นาย Susi Pudjiastuti รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลและประมงอินโดนีเซีย ย้ำว่า แม้ว่าอินโดนีเซียจะเข้าสู่ AEC แล้วก็ตาม แต่การที่จะสนับสนุนนโยบายให้บริษัทต่างชาติ เข้ามาทำธุรกิจในกิจการทางทะเลและประมงภายในอินโดนีเซียนั้น ค่อนข้างจะเป็นเรื่องยาก
“การลงทุนในอุตสาหกรรมกิจการทางทะเลและประมง ถือเป็นการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดผลดีมากนักต่ออินโดนีเซีย ดังนั้นในเร็ว ๆ นี้รัฐบาลอินโดนีเซียจะตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินลงทุน ที่ได้ทุ่มทุนลงไปในอุตสาหกรรมนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินธุรกิจจะถูกต้องตามกฎระเบียบใน AEC” Susi เปิดเผย
นาย Susi เปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่เมือง Kupang ว่า “นักลงทุนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานอื่น ๆ ได้ในอินโดนีเซีย แต่ยกเว้นอุตสาหกรรมกิจการทางทะเลและประมง เพราะต้องการสงวนไว้ให้เป็นธุรกิจของชาวอินโดนีเซียเท่านั้น”
แต่รัฐบาลอินโดนีเซียให้การสนับสนุนนักลงทุนต่างชาติในธุรกิจอื่น ๆ ได้ เช่น กิจการธุรกิจห้องเย็น การผลิตสินค้าจากปลา และธุรกิจทางทะเลอื่น ๆ อย่างการล่องเรือทางทะเล โดยอนุญาตให้สิทธิถือหุ้นได้มากถึงร้อยละ 100 เลยทีเดียว
การที่รัฐบาลอินโดนีเซียออกมาตรการเข้มงวดอย่างมากในอุตสาหกรรมกิจการทางทะเลและประมงนั้น ถูกมองว่าเป็นการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในน่านน้ำอินโดนีเซีย Susi จึงต้องการเรียกร้องให้ชาวประมงท้องถิ่นหลีกเลี่ยงการใช้ระเบิด สารพิษ และลากอวน เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมทางทะเล และอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทางทะเลได้
"เศรษฐกิจอุตสาหกรรมกิจการทางทะเลและประมง มีมูลค่าประมาณร้อยละ 8.96 ในขณะที่ภาคธุรกิจอื่น ๆ มีมูลค่ารวมประมาณร้อยละ 5.4 เท่านั้น จะเห็นว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจจากกิจการทางทะเลและประมง มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของอินโดฯ ค่อนข้างมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องการเห็นชาวประมง ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เขาทำหน้าที่ป้องกันน่านน้ำอินโดฯ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย" นาย Susi เปิดเผยทิ้งท้าย