‘เทรนด์รักษ์โลก’ กลยุทธ์ธุรกิจอสังหาฯ มัดใจผู้บริโภคยุคโควิด
ปัจจุบันผู้บริโภคได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตประจำวัน
หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม-เทรนด์รักษ์โลกมากขึ้น โดยการเลือกที่อยู่อาศัยก็เป็นหนึ่งในนั้น
จากที่เคยมีบทบาทเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต
กลายเป็นพื้นที่ส่วนรวมของคนในครอบครัวที่เป็นมากกว่าเพียงแค่การพักผ่อน
ดังนั้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จึงมีการนำเทรนด์ Green Living มาเป็นกลยุทธ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคโควิด 19 ระบาด
ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ที่พักอาศัยประหยัดพลังงาน
เนื่องจากบ้าน-คอนโดฯ จะไม่ใช่สถานที่เพียงแค่พักผ่อนหรืออยู่อาศัย
แต่ยังต้องตอบโจทย์เรื่องของการเป็นสถานที่ทำงาน-เรียนออนไลน์
หรือแม้แต่พื้นที่ออกกำลังกายดูแลสุขภาพ
ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ย่อมมีค่าใช้จ่ายที่ตามมา จึงเป็นเหตุผลให้ในอนาคตผู้บริโภคมีแนวโน้มหันมาเลือกที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งาน
ภายใต้แนวคิดรักษ์โลกที่ช่วยประหยัดการใช้พลังงาน เช่น เลือกซื้อโครงการที่ผลิตพลังงานสะอาด
เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop), มีระบบระบายความร้อน,
มีระบบจัดการอากาศภายในบ้าน
รวมถึงการวัสดุก่อสร้าง - ตกแต่งเพิ่มเติม เพื่อช่วยลดความร้อน
เช่น ไม้ หรือพื้นไม้ จะช่วยลดความร้อนภายในบ้านได้
เพราะมีคุณสมบัติสะสมความร้อนน้อยและคายความร้อนได้เร็ว
นอกจากนี้พวกกระเบื้องหรือหินปูพื้นก็สามารถนำมาใช้เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิในบ้านได้ดีเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีการนำวัตกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง
หรือเรียกว่า Green Innovation นวัตกรรมสีเขียว ซึ่งได้แก่พลังงานจากการใช้แผงโซล่าเซลล์,
หรือการใช้ระบบตรวจจับเปิด - ปิดไฟเมื่อมีคนเดินผ่าน,
ระบบชาร์จไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ และ The Earth Blox บล็อคจากวัสดุรีไซเคิล
เป็นต้น
ที่พักช่วยดูแลสุขภาพ
ด้วยความที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น
ทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพ แม้ในช่วงที่ยังต้องเว้นระยะห่างทางสังคม
ผ่านบริการดูแลสุขภาพแบบออนไลน์ รวมไปถึงการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)
ที่ช่วยให้เข้าถึงการตรวจรักษาและรับการวินิจฉัยจากแพทย์ได้โดยตรง สำหรับที่อยู่อาศัยแต่ละโครงการ
นอกจากนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังได้หันมาจับมือโรงพยาบาลหรือศูนย์บริการสุขภาพ
เพื่อเพิ่มบริการดูแลสุขภาพหรือบริการทางการแพทย์ไว้ในโครงการ รวมถึงนวัตกรรมที่เลือกใช้ในการก่อสร้างก็เป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ
เช่น ออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเป็น
ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการก่อสร้างที่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นและสะท้อนความร้อนภายนอก
บ้านที่มีระบบสร้างอากาศบริสุทธิ์ ป้องกันฝุ่น PM 2.5 หรือบ้านปลอดไวรัส เป็นต้น
บ้านสมัยใหม่ต้องมีความยืดหยุ่น (Flexible)
สถานการณ์โควิด 19
ยังไม่แน่นอนว่าจะจบลงเมื่อใด
ประกอบกับการทำงานยุคปัจจุบันสามารถทำงานได้ทุกที่รวมถึงที่บ้าน-คอนโดฯ ดังนั้นพื้นที่ใช้สอยจึงต้องสามารถปรับเปลี่ยนให้รองรับการ
Work
From Home รวมถึงการอำนวยความสะดวกต่างๆ ด้วย ซึ่งจะส่งผลดีและช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เช่น ระบบถ่ายเทอากาศ, การมี Wi-Fi, การมีมุมที่เหมาะสำหรับนั่งทำงาน
หรือเป็นบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์สำหรับการทำบ้านเป็นออฟฟิศ
ให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
จากความนิยมในการหันมาใช้รถไฟฟ้า (EV) ของผู้คนยุคนี้ กลายเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ดังนั้น
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของเมืองไทยหลายแห่ง จึงได้มีการติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละบ้าน
หรือการมีสถานีชาร์จไฟฟ้าให้บริการในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
เพื่อรองรับการวางแผนเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ใช้รถตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้
EV ได้ง่ายขึ้น
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสิ่งแวดล้อมเร็วขึ้น และขยายเป็นวงกว้างต่อไป
แหล่งอ้างอิง :
https://www.bangkokbiznews.com/
https://www.dotproperty.co.th/