BCG อาจไม่ใช่ให้ SME ไปหาโมเดลธุรกิจใหม่ แต่หากต้องใช้สิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นมิตรต่อโลกมากที่สุด ความยั่งยืนรูปแบบใหม่ของโลกที่ไม่มุ่งแต่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่ยังมีมิติด้านสิงแวดล้อม
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
โมเดลธุรกิจ
BCG Model คืออะไร?
BCG Model คือ โมเดลธุรกิจใหม่ที่นำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
มาผสมผสานการใส่ใจสิ่งแวดล้อมตามหลัก 3 องค์ประกอบเดิม
ได้แก่ B คือ Bio Economy
(เศรษฐกิจชีวภาพ) + C คือ Circular Economy
(เศรษฐกิจหมุนเวียน) และ G คือ Green Economy (เศรษฐกิจสีเขียว)
มาปรับให้สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อสร้างกลไกให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจนบรรลุเป้าหมายตามที่องค์การสหประชาชาติได้วางไว้
(Sustainable Development Goals : SDG) อย่างทั่วถึง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
เนื่องจากแม้หลายธุรกิจจะจำเป็นต้องอาศัยผลผลิตทางการเกษตร แต่รายได้กลับสวนทาง
ทำให้แนวโน้มแรงงานภาคเกษตรกรรมลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ
ตรงข้ามกับความต้องการของตลาดที่ยังคงมีความต้องการไม่สิ้นสุด
การปรับใช้ระหว่าง
Bio Economy, Circular Economy และ Green Economy
บางท่านอาจจะกำลังสงสัยว่า
แล้ว Bio Economy, Circular Economy และ Green Economy ทั้ง 3 ส่วนนี้ จะมีการปรับใช้อย่างไร?
ในส่วนของ
Bio Economy เศรษฐกิจชีวภาพ เป็นการต่อยอดทรัพยากรและความรู้ดั้งเดิมให้เกิดการพัฒนาผลผลิต
ส่วน Circular
Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน
เป็นการหมุนเวียนทรัพยากร เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุด มุ่งเน้น Zero
Waste และ Green Economy
เศรษฐกิจสีเขียว การพัฒนาธุรกิจโดยยึดหลักความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
ลดผลกระทบต่อโลก
เบื้องต้นได้มีการกำหนดเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ
เพื่อขับเคลื่อนโมเดล BCG ดังนี้
1) เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย
BCG ลดการใช้ทรัพยากรลงจากปัจจุบัน
พร้อมลดความเหลื่อมล้ำด้วยการเพิ่มรายได้เกษตรกรและชุมชน
2) ยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารของไทยขึ้นเป็นผู้ผลิตอาหารเพื่อสุขภาพและส่วนประกอบอาหารมูลค่าสูง
Top 5 ของโลก ส่วนอุตสาหกรรมชีวภาพ การผลิตยา
เครื่องมือแพทย์ วัสดุชีวภาพ มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพส่งออก
เป็นแหล่งจ้างงานทักษะสูงและรายได้สูง และจัดการระบบบริหารจัดการท่องเที่ยว
เพื่อนำไปสู่ Top 3 ของเอเชียแปซิฟิก
ความสำคัญของ
BCG Model ต่อ SME
เหตุผลที่
SME ควรเริ่มศึกษาและให้ความสำคัญกับ
BCG Model จาก นโยบายของภาครัฐกำลังผลักดัน ให้ 4 กลุ่มธุรกิจ S-curves ได้แก่ 1. การเกษตรและอาหาร,
2. พลังงานและวัสดุเคมีชีวภาพ, 3. สุขภาพและการแพทย์
และ 4. การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เข้าสู่ห่วงโซ่ของ BCG เพื่อเป็นฐานการสร้างมูลค่าเพิ่มขนาดใหญ่ให้ประเทศ
แน่นอนว่าเมื่อ 4 กลุ่มอุตสาหกรรม SME
นี้ ถูกยกเข้าไปอยู่ในวาระแห่งชาติ ทางภาครัฐก็มีนโยบายมารองรับ
เพื่อสนับสนุนให้โครงการเป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น จัดสรรงบประมาณมาผลักดันโครงการผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย(สกว.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)
สำหรับ
SME องค์กรไหนที่อยากปรับเปลี่ยนตาม
BCG Model แต่ยังไม่มีทุนเพียงพอ ก็สามารถขอทุนสนับสนุนได้
เป็นต้น ทำให้การดำเนินธุรกิจมีกำลังสนับสนุนจากหลายฝ่าย ตอบโจทย์กลุ่ม SME
อย่างยิ่ง
อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดรายได้ธุรกิจให้พ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
กระจายรายได้สู่ธุรกิจในทุกขั้น ลดความเหลื่อมล้ำ ตั้งแต่ภายในชุมชน ธุรกิจ SME ไปจนถึงภาพรวมของประเทศ
ลองนึกภาพดูง่ายๆ ว่า ยิ่งรายได้เพิ่มมากขึ้น ยิ่งสร้างพลังให้เกิดการพัฒนา ยิ่งส่งเสริมให้ธุรกิจของคุณก้าวหน้าไปได้อีกไกล
แถมยังดึงคนที่มีความรู้ ความสามารถ ให้มาร่วมทำธุรกิจกับคุณได้ไม่ยากอีกด้วย
มีแต่แนวโน้มจะเติบโตมากขึ้น
เพราะการเป็น
SME ไม่จำเป็นจะต้องวิ่งตามโลกให้ทันอยู่ตลอดเวลา
การอยู่อย่างยั่งยืนและทันโลก
เข้าถึงและเข้าใจทุกฝ่ายได้อย่างใกล้ชิดแบบที่องค์กรใหญ่ทำไม่ได้
ก็สามารถเป็นจุดแข็งให้ธุรกิจได้เหมือนกัน
ส่วนกลุ่มธุรกิจอื่นนอกเหนือจาก
4 อุตสาหกรรมข้างต้น แม้จะไม่ได้อยู่ในแผนสนับสนุนธุรกิจของทางรัฐบาล
แต่ก็สามารถปรับและพัฒนาให้สอดคล้องตามหลัก BCG ได้เช่นกัน
เพราะไม่เพียงแต่จะสร้างประโยชน์ในแง่ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจ
เสริมสร้างรายได้อย่างยั่งยืนแล้ว ยังสามารถหยิบมาสื่อสารผ่านการตลาด สร้างจุดเด่นให้เหนือกว่า
SME องค์กรอื่นในตลาดเดียวกันได้ด้วย
เพราะการจะยกระดับธุรกิจ
SME โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด
19 จะอาศัยแค่การลงมือจากส่วนหนึ่งส่วนใดไม่ได้
แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ตั้งแต่ระดับชุมชนสู่ระดับประเทศ ลดการขูดรีดทรัพยากรธรรมชาติ
โมเดลที่ถือเป็นคำตอบที่ดีสำหรับยุคนี้และอนาคตต่อไปจึงหนีไม่พ้น BCG ธุรกิจเพื่อโลก เพื่อเราทุกคน ยิ่งเริ่มต้นไว ยิ่งมีโอกาสไปได้ไกลกว่า