ในช่วงก่อนหน้านี้เคยเสนอเรื่อง Internet of Things หรือที่นิยมเรียกว่า IoT กันมาบ้าง เชื่อว่าท่านผู้อ่านพอจะเข้าใจความสำคัญของเจ้า IoT นี้มาพอสมควร ซึ่งจริงๆ เราคุ้นเคยกับคำนี้มาสักระยะในกลุ่มที่เรียกว่า ‘Smart’ เพราะด้วยการที่ระบบอินเตอร์เน็ตที่ Everything สามารถเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายในการดำเนินการต่างๆ ซึ่งในการจัดการระบบเมืองและที่อยู่อาศัยมีการนำ IoT มาใช้ เราเรียกมันว่า Smart City และแน่นอนว่าเราได้ยินคำนี้บ่อยเช่นกัน แต่ที่ยังไม่กระจ่างคือมันดียังไง เว่อวังอลังการงานช้างแค่ไหน แล้วเจ้า IoT มันจะมาตอบโจทย์อย่างไร เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน
ก่อนอื่นเท้าความเดิมกันก่อน เจ้า IoT คือ ระบบโครงข่ายที่รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลายชนิด ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์โครงข่าย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เซนเซอร์ และ วัตถุต่างๆ เข้าด้วยกัน อันเป็นผลให้ระบบต่างๆสามารถติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นอัตโนมัติทั้ง ยังเป็นผลให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลายยิ่งขึ้น ควบคุมอุปกรณ์และระบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การใช้เทคโนโลยี IoTกับการจัดการเมืองสู่ Smart City
การนำ IoT ทำใช้ในการจัดการเมืองที่สามารถเก็บข้อมูลของสินทรัพย์ในเมืองได้แทบทุกอย่าง ตั้งแต่ไฟจราจร ระบบไฟฟ้า ระบบประปา สาธารณูปโภคต่างๆ ไปจนถึงจุดเล็กๆอย่างหลุมบ่อที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนน ซึ่งการนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ช่วยให้เมืองสามารถแก้ไขปัญหา วางแผน กำหนดนโยบาย และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงประเด็นมากขึ้น ยิ่งในยุคปัจจุบันการนำข้อมูลมาใช้นั้นไม่ใช่เพียงการวิเคราะห์เรื่องราวในอดีต แต่ยังสามารถทำนายไปได้ถึงอนาคตแล้ว ข้อมูลที่ได้จาก IoT จึงทำให้เมืองสามารถดำเนินการได้อย่างชาญฉลาด ป้องกันความเสี่ยง และลดความไม่พอใจของผู้อยู่อาศัยไปได้ คนไทยใช้คำว่า ‘เมืองอัจฉริยะ’
ในด้านของความปลอดภัย สามารถจับตาสถานการณ์และเฝ้าระวังต่างๆที่เมืองได้รับจากการใช้เทคโนโลยี IoT จะทำให้การประสานงานรักษาความปลอดภัยและหน่วยฉุกเฉินเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เครือข่ายที่เชื่อมต่อกันหมด ทั้งจะเผยให้เห็นถึงข้อมูลที่อาจถูกมองข้าม เช่น ระดับของมลพิษ PM2.5 ภายในตัวเมือง, คุณภาพของน้ำประปา และยังเป็นรากฐานให้กับเทคโนโลยีอื่นๆในอนาคต เช่น พาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่เป็นที่รู้กันดีว่าจะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมาก
ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่หลากหลายเข้ากับโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเปิดโอกาสให้มีการประยุกต์ใช้งานที่หลากหลายและกว้างขวางมาก โดยรูปแบบการเชื่อมต่ออุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆ จำนวนมากเข้า กับโครงข่าย จะช่วยให้สามารถตรวจวัดข้อมูลที่หลากประเภทประเภทได้เป็นจำนวนมาก และช่วยให้สามารถนำ ข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และแสดงผลแบบกราฟิกเพื่อช่วยในการตัดสินใจได้เมื่อนำระบบดังกล่าวผนวกเข้ากับ ระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่เรียกว่า ‘Big Data’ ที่จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความซับซ้อนจำนวนมาก และ ทันเหตุการณ์ (real-time)
แน่นอนว่าเมื่อเราเข้าถึง Big Data ได้สะดวกและ real-time ทำให้สามารถประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าได้ ยิ่งทำให้การตัดสินใจเป็นได้ง่ายขึ้นและชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น อย่างกรณีคลาสสิกเช่น การใช้ IoT เพื่อบอกสถานะของที่จอดรถต่างๆภายในเมืองมีจุดจอดตรงไหนว่างบ้าง ที่ยังคงได้รับความนิยมและได้ผลอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรื่องง่ายๆอย่างการติดตั้ง Wi-Fi ฟรีภายในเมืองและตู้ kiosk ที่บอกถึงข่าวสารข้อมูลต่างๆภายในเมืองก็เป็นอีกเคสที่ได้เมืองใหญ่ต่างๆ ทั่งโลกหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น
ที่สำคัญ เมื่อมีเทคโนโลยี IoT เข้ามาการสื่อสารภายในชุมชนก็มีรูปแบบที่เปลี่ยนไป Kiosk ที่ทำงานได้สารพัดประโยชน์จะมีบทบาทมากขึ้น เช่น ตรวจสอบสภาพการจราจร เช็คตารางรถ ซึ่งมีฟีเจอร์เรื่อยไปถึงการแจ้งข่าวสารภายในชุมชน และการประชาสัมพันธ์ธุรกิจท้องถิ่น จะกลายมาเป็นบอร์ดประชาสัมพันธ์ชนิดใหม่ที่สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่อาศัยและชุมชนมากขึ้น
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเสี้ยวในการใช้ IoT ในการจัดการระบบและการเชื่อมต่อสือสารภายในเมือง ในครั้งต่อไปจะนำเสนอข้อมูลที่ลงลึกไปกว่านี้ เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ค่อยๆ อิน ไปกับความง่ายดายในการนำ IoT มาเป็นเครื่องมือในการจัดการเมืองที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกได้พัฒนาด้านนี้กันมากแล้ว
ในขณะที่ประเทศไทย เป้าหมายในการขับเคลื่อน Smart city แนวทางการพัฒนาเมืองเพื่อการอยู่อาศัยในอนาคต ยังคงเป็นแค่ภาพรางๆ แต่ก็ถือว่ามีทิศทางที่น่ายินดี เพราะภายใต้การขับเคลื่อนนโยบาย ‘Thailand 4.0’ การพัฒนาเมืองไปสู่การเป็น Smart City แม้จะกระจุกอยู่ในเมืองอุตสาหกรรมแต่ก็นับเป็นต้นแบบให้เมืองอื่นๆ นำมาปรับใช้ได้ คงต้องรอดูว่าประเทศไทยจะนำ IoT มาเปลี่ยนโฉมเมืองในอนาคตอย่างไร ...
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333