นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท. อยู่ในระหว่างศึกษาวิธีการที่จะเปิดให้มีสนามทดลอง หรือ Regulatory Sandbox ภายใต้การกำกับดูแลผู้ประกอบการที่ให้บริการทางด้านฟินเทค หรือชื่อเต็มคือ Financial technology เพื่อเป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้ฟินเทคต่าง ๆ ได้ทดลองนำเทคโนโลยีใหม่มาประยุกต์ใช้เพื่อให้บริการทางการเงิน
สาเหตุสำคัญที่ ธปท. อยากให้มีสนามทดลองนี้ เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้กับบริการทางการเงิน แต่จะเปิดให้ใช้เฉพาะลูกค้าบางกลุ่มก่อน โดยมีกรอบเวลาและกติกาเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
โดยสนามทดลองของไทยจะมีรูปแบบคล้ายกับ 3 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ เพียงแต่กรอบกติกาของไทยอาจจะไม่เหมือน 3 ประเทศเหล่านี้
แต่ขณะเดียวกันยอมรับว่า ฟินเทคเริ่มที่จะมีความสำคัญต่อระบบการเงินไทย และยังเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของคนไทยที่มากขึ้นด้วย ธปท.จึงมีนโยบายสนับสนุนให้มีผู้ให้บริการฟินเทคในรูปแบบใหม่ ๆ
ทางด้าน นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงข้อเสียของฟินเทคว่า นอกจากจะช่วยสร้างประโยชน์ให้ระบบการเงินแล้ว แต่ยังมีข้อเสียคือ อาจสร้างความเสียหายได้เช่นกันหากไม่ได้ควบคุมและเปิดเผยข้อมูลที่เหมาะสม ขณะนี้ประชาชนจะเห็นรัฐบาลได้นำระบบการชำระเงินแบบอี-เพย์เมนท์มาใช้ นั่นก็ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างของฟินเทค
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟินเทคประสบความสำเร็จแล้วในบางประเทศ ก็คือ การให้ความคุ้มครองดูแลเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการทางการเงิน และให้ความรู้ทางการเงินแก่ผู้บริโภค