Bnomics | จับตาจีนเปิดประเทศช่วยเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น

Bnomics
06/02/2023
รับชมแล้วทั้งหมด 882 คน
Bnomics | จับตาจีนเปิดประเทศช่วยเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น
banner
การที่จีนประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาดทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกที่จะซบเซาในปี 2566 เริ่มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย 

โดยจากรายงานสภาวะเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ฉบับล่าสุดในเดือนมกราคมจากทางสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีการปรับคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2566 ขึ้น 

จากตอนเดือนตุลาคมที่คาดว่าจะเติบโตได้ทั้งปี 4.4% ปรับขึ้นมาเป็น 5.2% เพิ่มขึ้นมาจากเดิม 0.8% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดคิดกันไว้ก่อนหน้า

นอกจากนี้ ยังมีในรายงานฉบับเดียวกันก็ยังแสดงถึงความยืดหยุ่น (resilience) ของเศรษฐกิจหลายประเทศที่รับมือกับสถานการณ์ความผันผวนและปัญหาทางเศรษฐกิจได้ดีกว่าคาด 

ทำให้ทาง IMF ปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกขึ้นมา 0.2% มาอยู่ที่ 2.9% อย่างไรก็ดี ระดับ 2.9% ก็ยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยการเติบโตในช่วงก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความเสี่ยงในเศรษฐกิจโลกก็ยังคงอยู่และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป

ความสำคัญของจีนต่อเศรษฐกิจไทย

นอกจากผลของการเปิดประเทศจีนต่อเศรษฐกิจโลก ผลต่อเศรษฐกิจไทยก็มีนัยยะสำคัญไม่น้อย 

เริ่มจากภาคการส่งออกของไทย ที่ปัจจุบันจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของไทย รองจากแค่สหรัฐอเมริกา โดยไทยส่งสินค้าไปจีนในปี 2565 ที่ผ่านมาคิดเป็นมูลค่า 34,398.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 12% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด

อย่างไรก็ดี ในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่มูลค่าการส่งออกในภาพรวมทั้งปีสามารถขยายตัวได้ 5.5% แต่มูลค่าการส่งออกไปจีนทั้งปีกลับติดลบ 7.7% ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดในจีน  

ดังนั้นการกลับมาเปิดประเทศของจีนก็มีโอกาสจะช่วยภาคการส่งออกของไทย ที่ในช่วงนี้เริ่มหดตัวหลังจากได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเต็มตัว

โดยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา การส่งออกของไทยติดลบ 12.9% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว โดยการส่งออกไปประเทศตลาดหลัก (Primary Market) เกือบทั้งหมดหดตัวในเดือนที่ผ่านมา*

 *ยกเว้นบรูไนที่เป็นประเทศในตลาดอาเซียนปรับตัวบวกขึ้นมาได้

กราฟการส่งออก


ส่วนต่อมาที่การเปิดประเทศของจีนจะเข้ามามีส่วนช่วยอย่างมากคือภาคการท่องเที่ยว โดยในช่วงก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไทยรับนักท่องเที่ยวจีนกว่า 11 ล้านคน สร้างรายได้เป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด


โดยในช่วงนี้ภาคการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งปี 2565 ที่ผ่านมาไทยรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 11.15 ล้านคน โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีถึงราว 5.5 ล้านคน 

กราฟนักท่องเที่ยว


เมื่อเจาะดูรายละเอียดของแค่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ไทยรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2.2 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นราว 57% หากเทียบกับเดือนธันวาคมของปี 2562 

ซึ่งถ้านำตัวเลขนี้มาเป็นบรรทัดฐานในปี 2566 นี้ ไทยจะมีนักท่องเที่ยวประมาณเกือบ 23 ล้านคน 
ทว่าเลขตรงนี้ไม่ได้รวมตัวเลขนักท่องเที่ยวจากจีน และโอกาสภาคการท่องเที่ยวที่ยังฟื้นตัวได้อีก จากความอัดอั้นของคนที่ต้องการท่องเที่ยว ก็มีโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะสูงกว่านี้ได้

นอกจากนี้ อัตราการเข้าพักแรกนี้ยังขึ้นไปแตะระดับ 69.99% ซึ่งเป็นระดับที่มากที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2563 ซึ่งอัตราการเข้าพักแรมที่สูงมากพอก็จะช่วยให้การจ้างงานภาคบริการกลับมาเต็มรูปแบบ

การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวลง แต่ภาคการบริการยังปรับตัวดีขึ้น

ภาพของภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวก็ยังสอดคล้องไปกับดัชนีชี้วัดภาคการบริโภคทั้งจากประชาชนและภาคธุรกิจด้วย

โดยจากข้อมูลล่าสุดในเดือนธันวาคม การดัชนีชี้วัดการบริโภคภาคบริการยังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันได้รับอานิสงค์มาจากภาคการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในช่วงพีคของการท่องเที่ยวไทย ซึ่งก็ทำให้การบริโภคเอกชน (PCI) ปรับตัวสูงขึ้นได้เล็กน้อย

กราฟดัชนีภาคการบริโภค



อย่างไรก็ดี ในภาคการลงทุนเอกชน จะเห็นว่าดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) ในเดือนธันวาคมปรับลดลงสอดคล้องไปกับดัชนีผลผลิตอุตสากรรม (MPI) ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการส่งออกที่หดตัวลงไป 

ในส่วนของดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคอุตสาหกรรม (Manufacturing PMI) ซึ่งเป็นดัชนีชี้นำล่วงหน้า (Leading Indicator) ล่าสุดในเดือนมกราคม จะเห็นว่า PMI ของหลายประเทศก็มีการปรับตัวขึ้นมา 

ซึ่งก็เป็นผลมาจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายให้น้ำหนักน้อยลงไป แต่แม้จะปรับตัวดีขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นทางสหรัฐฯ ยูโรโซน และจีน** ก็ยังค่า Manufacturing PMI อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ทั้งหมด ซึ่งแสดงถึงการหดตัวในช่วงถัดไป

**ในจีนมีตัวเลข PMI จากสองสถาบัน ซึ่งตัวเลขที่ใช้ในบทความคือของ S&P Global

กราฟดัชนี PMI


ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองกันต่อไป

ปัจจัยสำคัญที่จำเป็นต้องจับตามองอย่างแรกคือ ความราบรื่นของการเปิดประเทศของจีน 
ซึ่งจะมีนัยยะต่อทั้งเศรษฐกิจของไทยและโลก โดยต้องระวังความเสี่ยงในการเปิดเมือง และปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่คลี่คลายทั้งหมด 

ต่อมาคือ ความเสี่ยงจากสงครามยูเครน ที่แม้จะมีการปรับตัวของอุปทานโลกบางส่วนแล้ว แต่ถ้าสงครามถูกยกระดับขึ้นมาอีกครั้งก็อาจจะส่งผลอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลกได้

ความเสี่ยงจากสภาวะหนี้ของหลายประเทศตลาดเกิดใหม่และตลาดกำลังพัฒนาก็ยังมีอยู่ ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่สูงขึ้นพร้อมกัน และถ้าเกิดขึ้นในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็อาจจะเกิดปัญหาได้ในหลายประเทศ

นอกจากนี้ ปัจจัยทางด้านตลาดการเงินในไทยเอง อย่างอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่ยังไม่คลี่คลายเต็มร้อยและความผันผวนของค่าเงินบาทก็จะยังเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าจับตาไปอีกสักพัก ซึ่งทั้งหมดนี้ ธุรกิจก็ควรพิจารณาจัดการความเสี่ยงและเผื่อสภาพคล่องให้เหมาะสมในช่วงปีนี้

ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics

════════════════
คุณจะไม่พลาดทุกประเด็นเศรษฐกิจ จาก Bnomics
เพียงตั้งค่าที่เมนูมุมขวาบนเพจให้
เป็น "#Favourites" หรือ “#รายการโปรด”
แล้วทุกประเด็นเศรษฐกิจ จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
#Bnomics #เศรษฐกิจไทย #การส่งออก #จีน 
Reference : 
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/PressRelease/PressRelease2557/Slide_thai_December2022_52npa8.pdf
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/PressRelease/PressRelease2557/MonthlyReport_December2022_52npa8.pdf
https://www.imf.org/-/media/Files/Publications/WEO/2023/Update/January/English/text.ashx
https://www.moc.go.th/th/content/category/detail/id/4/iid/5723

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

Bnomics | สภาพัฒน์ประกาศ GDP โตดีกว่าคาด แต่ยังกังวลปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง

Bnomics | สภาพัฒน์ประกาศ GDP โตดีกว่าคาด แต่ยังกังวลปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง

GDP ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ของไทยประกาศออกมาสูงกว่าที่คาดกันไว้ โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ปรับตัวดีขึ้น 2.7% โดยได้ปัจจัยสนับสนุนมากจากการบริโภคเอกชนที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง…
pin
370 | 09/06/2023
Bnomics | สหรัฐฯ เผชิญวิกฤติแบงก์ล้ม! ส่วนไทยยังได้อานิสงค์จากการท่องเที่ยว

Bnomics | สหรัฐฯ เผชิญวิกฤติแบงก์ล้ม! ส่วนไทยยังได้อานิสงค์จากการท่องเที่ยว

สถานการณ์วิกฤติในภาคธนาคารของประเทศสหรัฐอเมริกากลายเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกจับตามองอีกครั้งหลังจากที่ First Republic Bank เกิดปัญหาความเชื่อมั่น…
pin
632 | 05/05/2023
Bnomics | เศรษฐกิจโลกผันผวน แต่เศรษฐกิจไทยยังไปต่อได้

Bnomics | เศรษฐกิจโลกผันผวน แต่เศรษฐกิจไทยยังไปต่อได้

สถานการณ์ความผันผวนทางเศรษฐกิจในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่า ปีนี้จะเป็นที่ท้าทายทางเศรษฐกิจกับทุกคน อย่างไรก็ดีข้อมูลล่าสุดของเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณว่า…
pin
651 | 07/04/2023
Bnomics | จับตาจีนเปิดประเทศช่วยเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น