โดยนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ว่า เครื่องสำอางสมุนไพรไทย เป็นสินค้าไทยที่มีแนวโน้มเจาะตลาด UAE ได้มากขึ้น คือ เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสมุนไพร เนื่องจากมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากสินค้าของประเทศอื่น ๆ
นอกจากเครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้าแล้ว เครื่องสำอาง สปา และสมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาตินั้น ได้รับความนิยมในประเทศนี้เช่นกัน โดยผลิตภัณฑ์ต้องคำนึงถึงคุณลักษณะตอบสนองความต้องการในด้านอื่นด้วย เช่น ป้องกันรังสีจากแสงแดด มลภาวะ เซลลูไลท์ และชะลอวัย
UAE เป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับบริษัทเครื่องสำอาง เพราะเป็นตลาดใหญ่ในโลกความงาม ประชากรมีความหลากหลาย และสามารถกระจายสินค้าไปยังประเทศตะวันออกกลางหลายประเทศ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางฮาลาล ซึ่งผู้ผลิตบางรายใช้เป็นทางธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้มุสลิม
คาดว่าภายในในปี 2561 นี้ใน UAE จะมีมูลค่าขยายตัวถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยตลาดค้าปลีกเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลในปี 2559 จะขยายตัวราวร้อยละ 4.8 ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าที่มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างมาก เมื่อเทียบกับการเติบโตทั่วไปเฉลี่ย
สินค้าที่นิยม เช่น น้ำหอม ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม สบู่ เครื่องสำอาง น้ำหอมดับกลิ่นกาย แชมพู และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยปัจจุบันเครื่องสำอางผู้ชายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มีการซื้อหามากขึ้น เช่น สบู่ล้างหน้า ครีมโกนหนวด น้ำหอมดับกลิ่นกาย เป็นต้น
แต่การที่จะตีตลาด UAE ให้สำเร็จได้มากกว่าที่เคยทำได้นั้น สินค้าจากไทยจะต้องมีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามตรงกับความต้องการของตลาดมากขึ้น เพราะจะต้องแข่งขันกับสินค้าจากประเทศยุโรป หรือเอเชียอื่น ๆ โดยจะต้องปรับปรุงรูปแบบ กลิ่น สี ให้เหมาะสมกับความนิยมของตลาดอยู่ตลอดเวลา เน้นรูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม ตั้งราคาให้เหมาะสม เพื่อแข่งขันกับสินค้าระดับเดียวกันได้ เพื่อให้ผู้นำเข้าสามารถนำไปใช้จำหน่ายและใช้เป็นสินค้าส่งออกต่อได้ต่อไป