ส่วนใหญ่อาหารที่ใช้เลี้ยงสัตว์ปีก สุกร หรือปลา ล้วนเป็นวัตถุดิบที่ให้โปรตีนสูงและผลิตจากเนื้อปลา ในแต่ละปีปลาทะเลถูกล่าขึ้นบกกว่า 15 ล้านตันจะถูกนำไปใช้เพื่อเป็นส่วนผสมอาหารสำเร็จรูปของสัตว์ดังกล่าว นับเป็นส่วนผสมที่มีต้นทนสูง ทั้งด้านราคาและสิ่งแวดล้อม ด้วยข้อครหาของการทำลายสิ่งแวดล้อมและกระบวนการจับปลาอาจมาจากการใช้แรงงานผิดกฎหมาย นั่นเป็นที่มาของการเลี้ยงหนอนแมลงวันที่สตาร์ทอัพหลายรายให้ความสนใจ และอาจมาแทนที่ปลาทะเลได้ในอนาคต
การเลี้ยงหนอนแมลงวันมีต้นทุนที่ไม่สูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก เนื่องจากหนอนแมลงวันถูกเลี้ยงด้วยเศษอาหาร เช่น เศษอาหารจากโรงแรม ภัตาคาร บ้านเรือน ทั้งยังมีต้นทุนต่ำ เกิดปุ๋ยอินทรีย์ สามารถต่อยอดสู่ธุรกิจจัดการและรวบรวมเศษอาหารได้
Protix สตาร์ทอัพจากเนเธอแลนด์ ผู้เพาะเลี้ยงหนอนแมลงวันเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบของอาหารสัตว์ โดยผลิตอาหารให้กับหมู ไก่ และสัตว์เลี้ยง มีแผนจะขยายไปสู่การผลิตอาหารปลาที่กำลังได้รับความนิยมในยุโรปและกำลังเติบโตได้ดี บริษัทแห่งนี้ได้รับเงินทุนกว่า 45 ล้านยูโร เพื่อขยายการผลิตดังกล่าว
เช่นเดียวกับสตาร์ทอัพจากแอฟริกา AgriProtein ที่ได้รับเงินทุนให้เปิดฟาร์มเลี้ยงหนอนแมลงวันกว่า 20 แห่งในสหรัฐอเมริกา ตั้งใกล้บริเวณเมืองใหญ่เพื่อให้สะดวกกับการรวบรวมเศษอาหาร เริ่มแรก บริษัทแห่งนี้ได้ทดลองเลี้ยงหนอนแมลงวันด้วยเศษอาหารจากภัตตาคาร พบว่า หนอนนั้นโตเร็วมาก และไก่ชื่นชอบหนอนแมลงวันมากกว่าอาหารไก่จากปลา
ในประเทศไทย มีการเลี้ยงหนอนเป็นอาหารสัตว์อยู่บ้าง นับว่าน่าสนใจหากจะพัฒนาสู่ธุรกิจเช่นเดียวกับสตาร์อัพในต่างประเทศ หรือนำมาประยุกต์ใช้ในแปลงเกษตรก็ช่วยลดต้นทุนได้ไม่น้อย