แหล่งข่าวจาก Oxford Business Group (OBG) ได้ทำการวิเคราะห์โครงสร้างพื้นฐานและความสมบูรณ์ของแต่ละประเทศ ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในกลุ่ม AEC ได้เปิดเผยถึงกรณีของบรูไนว่า
“การพัฒนาถนนหนทางข้ามพรมแดนประเทศ เส้นทางรถไฟ และการขนส่งทางทะเลนั้น จะช่วยให้การติดต่อด้านการค้าการลงทุนสำเร็จมากขึ้น”
ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์โดยกลุ่ม OBG ยังเปิดเผยอีกว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่เกิดขึ้นล่าสุด เช่น การขยายเครือข่ายถนนหนทาง การสร้างยุทธศาสตร์ทางน้ำ การขนส่งทางอากาศ และการสร้างสะพาน Temburong Bridge ต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจบรูไนให้เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนเองก็มีการพัฒนาธุรกิจด้านโลจิสติกส์มากขึ้น
การพัฒนาทั้งหมดเหล่านี้จะส่งผลให้บรูไน และประเทศที่ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกี่ยวข้องกับกลุ่ม AEC ทั้งหมด ได้รับประโยชน์ด้านเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนขึ้นที่บรูไน ยิ่งจะเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้บรูไนมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น
ปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติเริ่มที่จะยอมรับระบบโลจิสติกส์ที่มีอยู่ในขณะนี้ เพื่อการลงทุนในบรูไนแล้ว ขณะเดียวกันโครงการ Kuala Lumpur Transport Strategic Plan 2016-25 ซึ่งเป็นโครงการขนส่งระดับอาเซียนของมาเลเซีย ที่เชื่อมโยงทุกประเทศในกลุ่ม AEC และมีบรูไนเป็นหนึ่งในกลุ่ม AEC ด้วยนั้น โครงการฯ นี้จะช่วยส่งเสริมความปลอดภัยทางทะเล และยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของบรูไนด้วย
“นอกจากนี้ บรูไนมีนโยบายเปิดน่านฟ้าเสรีเมื่อเดือนมกราคม 2015 ที่ผ่านมา โดยมีการลงสัตยาบันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่บรูไนก็ยังมีความกังวลเรื่องการแข่งขันในธุรกิจโลจิสติกส์อยู่ดี” แหล่งข่าวจาก OBG เปิดเผยทิ้งท้าย