นาย Trinh Truong Son รองอธิบดีกรมการก่อสร้างบ้านและการจัดการตลาดอสังหาริมทรัพย์เวียดนาม เปิดเผยว่า ร้อยละ 80 ของคนงานในเขตอุตสาหกรรมต้องเช่าบ้านเอง โดยจ่ายค่าเช่าประมาณเดือนละ 300,000-400,000 ด่องเวียดนาม หรือ 13.4-18 เหรียญสหรัฐ
ขณะเดียวกัน บ้านที่เช่าก็มีขนาดเล็กมาก ต้องแออัดกันอยู่ในพื้นที่เฉลี่ย 2-3 ตารางเมตรต่อคน ท่ามกลางระบบสาธารณูปโภคที่ไม่ดี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของแรงงาน อีกทั้งอัตราค่าจ้างที่แรงงานเหล่านี้ได้รับก็มีเพียงน้อยนิด แค่ 4 ล้านด่องเวียดนาม หรือราว 179 เหรียญสหรัฐต่อเดือนเท่านั้น
นาย Kenichi Hashimoto หัวหน้าหน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ได้มีการสำรวจและวิจัยมาแล้วมากกว่า 100 เขตอุตสาหกรรมในเวียดนาม เปิดเผยว่า “ที่อยู่อาศัยของแรงงานใหญ่ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาไม่เหมาะสม อีกทั้งหน่วยงานภาครัฐท้องถิ่นก็แทบจะไม่สามารถช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัยของคนงานเหล่านี้ได้เลย”
ขณะที่ระบบสาธารณสุขและโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่อาศัยที่ไม่ดีของแรงงานเวียดนาม ตามที่ระบุไว้ข้างต้นบทความนั้น ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่อาจจะส่งผลให้เกิดความล้มเหลวของแรงงานที่มีทักษะฝีมือดี ในเขตอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วทั้งเวียดนามได้
มีภาครัฐบางหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าล่าช้ามาก ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันของเวียดนามกับประเทศเพื่อนบ้านนั้นลดลง
หน่วยงานด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยเวียดนาม จึงมีนโยบายจะพัฒนาสังคมที่อยู่อาศัยสำหรับแรงงานเขตอุตสาหกรรมในช่วงปี ค.ศ. 2016-2020 โดยสาระสำคัญได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า แรงงานทั้งชาวเวียดนามและต่างชาติในเวียดนามประมาณร้อยละ 70 ที่ทำงานและพักอาศัยอยู่ในเขตอุตสาหกรรม จะต้องมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ และมีระบบสาธารณูปโภคที่ดีด้วย