ธุรกิจ Healthcare คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทุกสิ่งทุกอย่างในการดูแลความเป็นอยู่ด้านสุขภาพของคน
ครอบคลุมขอบเขตค่อนข้างกว้าง ทั้งยังสามารถแบ่งได้เป็นหลายส่วนงาน
หรือแม้แต่การแบ่งตามระดับความซับซ้อนในการรักษา เรียกง่ายๆ ว่าธุรกิจนี้ดูแลรักษาทุกอย่างที่เกี่ยวสุขภาพและการรักษาคน
ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจโรงพยาบาล คลินิก บริษัทผู้ผลิตยา ร้านขายยา
สถานรักษา และพยาบาล เป็นต้น
จากการที่ธุรกิจด้านเฮลท์แคร์เข้าสู่ Digital Disruption เกิดความเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลกับธุรกิจอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายธุรกิจต้องปรับตัวอย่างหนัก ทั้งการเกิดขึ้นของ COVID-19 ยิ่งทำให้องค์กรต่างๆ ต้องทิ้งคู่มือทางธุรกิจที่มีอยู่เพื่อสร้าง Customer engagement ขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดกลยุทธ์เพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยได้อย่างทันเวลา
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ทั้งนี้มีข้อมูลจากอะโดบีได้เผยถึง ‘ความท้าทาย’ ที่ธุรกิจเฮลท์แคร์ต้องเผชิญและแนวทางในการปรับตัวสู่วิถี New
Normal สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการ
ร้านขายยา ฯลฯ เพราะ “ความต้องการของผู้ป่วย” เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้
ต้องคำนึงอยู่เสมอว่าการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
และเป็นประโยชน์มีความสำคัญเสมอ เมื่อต้องสื่อสารกับผู้ป่วยในช่วงวิกฤต
โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน ที่สร้างความตึงเครียดให้กับผู้คนและกระบวนการทำงานมากขึ้น
จากวิกฤต COVID-19 ผู้ป่วยมีการค้นหาข้อมูลมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเวชภัณฑ์ ยา ของใช้ในครัวเรือน ไปจนถึง test kit เพื่อตรวจหาเชื้อ COVID-19 แล้วคุณสามารถให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องได้อย่างไร
ช่องทางการสื่อสารแบบเดิมที่มีอยู่มักจำกัดความเร็วของการนำเสนอเนื้อหาที่จำเป็นในช่วงวิกฤต
องค์กรจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์การสื่อสารทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (Omni-channel) เพื่อส่งเนื้อหาและข้อมูล
แล้วองค์กรพร้อมที่จะมีช่องทางการสื่อสารใหม่ ที่พร้อมจะให้ลูกค้าหรือผู้ป่วยเข้ามามีส่วนร่วมได้หรือยัง?
เมื่อภาครัฐออกมาตรการ Social Distancing ทำให้บทบาทการใช้งานดิจิทัลมีมากขึ้น
คุณจะใช้ Digital self-service ในการตอบสนองความต้องการที่ไม่เร่งด่วน
และกิจวัตรประจำวันได้อย่างไร ขณะเดียวกันก็ต้องให้ข้อมูลใหม่ๆ เช่น ค้นหาโรงพยาบาลที่ตรวจเชื้อ
COVID-19 ขณะที่ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อโรงพยาบาล คุณสมบัติของผู้ป่วย หรือกระบวนการตรวจ เป็นต้น
4 ขั้นตอนปฏิบัติของธุรกิจเฮลท์แคร์
สู่ New Normal
ขั้นที่ 1 : เสนอรายชื่อทีมเพื่อนำ ‘ประสบการณ์ลูกค้า’ ไปปรับใช้ อุปสรรคที่เจอบ่อยในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วยคือ
‘กระบวนการภายในที่ซับซ้อน และการอนุมัติที่ล่าช้า’ ในช่วงเวลาวิกฤตนี้
ธุรกิจจำเป็นต้องพักขั้นตอนที่ซับซ้อนและการใช้เวลานานในการตัดสินใจไว้ก่อน
โดยแต่งตั้งทีมที่สามารถตัดสินใจ และปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว เช่น ทีมไทเกอร์
ซึ่งมีความสามารถในการใช้เครื่องมือที่จำเป็นในการทดสอบ เรียนรู้
และดำเนินการได้อย่างทันที
ในทีมนี้ควรแต่งตั้งบุคคลที่สามารถให้ความช่วยเหลือ
สนับสนุน ชี้แนะ และอนุมัติแนวคิดของทีม
โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางกฎหมายที่จำเป็นเกี่ยวกับสุขภาพ รวมถึงบุคคลสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ
‘คนสร้างและพัฒนาคอนเทนต์’ ที่ใช้และเผยแพร่ในองค์กร
รวมถึงนักวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งจะเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เพื่อให้คำแนะนำ
และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและผู้ป่วยได้ทันที
ขั้นที่ 2: แนวทางปฏิบัติที่เรียบง่ายที่สุดแต่มักถูกลืมนั่นคือ
“การรู้จักผู้ป่วย” ประสบการณ์ที่ดีที่สุดของผู้ป่วยจะช่วยลัดขั้นตอนการทำงานแบบแยกส่วนในองค์กร
และเพื่อทำความเข้าใจใน journey และปัญหาของผู้ป่วย
องค์กรควรแยก journey ที่แตกต่างกันในกลุ่มผู้ป่วย เช่น journey
ของกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
และกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงจะแตกต่างจากกลุ่มของผู้ดูแล (Caregiver) ที่ต้องการรู้วิธีและขั้นตอนการรักษาโรค COVID-19 อย่างละเอียด
ขั้นที่ 3: มีช่องทางที่ติดต่อกับผู้ป่วยได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นแบนเนอร์
แลนดิ้งเพจ หรือ FAQ ที่นำไปสู่ข้อมูลของ
COVID-19 กุญแจสำคัญคือทำอย่างไรที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเชื่อมโยงกับคุณ
หรือนึกถึงคุณเป็นอันดับแรกเมื่อพวกเขาประสบปัญหา และคุณจะทำอย่างไรเพื่อให้ข้อมูลกับผู้ป่วยได้ตรงและแม่นยำที่สุดในทุกเวลาที่พวกเขาต้องการ
ประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalized experiences) จะช่วยตอบโจทย์เหล่านี้
และช่วยให้คุณตอบสนองพวกเขาได้ทันที โดยคุณต้องไม่ลืมช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสม
และมีประสิทธิภาพที่สุดกับผู้ป่วยที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน
ขั้นที่ 4: การวัดประสิทธิภาพของคอนเทนต์ที่คุณนำเสนอให้กับผู้ป่วย หรือสาธารณะชนนั้นมีความสำคัญมาก การทำงานกับทีมข้อมูลและทีมวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก จะให้ความรู้ที่คุณต้องให้ความสำคัญเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ การกำหนดและตั้ง KPI จะช่วยให้คุณสามารถประเมิน conversion จากเครื่องมือ Digital self-service และ Telehealth ยิ่งไปกว่านั้น KPI ที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถประเมินกลยุทธ์การสื่อสารทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (Omni-channel) ได้อย่างเหมาะสมในการแบ่งปันข้อมูลให้กับผู้ป่วย เช่น การให้ความรู้ COVID-19 อย่างต่อเนื่อง หรือการให้ข้อมูลของสถานที่ตั้งของผู้ให้บริการ ฯลฯ
ท้ายสุดการเรียนรู้จากผู้ที่เกี่ยวข้อง และการใช้ประโยชน์จากโซลูชั่นต่างๆ จะช่วยเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจเฮลท์แคร์ของคุณ และทำให้เข้าถึงความต้องการของผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น รวมถึงช่วยคุณให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพตามความต้องการผู้ป่วยแต่ละคน และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับพวกเขาเหล่านั้นแม้จะอยู่ในช่วงวิกฤต