นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตั้งแต่ พ.ร.บ. หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 2 กรกฎาคม 2559 ที่จะถึงนี้เป็นต้นไปนั้น โดยสาระสำคัญของกฎหมายกำหนดให้สถาบันการเงินเป็น “ผู้รับหลักประกัน” และกำหนดให้กรมฯ ทำหน้าที่จดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งกรมฯ ได้ศึกษาข้อมูล หลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติ และแนวทางการรับจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ โดยดำเนินการ ดังนี้
1. จัดประชุมชี้แจงแนวทางการจดทะเบียนตาม พ.ร.บ. หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ให้แก่สถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้รับหลักประกัน ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
2. ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการขอรับหรือยกเลิกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน(Username และ Password) หรือวิธีการยืนยันตัวตนของผู้รับหลักประกันสำหรับการใช้งานระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2559 โดยสถาบันการเงินสามารถขอรับชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน ที่กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ตั้งแต่ วันที่ 13 มิถุนายน 2559 เป็นต้นไป
3. ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2559 ที่จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
4. กฎกระทรวง กำหนดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การตรวจดูรายการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2559
5. กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสถาบันการเงิน (ธนาคาร) ได้ดำเนินการทดสอบระบบแจ้งข้อมูลสัญญาหลักประกันทางธุรกิจเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนปฏิบัติงานจริง
เมื่อกฎหมายดังกล่าวออกมาจะเป็นประโยชน์กับ SME ที่จะสร้างความยืดหยุ่นในการหาหลักทรัพย์มาเป็นหลักประกันทางการเงินกับสถาบันการเงินต่าง ๆ