์ออนไลน์ “TAGTHAI” คือการให้บริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
และจีน ที่สำคัญจะคิดค่าธรรมเนียม
หรือคอมมิสชั่นในการให้บริการเพียงแค่ 10-15%
เทียบกับที่ผ่านมาถูก OTAs ต่างชาติเรียกค่าบริการสูงถึง 20-35%
นอกเหนือจากการให้บริการรับจองห้องพักโรงแรม
รีสอร์ต โฮมสเตย์ ฯลฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ แล้ว
ยังให้บริการด้านข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว
และการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลัก
และเมืองรองอย่างครบครัน
ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อสินค้า
ผลิตภัณฑ์แบรนด์ไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าโอทอป เอสเอ็มอี ฯลฯ หรือต้องการท่องเที่ยเยี่ยมชม สวนสนุก
กิจกรรมบันเทิง เอนเตอร์เทน การแสดงโชว์ต่าง ๆ
ก็สามารถจองซื้อบัตรผ่านแพลตฟอร์มน้องใหม่นี้ได้ด้วย
โดยสถาบันการเงินไทยที่ร่วมอยู่ในโครงการคอยให้บริการรับชำระสินค้าและบริการ พร้อมรับประกันคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ
ซึ่งผ่านการตรวจสอบคัดกรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
ไม่ให้เกิดการย้อมแมว หลอกลวงนักท่องเที่ยว
แพลตฟอร์มใหม่นี้ นอกจากจะเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการภาคเอกชน
อำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ช่วยลดต้นทุน
หนุนให้การท่องเที่ยวไทยขยายตัวเติบโตได้ต่อเนื่องแล้ว
ภาครัฐเองก็จะมีผลพลอยได้มีฐานข้อมูลนักท่องเที่ยว ที่พัก ร้านค้า ตัวสินค้า ฯลฯ
สำหรับใช้วางแผนในการสนับสนุน ควบคุมดูแล
และกำหนดนโยบายการท่องเที่ยวของประเทศในวันข้างหน้า