ส่งออก 500 ตันต่อปี! เจาะเคล็ดลับ ‘ไร่สินธนา’ ผู้ผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองแถวหน้าเมืองไทย เชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกรรุกตลาดโลก

เรียนรู้เคล็ดลับ พร้อมเทคนิคสำคัญจากผู้ผลิตมะม่วงมืออาชีพ ‘ไร่สินธนา’ ส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองระดับพรีเมียม ที่ใส่ใจคัดสรรมะม่วงคุณภาพจากสวนมาตรฐาน ที่มีความอร่อย หวานฉ่ำ กลิ่นหอม จากแนวคิดในการเรียนรู้จากความผิดพลาดของ คุณอาทิตา ตุลยวาณิช กรรมการ บริษัท ไร่สินธนา จำกัด สู่ผู้ส่งออกมะม่วงแถวหน้าของเมืองไทย สร้างโอกาสรุกตลาดโลก

คุณอาทิตา เล่าว่า ไร่สินธนาเริ่มต้นจากการเป็นเกษตรกรปลูกมะม่วง โดยมีพื้นที่เพาะปลูกเป็นของตนเองรวมประมาณ 500 กว่าไร่ ทั้งในเขตจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี เชียงใหม่ ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าจึงควบคู่ไปกับการเป็นผู้รวบรวมส่งมะม่วงน้ำดอกไม้เพื่อส่งออกไปต่างประเทศมามากกว่า 28 ปี พร้อมทั้งส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงให้มีรายได้และเติบโตอย่างต่อเนื่อง

คัดสรรมะม่วงคุณภาพจากสวนมาตรฐาน ด้วยจุดเด่นของมะม่วงที่มีผิวสีทอง และรสชาติที่โดดเด่น กลิ่นหอม หวานฉ่ำ อร่อยลงตัว ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะม่วงที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่งในประเทศไทย

ใส่ใจและควบคุมกระบวนการผลิตด้วยตนเองทุกขั้นตอน ซึ่งจะมีเทคนิคการห่อผลมะม่วงเมื่อมีขนาดเท่าไข่ไก่ และจะทำการตัดผลผลิตในระยะเวลา 125 วัน 

นอกจากนี้ ยังสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ ด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท MK Restaurant Group ในการรังสรรค์เมนูสุดอร่อยที่ชื่อว่า ‘เป็ดพันใหม่’ โดยใช้มะม่วงพันธุ์มหาชนกจากไร่สินธนา ซึ่งมีกลิ่นหอมและรสเปรี้ยวจัด มาทานคู่กับเป็ดพันใหม่ของ MK ที่ เป็นที่ฮือฮาและขายดีมาก 

ไร่สินธนา เติบโตจากการเรียนรู้จากความผิดพลาด จนสามารถประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองแถวหน้าของเมืองไทย โดยเริ่มต้นจากแนวคิดที่ว่า จะทำอย่างไรดี ที่จะทำให้มะม่วงของไร่สินธนาที่มีรสชาติที่หวาน หอม โดดเด่น ทำให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก

คุณอาทิตา เล่าว่า จากการนำผลผลิตมะม่วง 3,000 กิโลกรัม ไปนำเสนอให้กับบริษัทผู้ส่งออก ปรากฏว่าใช้ได้เพียง 20 กิโลกรัม เนื่องจากไร่สินธนายังไม่ได้มีระบบการจัดการคุณภาพที่ดี และขาดความรู้ความเข้าใจ และเทคนิคการคัดเกรดมะม่วงคุณภาพเพื่อการส่งออก ซึ่งมะม่วงคุณภาพการส่งออกต้องมีผิวภายนอกสวย สะอาด ไม่มีรอยช้ำกระแทก และต้องมีขนาดต่อผล 300 กรัมขึ้นไปจนถึง 600 กรัม (หรือเรียกง่ายๆ ว่าเกรดนางฟ้า)

ซึ่งจากปัญหาและอุปสรรคดังกล่าว ในที่สุดในปี 2009 ไร่สินธนาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตมะม่วงคุณภาพเพื่อการส่งออกมากสูงสุดถึง500,000 กิโลกรัม ภายใน 1 ปี ผลงานในครั้งนั้นสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทไร่สินธนาและคู่ค้าอย่างมาก จึงทำให้เติบโตไปพร้อมๆ กัน

ปัจจุบัน ไร่สินธนา สร้าง Contract Farming เชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกร โดยมีเครือข่ายเกษตรกร 200 กว่ารายทั่วประเทศ พร้อมทำข้อตกลง MOU (Memorandum of Understanding) ในการซื้อขายอย่างโปร่งใส พร้อมสร้างมาตรฐานสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตมะม่วงคุณภาพ เพิ่มมูลค่า เพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย พร้อมดูแลการจัดการฟาร์มที่ดีให้กับเกษตรกร ควบคูไปกับการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเรื่องปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อสวนมะม่วงของเกษตรกร ทั้งแมลงสัตว์กัดต่อย หรือการที่ต้องเผชิญกับผลกระทบเรื่องพายุ

แม้การเชื่อมโยงกับเกษตรกรจะต้องใช้ระยะเวลาในการทำความเข้าใจยาวนานพอสมควรกว่าจะเกิดความเข้มแข็งได้ แต่ปัจจุบันคุณอาทิตาก็ยอมรับว่า ปัจจุบันเกษตรกรทุกคนมีความเข้าใจและขยันที่จะจดบันทึก นำข้อผิดพลาดมาปรับใช้และแก้ไขพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น

อีกทั้ง เครือข่ายเกษตรกรของไร่สินธนา นอกจากจะได้ขนาดและคุณภาพที่ต้องการของตลาดแล้วนั้น การทำมะม่วงมืออาชีพที่สร้างปริมาณผลผลิตได้ทั้งปี ยังส่งผลให้เปิดตลาดได้กว้างขึ้นไปเรื่อยๆ

 

สำหรับแผนการตลาดของ ไร่สินธนา มีการส่งไปยังโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ พร้อมรุกตลาดโลก โดยประเทศหลักที่ส่งออกไปก็คือเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งคุณอาทิตาบอกถึงความสำเร็จในการส่งออกว่า มีกระแสตอบรับในการส่งออกมะม่วงที่ดีมาก โดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี

คุณอาทิตา ยอมรับว่าการดูแลเอาใจใส่ในกระบวนการผลิตด้วยตนเองทุกขั้นตอน เป็นที่มาสู่การสร้างโอกาสส่งออกมะม่วงคุณภาพสู่ตลาดโลก