1. ไม่ทุ่มสุดตัว
เวลาเปิดแฟรนไชส์อะไรสักอย่างหนึ่ง ผู้คนมักจะคิดว่าเขาก็แค่ซื้อแฟรนไชส์มา จ้างคน แล้วก็รอรับเงิน ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีอะไรที่จะสะดวกสบาย และง่ายดายได้ขนาดนั้น หลังจากคุณตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์มาแล้ว คุณต้องทุ่มเททุกอย่างที่มี ต้องรู้กระบวนการทุกอย่าง ต้องสามารถจัดการได้ด้วยตัวเองก่อน คุณถึงจะไว้ใจยอมปล่อยมือให้ลูกจ้างดูแลแทนได้
2. สถานที่ไม่อำนวย
ก็เหมือนกับคำสอนที่ว่า “ขยันผิดที่ สิบปีก็ไม่รวย” การทำแฟรนไชส์ก็เหมือนกัน ถ้าคุณมัวแต่ดูชื่อเสียงของร้าน ดูวิธีจัดการ ดูระบบการขาย ดูข้อมูลลูกค้า คุณเตรียมทุกอย่างมาพร้อมหมด แต่แฟรนไชส์ของคุณกลับตั้งอยู่ในที่ห่างไกลผู้คน ถึงจะเป็นร้านที่น่าสนใจ แต่ก็ไม่คุ้มหรือไม่สะดวกพอจะให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการคุณ ดังนั้นสถานที่จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณาในอันดับต้น ๆ
3. เงินทุนไม่พอ
หลาย ๆ คนทนพิษของเงินหมุนไม่ไหว จนถึงกับต้องล้มเลิกแฟรนไชส์ไป ซึ่งตรงจุดนี้เองที่บางคนอาจมองข้าม การทำแฟรนไชส์นั้นต้องใช้เงินหมุนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในตอนเริ่มต้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้ธุรกิจของคุณเกิดปัญหาแบบเดียวกัน เงินทุนของคุณควรจะให้มียอดคงเหลือมากกว่ายอดเงินที่เป็นค่าใช้จ่าย เผื่อเวลาฉุกเฉินจะได้หมุนเงินได้ทัน
4. เจ้าของแบรนด์ไม่สนับสนุน
แฟรนไชส์เกิดจากความสำเร็จของธุรกิจและคน ๆ นั้นก็ได้ตัดสินใจเปิดแฟรนไชส์ธุรกิจนั้น ๆ ขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าคนที่ซื้อแฟรนไชส์ไปจะประสบความสำเร็จตาม เพราะความเป็นมือใหม่ย่อมไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ ที่จะต้องคอยสนับสนุนและช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงของธุรกิจตนเองด้วย
5. ระบบแฟรนไชส์ไม่ค่อยดี
แฟรนไชส์บางประเภทถูกสร้างมาเพื่อให้ตายตั้งแต่ต้น สาเหตุก็เพราะไม่มีทั้งมาตรฐาน ไม่มีแผนการผลิต การจัดจำหน่ายสินค้าไม่ได้คุณภาพ ซึ่งจริง ๆ แล้ว แฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จ หรือแฟรนไชส์ที่ดี ก็จะมีสิ่งเหล่านี้มาให้ทั้งหมด เพื่อให้เจ้าของคนใหม่สามารถเข้าใจในกระบวนการทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย และสามารถเริ่มธุรกิจได้เลย โดยไม่ต้องกังวลกับอะไรอีก