ปัจจุบันแนวทางในการประกอบกิจการหรือธุรกิจให้เติบโตมีหลากหลายวิธี
แต่วิธีหนึ่งที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย คือการเข้าตลาดใหม่ (New Market) บางครั้งธุรกิจสามารถสร้างกำไรและยอดขายในตลาดเดิมได้ดีอยู่แล้ว
แต่ตลาดใกล้เคียงก็มีความน่าสนใจ เพราะมีแรงดึงดูดจากการสร้างผลกำไร เช่น หากคุณเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มตลาดเครื่องสำอาง
(Cosmetics) แต่กลุ่มลูกค้าคุณจำนวนมากก็ใส่ใจการดูแลผิวพรรณเช่นกัน
ดังนั้นตลาดผิวพรรณจึงเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ
การเข้าตลาดใหม่อาจช่วยคุณยกระดับยอดขายและกำไรให้กับแบรนด์ได้ โดยผ่านลูกค้ากลุ่มเดิมที่คุณมีด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ในการดูแลผิวพรรณ พร้อมกับการหาลูกค้าใหม่ในตลาดผิวพรรณ รวมไปถึงโอกาสในการ Cross-Selling ข้ามตลาดกัน แต่การเข้าตลาดใหม่ (New Market) นั้น ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างรายได้เสมอไป เพราะอาจเป็นกับดักที่ทำให้แบรนด์พังไม่เป็นท่าได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเข้าตลาดใหม่ให้ประสบความสำเร็จต้องคำนึง 5 สิ่ง ดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. Slow or Quick :
พิจารณาแนวโน้มการเติบโตของตลาด
แนวโน้มการเติบโตของตลาดจะช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย อาทิ ปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเติบโต
กล่าวคือ การเข้าตลาดใหม่เร็วเกินไปในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานไม่ได้รองรับ
จะทำให้แบรนด์ต้องลงทุนสร้างการรับรู้เพิ่มขึ้น สุดท้ายจึงแบกรับต้นทุนไม่ไหว
ไม่สามารถสร้างยอดขายได้ ดังนั้นหากตลาดใหม่เติบโตได้ช้า ธุรกิจจึงต้องมีเงินทุนสำรองและหมุนกระแสเงินสดให้ได้ในระยะยาวเพื่อรอการคืนทุน
2. First or Later : มาก่อนหรือหลังอันไหนดีกว่ากัน?
ในการเข้าตลาด แบรนด์หรือองค์กรควรตัดสินใจให้ชัดว่าจะเป็น First Mover ผู้เข้าแข่งขันรายแรก หรือ Later Entrant ผู้มาทีหลัง ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน
เพราะการเข้ามารายแรกย่อมเจออุปสรรคขนานใหญ่ เช่น การทลายความคิด
การสร้างพฤติกรรมบางอย่างให้เกิดขึ้น
หรือการที่ต้องลงทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่แบบยกเครื่อง เป็นต้น
แต่การมาก่อนก็มีข้อดี คือถ้าเข้ามาก่อนและครอบครองตลาดได้
มีนวัตกรรมและความน่าเชื่อถือ ก็สามารถเป็นเกราะป้องกันตัวเองจากคู่แข่ง
ที่กำลังจะเข้าตลาดตามมาได้
3. Beachhead : หาตลาดหัวหาดเพื่อตั้งหลักให้ได้ก่อน
การเข้าตลาดใหม่ต้องหาหัวหาดที่จะบุกยึดให้ได้ เพราะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของแบรนด์หรือองค์กร
ซึ่งการเข้าตลาดใหม่ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าตลาดที่มีทั้งหมดในคราวเดียว แต่ควรเลือกตลาดหัวหาด
หรือลูกค้ากลุ่มแรกให้ชัดก่อน เพราะจะช่วยให้เข้าตลาดได้เร็ว และมีฐานลูกค้าในการเพิ่มจำนวนลูกค้าไปเรื่อยๆ
แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณไม่ยึดหัวหาดหรือลูกค้ากลุ่มแรกให้ได้เสียก่อน ก็อาจไม่มีทางครอบครองตลาดทั้งหมดได้
ดังนั้นจึงต้องวิเคราะห์ตลาดแรกที่นวัตกรรม สินค้า หรือบริการของคุณ เข้าถึงได้ง่ายและสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. Superhighway or Country Road : ตลาดเดิมหรือตลาดใหม่
การขายสินค้าหรือทำตลาดในตลาดเดิมๆ คือ ถนนแบบ Super Highway ทางด่วนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ด้วยวิธีการขาย
ช่องทาง กลยุทธ์ พันธมิตร หรือสิ่งต่างๆ ที่ถูกออกแบบไว้หมดแล้ว แต่การเข้าตลาดใหม่
คือ Country Road ถนนแบบชนบทไม่ได้ราบเรียบหรือเดินทางได้ง่ายๆ
การขายหรือกลยุทธ์ในแบบเดิม ไม่สามารถนำมาใช้ในตลาดใหม่ได้ทั้ง 100%
ดังนั้นแบรนด์หรือองค์กรจึงต้องพิจารณาว่าจะประยุกต์ใช้กลยุทธ์ต่างๆ
อย่างไร จะปรับโครงสร้างธุรกิจ วิธีการทำงาน และกลยุทธ์ในลักษณะใด
เพื่อทำให้การเข้าตลาดใหม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
การเข้าตลาดใหม่ที่เราไม่มีประสบการณ์ อาจต้องพึ่งพาดีลเลอร์ ตัวแทนจำหน่าย
หรือบริหารงานด้านการตลาดและการขายใหม่ หรือควรสร้างบริษัทใหม่หรือแบรนด์ใหม่ขึ้นมา
เพื่อให้บริหารจัดการได้ง่าย กระชับ และเหมาะสมกับตลาดใหม่ ด้วยเหตุนี้เราจึงพบเห็นธุรกิจใหญ่สร้างแบรนด์ลูกออกมาเพื่อลุยตลาดใหม่ๆ
5. Market Next Door : ตลาดข้างบ้าน
อาจเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจที่สุด เพราะไม่ยุ่งยาก
ด้วยการใช้ประโยชน์จากตลาดเดิมที่มีอยู่ อย่างเช่น Apple นอกจากออกแบบ Smartphone แล้ว
ยังมองไปถึงตลาดข้างบ้านอย่าง Accessories ตลอดจนการสนับสนุนให้เกิด
App Development เพื่อให้ลูกค้าใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์หลัก นอกจากนี้การเข้าตลาดข้างบ้าน
ยังหมายรวมถึงการเข้าตลาดเพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น
ด้วยการผลิตสินค้าและบริการให้ครอบคลุมความต้องการลูกค้าแบบ One Stop Service เพื่อทำให้เกิดการสร้าง Ecosystem ที่ลูกค้ายากจะตีตัวออกห่างจากแบรนด์หรือองค์กร
ข้อสำคัญ ‘แผนธุรกิจ’
เป็นแค่ส่วนหนึ่งของความสำเร็จเท่านั้น ทุกกิจการจึงต้องปฏิบัติตามแผนให้ได้ด้วย นอกจากนี้ก็ควรทบทวนแผนการตลาดอย่างสม่ำเสมอ
ซึ่งจะช่วยให้ทราบว่าผลการดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ เพื่อจะได้ปรับแผนให้สอดคล้องและเหมาะสมเพื่อบรรลุเป้าหมายต่อไป
แหล่งอ้างอิง : กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม