ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการขับเคลื่อน Startup Thailand : ฐานเศรษฐกิจใหม่ของไทย ว่า “ประเทศไทยถึงเวลาที่ต้องพัฒนา พร้อมยืนด้วยลำแข้งของตนเอง ดังนั้น นวัตกรรมถือเป็นอีกเครื่องมือที่จะยกระดับเศรษฐกิจประเทศไทยให้ก้าวหน้าได้ รวมทั้ง Startup ของประเทศไทยเช่นกัน ที่มีทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยี ไอที และไอเดียสร้างสรรค์ เพื่อมาวิวัฒนาการเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ในอนาคตจึงต้องการให้เด็กไทยเดินสายวิทยาศาสตร์ให้มากขึ้น เนื่องจากสิ่งนี้คือ อนาคตของประเทศไทย ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ก้าวหน้าได้”
“หลายวันมานี้ คงได้ยินท่านนายกฯ พูดว่า ประเทศไทย 1.0 จริง ๆ แล้วเป็นการเปรียบเปรยถึงการพัฒนาประเทศไทย จนเริ่มเข้าสู่ประเทศไทย 2.0 เริ่มต้นพัฒนาอุตสาหกรรม มีการนำเข้าและส่งออกเพิ่มขึ้น ต่อมากลายเป็น 3.0 เริ่มเน้นวิทยาการใหม่ ๆ แต่ขณะเดียวกันยุคนั้นเราประสบอะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งกรณีวิกฤติการเงิน การเมืองเปลี่ยนแปลง ยุคเศรษฐกิจโลก ถือว่าทุกคนต้องต่อสู้อะไรหลายอย่าง จนมาตอนนี้สัญญาณบอกว่าเริ่มดีขึ้น หากเมื่อเข้าสู่ AEC ประเทศไทยจะมีคอนเน็กที่ดีกว่านี้”
“อนาคตทางเดินคืออะไร ? นี่คือเรื่องใหญ่ที่เราต้องวางรากฐานทางเดิน เพราะทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่การเมืองเพียงอย่างเดียว แต่เราควรช่วยกันวางโครงสร้างเศรษฐกิจร่วมกัน หากรากฐานเศรษฐกิจดี ทุกคนล้วนได้ประโยชน์เหมือนกัน”
“ดังนั้น เวทีที่สำคัญสำหรับการต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ อันดับแรกต้องนำนวัตกรรมเข้ามาส่งเสริม คือ ต้องมีไอเดีย แนวคิดใหม่ ๆ แหวกแนว พร้อมต้องลงทุนในเรื่องเทคโนโลยี ลงทุนด้านไอที และร่วมทำงานกับทีมนักวิจัย เพราะสิ่งเหล่านี้คือ อนาคตของประเทศไทยทั้งสิ้น และเราก็จะสามารถนำนวัตกรรมที่แข็งแกร่งไปแข่งกับเขาได้ อย่ามัวฝากชีวิตไว้กับบริษัทใหญ่ ๆ ที่ทำนวัตกรรมเพียงด้านเดียวไม่ได้ โดยผู้ประกอบการต้องร่วมกันคิดสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาด้วยอีกทาง”
“ฉะนั้น Startup จึงเกิดขึ้นมาจากเทคโนโลยี เป็นธุรกิจเล็ก ๆ ที่มีทักษะ ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นด้านไอที เทคโนโลยี บวกกับไอเดียความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร อาหาร เป็นต้น เราสามารถฟื้นฟูได้ด้วยการนำนวัตกรรมเข้ามาผลักดัน ดังนั้น เป้าหมายนี้ Startup ถือเป็นขาที่แท้จริงในการนำพาเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้า”
“การวางรากฐานไม่ใช่วันนี้จะสำเร็จ ต้องทำไปเรื่อย ๆ สักปีสองปี สุดท้ายขอให้ทุกคนมีกำลังใจ อย่าตึงเครียดกับการเมืองในประเทศให้มากนัก ผมอยากให้สามัคคีกันมากขึ้น และวันนี้ต้องขอบคุณกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทุกหน่วยงานและทุกคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใครที่มาเจองานนี้ ต้องมองดูว่ามีของดีแน่นอน”