เมืองหลวงของอาร์เจนตินาคือ กรุงบัวโนสไอเรส (Buenos Aires Capital Federal) เป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจ การค้า การลงทุน การเงิน และบริษัทข้ามชาติ (MNCs) ธุรกิจด้านการบันเทิง บริการ และการโฆษณา เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ทั้งทางรถ เรือ และราง เป็นต้น และบริเวณรอบ ๆ อุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมอาหาร ฯลฯ
เมืองท่าที่สำคัญ
คอร์โดบา ศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมรถยนต์และธุรกิจการค้า เป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่นและเศรษฐกิจดีเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ
โรซาริโอ ศูนย์กลางด้านการเกษตรกรรม/การค้าระหว่างประเทศ เป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรร้อยละ 80 ส่งออกจากท่าเรือ (inland ports) ของเมืองนี้ เช่น ถั่วเหลือง ธัญพืช ข้าวโพด น้ำตาล เป็นต้น
เมนโดซา ศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว แหล่งการทำเกษตรเพาะปลูกองุ่นและศูนย์กลางการผลิตไวน์ ในปัจจุบันมีการขยายตัวของอุตสาหกรรมการทำเหมืองแร่ เป็นจุดศูนย์กลางการเชื่อมต่อด้านระบบโลจิสติกส์การขนส่งทางบกข้ามเทือกเขาแอนดิส ซึ่งยังไม่มีอุโมงค์เชื่อมระหว่างอาร์เจนตินากับชิลี
ด้านสินค้าเกษตรที่สำคัญของอาร์เจนตินา คือ ถั่วเหลือง (อันดับ 3 ของโลก น้ำมันถั่วเหลืองอันดับ 1) ข้าวโพด (อันดับ 2 โลก) สินค้าเกษตรกลุ่มส้มมะนาว และน้ำผึ้ง (อันดับ 1 ของโลก) ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี เมล็ดทานตะวัน น้ำตาล เป็นต้น นอกจากสินค้าเกษตรแล้ว ยังมีสินค้าส่งออกอื่น ๆ ที่สำคัญของอาร์เจนตินาอีกด้วย ได้แก่ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ วัสดุ/การก่อสร้าง ปุ๋ย เคมี ทองคำ (ร้อยละ 80 ส่งออกไปยังสวิสเซอร์แลนด์) โปแตสเซียม ลิเทียม หินน้ำมัน (ติดระดับโลก) เป็นต้น
สำหรับกลุ่มอัญมณี ได้แก่ โรโดโคไซท์ ซึ่งเป็นหินสีชมพู (คล้ายทับทิม/พลอยไทย) มีเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร ใช้สำหรับทำเครื่องประดับและของตกแต่งบ้านชั้นสูง นอกจากกลุ่มสินค้าข้างต้นแล้ว อาร์เจนตินายังเป็นประเทศที่มีการทำปศุสัตว์ ด้านฟาร์มวัว เนื้อ นม และม้าขนาดใหญ่ มีการเลี้ยงวัวมากกว่า 40 ล้านตัว มีการส่งออกเนื้อและผลิตภัณฑ์ โดยเนื้อสเต็กคุณภาพสูงส่วนใหญ่ส่งออกไปเยอรมัน ภายใต้ฮิลตันโควตาของ EU (อาร์เจนตินาเคยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ด้านเนื้อสเต็ก-สถิติกินเนสฯ)
การค้ากับประเทศไทย
ไทยเป็นคู่ค้าที่สำคัญอันดับ 1 จาก ASEAN ของอาร์เจนตินา โดยไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับที่ 16 มายังตลาดอาร์เจนตินา และเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากอาร์เจนตินามากในอันดับที่ 31 โดยไทยได้เปรียบดุลการค้าอาร์เจนตินาในช่วงปี 2012 ประมาณ 302.28 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแนวโน้มการค้าระหว่างสองประเทศ ได้ขยายตัวมาโดยตลอด ทั้งการนำเข้า-ส่งออก เพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่าตัวในช่วงตลอดระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2009 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีการจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงบัวโนสไอเรสขึ้นเป็นครั้งแรก คาดว่าอาร์เจนตินาจะนำเข้าสินค้าจากไทยตลอดปีนี้จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ
การส่งออกจากไทย
ไทยส่งออกสินค้าไปยังอาร์เจนตินาในปี 2012 มากถึง 948.28 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 32.38 โดยการส่งออกในรอบครึ่งแรกปี 2013 ช่วง 4 เดือนแรก มีมูลค่า 360.62 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 27.84 สินค้าส่งออกจากไทยมายังอาร์เจนตินาที่สำคัญ คือ เครื่องมือเครื่องจักร เครื่องคอมพิวเตอร์ ยานยนต์(กระบะ) และชิ้นส่วน เครื่องรับโทรทัศน์/วิทยุ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลแปรรูป (ทูน่ากระป๋อง) ผลิตภัณฑ์เหล็ก Propylene เฟอร์นิเจอร์ แผงวงจร เป็นต้น
ภาคธุรกิจที่น่าลงทุน
อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมด้านการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ การแปรรูปอาหาร/การเกษตร วัสดุก่อสร้าง อัญมณีและเครื่องประดับ การสำรวจขุดเจาะน้ำมัน ปิโตรเคมีทำเหมืองแร่ เป็นต้น
ภาคบริการ โรงแรม ท่องเที่ยว ภัตตาคาร สปา/นวดไทย อู่ซ่อมรถ เป็นต้น
สินค้าส่งออกไทย ยางพารา คอมเพรสเซอร์สำหรับเครื่องทำความเย็น เครื่องซักผ้า/ซักแห้ง และส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ
นอกจากนี้ ข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ยังได้วิเคราะห์อุปสรรคในการเข้าสู่ธุรกิจในอาร์เจนตินาว่า อาร์เจนตินานั้นมีนโยบายปกป้องอุตสาหกรรม ค่าเงินมีแนวโน้มอ่อนค่า ทำให้การนำเข้ามีต้นทุนสูง ระยะทางระหว่างประเทศไทยและอาร์เจนตินาค่อนข้างไกล ทำให้ต้นทุนด้านโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น ในส่วนของภาษานั้นใช้ภาษาสเปนเป็นหลัก และมีปัญหาด้านเงินเฟ้อ รวมถึงสินค้าไทยยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งสินค้าไทยมีราคาสูงกว่าจีน โดยจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เป็นคู่แข่งที่สำคัญของไทยในอาร์เจนตินา เนื่องจากมีการลงทุนในประเทศดังกล่าวมาอย่างยาวนาน ทำให้สินค้าของทั้งสามประเทศเป็นที่รู้จักมากกว่าของไทย
ทั้งนี้ ด้านโอกาสสำหรับผู้ประกอบการชาวไทย ข้อมูลจากกรมส่งเสริมฯ ยังเปิดเผยอีกว่า ในส่วนของตลาดผู้บริโภคนั้นใกล้เคียงกับชาวไทยอย่างมาก ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถในการใช้จ่ายสูงขึ้น อีกทั้งทรัพยากรทางธรรมชาติยังอยู่ในขั้นที่สมบูรณ์ เช่น เหล็ก ถ่านหิน แร่ธาตุ ต่าง ๆ ธัญพืช และประมง
Bangkok Bank SME มีบริการสินเชื่อเพื่อการส่งออกในหลายผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองทั้งวงจร ท่านสามารถส่งสินค้าขายถึงปลายทางด้วยบริการแบบเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้านทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สายด่วน 1333