นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ผู้ค้าข้าวและผู้นำเข้าข้าวมีความกังวล ไม่อยากให้มีการแทรกแซงราคา ด้วยเหตุผลว่าจะทำให้เกิดราคาผันผวน ทางกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนผู้ส่งออกข้าวไทย ขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีนโยบายเข้าไปแทรกแซงราคาข้าวผ่านนโยบายการจำนำข้าว แต่จะให้การสนับสนุนด้านอื่น ๆ แทน
อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนการตลาดเชิงรุก เร่งเดินสายโปรโมทข้าวไปในหลายประเทศ โดยเฉพาะที่ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย และจะเร่งทำตลาดข้าวเพื่อสุขภาพ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศด้วย ได้แก่ ข้าวสีของไทย ข้าวออร์แกนิก ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวนิลดำ และข้าวเกษตรอินทรีย์
แหล่งข่าวจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า แม้ว่าข้าวเพื่อสุขภาพเหล่านี้เริ่มได้รับความนิยมมากกว่าอดีต แต่ยังเป็นที่ต้องการในวงจำกัด ไม่เป็นที่รู้จักมากนักในตลาดต่างประเทศ ดังนั้นเราควรเร่งทำการประชาสัมพันธ์ถึงคุณประโยชน์ให้มากกว่านี้
และยังพบอีกว่า ความจริงแล้วคุณภาพของข้าวสีไทยยังไม่ค่อยเสถียรมากนัก อาจส่งผลให้ทำตลาดได้ยาก หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันเร่งทำการตลาดให้หนักขึ้น ภาครัฐควรทำปรับปรุงคุณภาพข้าวสี พัฒนาสายพันธุ์ข้าว ให้ความรู้กับชาวนา และทำโปรโมชั่นตามลำดับ
ทางด้าน นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้ข้าวไทยขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดข้าวสิงคโปร์ แต่เมื่อเช็กปริมาณข้าวไทยที่ส่งออกไปยังสิงคโปร์ พบว่าเริ่มมีแนวโน้มลดลงบ้างแล้ว เพราะมีข้อท้วงติงมาว่าข้าวไทยมีราคาสูงกว่าคู่แข่งขันในท้องตลาด ไทยจะต้องเร่งทำการตลาดเพื่อสร้างการจดจำข้าวไทยให้กับผู้ซื้อ รักษาคุณภาพข้าวให้คงที่ และสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น
และที่สำคัญขณะนี้คือ ตั้งแต่ต้นปีมานี้ ไทยสามารถส่งออกข้าวมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยส่งออกข้าวได้กว่า 4,990,000 ตัน มากกว่างอินเดียที่ส่งออกได้ 4,760,000 ตัน นอกจากนี้ไทยยังส่งออกข้าวไปเวียดนามได้ 2,660,000 ตัน และคาดว่าปีนี้ไทยจะสามารถส่งออกข้าวไปได้ถึง 9,500,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ