แหล่งข่าวในการประชุมเพื่อธุรกิจ (IFB) 2016 ในเมืองลิเวอร์พูล สหราชอาณาจักร ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า "อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีศักยภาพและมีความสำคัญในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นศูนย์กลางของการเมืองระดับโลกและเศรษฐกิจด้วย"
สภาธุรกิจอาเซียนในสหราชอาณาจักร (UKABC) และสำนักงานส่งเสริมการลงทุนอินโดนีเซีย (IIPC-BKPM) ในกรุงลอนดอน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาต่าง ๆ ของบริษัทให้เข้าที่เข้าทางขึ้น โดยรัฐบาลอังกฤษให้โอกาสกับบริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาดำเนินกิจการในประเทศตน
การประชุมนี้เกิดขึ้นล่วงหน้าเพียงไม่กี่วัน ก่อน 23 มิถุนายนที่จะถึงนี้ซึ่งเป็นวันที่พลเมืองชาวอังกฤษจะออกเสียงลงคะแนนประชามติ เพื่อตัดสินใจว่าอังกฤษจะยังคงอยู่ในหรือออกจากสหภาพยุโรปหรืออียูหรือไม่ หรือที่เรียกกันว่า Brexit
แต่ภาคธุรกิจในอังกฤษมองว่า Brexit นี้สร้างความวิตกกังวลอย่างมากว่า พลเมืองผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติส่วนใหญ่ อาจจะเลือกให้อังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียู และถึงแม้ว่าพลเมืองเหล่านั้นจะอ้างคำอธิบายถึงสาเหตุนี้ก็ตาม แต่ภาคธุรกิจก็ยังตัดความวิตกกังวลนี้ออกไปไม่ได้ ถ้าอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูจริง ก็ยังมีข้อดี นั่นคือ จะเป็นโอกาสให้นักลงทุนจากทั่วโลก (รวมทั้งอินโดฯ) สามารถเข้ามาดำเนินธุรกิจในอังกฤษได้มากขึ้น
และนี่จึงเป็นโอกาสอันดีงามที่ประเทศในกลุ่ม AEC อย่างอินโดนีเซีย ที่นักลงทุนของเขาเห็นความสำคัญในการก้าวย่างเข้าสู่อังกฤษได้อย่างสบายอกสบายใจมากขึ้น รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนด้วย ที่กำลังจับตามองอย่างไม่กระพริบเช่นกัน