EV Conversion แปลงรถยนต์ใช้น้ำมันคันเดิมสู่รถยนต์ EV โอกาส SME ต่อยอดธุรกิจแห่งอนาคต

SME Update
28/06/2023
รับชมแล้วทั้งหมด 9354 คน
EV Conversion แปลงรถยนต์ใช้น้ำมันคันเดิมสู่รถยนต์ EV โอกาส SME ต่อยอดธุรกิจแห่งอนาคต
banner
ปัจจุบันประเทศไทยมีรถยนต์สันดาปหรือใช้น้ำมันราว 40 ล้านคัน ที่มีปัญหามากเนื่องจากเป็นตัวปล่อยคาร์บอนสูง ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาแพง ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ คือการสนับสนุนอุตสาหกรรม EV conversion หรือ รถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ด้วยการนำรถยนต์เครื่องยนต์ใช้น้ำมันคันเดิมมาปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้เป็นระบบไฟฟ้า 

ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยต้นทุนที่ถูกแล้ว ยังช่วยกลุ่มอาชีพผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) รถฟู้ดทรัค รวมถึงรถบริการขนส่งสินค้าให้มีกำไรมากขึ้น เพราะต้นทุนการใช้พลังงานถูกลง อีกทั้งยังเป็นการสร้างเศรษฐกิจฐานราก ทำให้อู่ซ่อมรถยนต์หรือผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายเล็ก ๆ ที่ยังไม่พร้อมก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า หันมาให้บริการติดตั้งเครื่องยนต์ไฟฟ้าเพื่อสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง



ทำไมถึงต้องมี อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง

อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยมีผู้ใช้รถยนต์สันดาปหรือรถที่ใช้น้ำมันอย่างมหาศาล ที่เป็นตัวการสำคัญในการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ายังคงมีราคาแพง ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่การจะเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปหรือรถใช้น้ำมันไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าแบบฉับพลัน อาจจะกลายเป็นการดิสรัปต์อุตสาหกรรมรถยนต์สันดาป ส่งผลให้ซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมนี้ปรับตัวไม่ทันภายในเวลาอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อู่ซ่อมรถยนต์ ขณะที่ราคารถยนต์ไฟฟ้ายังค่อนข้างสูง สร้างอุปสรรคต่อกำลังซื้อในภาคประชาชน
 
ทั้งนี้ หากสามารถ Transforms การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง หรือ EV conversion ให้คนสามารถนำรถยนต์เก่ามาเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ไฟฟ้าได้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง จะมีเวลาปรับตัวอย่างน้อย 5-10 ปี เพื่อเข้าสู่ซัพพลายเชนยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ อุตสาหกรรม EV conversion ยังทำให้เกิดซัพพลายเชน และผู้ประกอบการในระบบจำนวนมาก สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนหลายแสนล้านบาทต่อปี



EV conversion คืออะไร?

“EV conversion” หรือ อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง คือ การนำรถยนต์เก่าที่ใช้น้ำมัน มาเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนใหม่ เพื่อเปลี่ยนจากการเติมน้ำมันมาเป็นระบบไฟฟ้า 100% โดยเปลี่ยนทั้งเทคโนโลยีที่ใช้จำนวนชิ้นส่วนจากชิ้นส่วนรถน้ำมัน 30,000 ชิ้น เมื่อเป็น EV จะลดลงเหลือเพียง 3,000 ชิ้น 



อยากเปลี่ยนรถยนต์ เป็นรถ EV ต้องใช้งบเท่าไหร่

สำหรับ EV conversion เครื่องยนต์ที่สำคัญจะอยู่ที่ EV Kit หรือชุดมอเตอร์และระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง โดยมีราคาตั้งแต่ 300,000 - 800,000 บาทขึ้นไป แล้วแต่รุ่นรถยนต์และอุปกรณ์ชิ้นส่วน ซึ่งถือว่าสูงมากหากเทียบกับผลสำรวจที่พบว่า ผู้ใช้งานมีกำลังทรัพย์ในการเปลี่ยนรถยนต์เป็น EV conversion ไม่เกิน 300,000 บาท เท่านั้น 



จุดคุ้มทุน 

สำหรับความคุ้มค่าของการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้า พบว่ารถเล็กสี่ล้อสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับน้ำมันได้ดีกว่ารถใหญ่ขนาดหกล้อและสิบล้อ ซึ่งอุตสาหกรรม EV conversion ควรมุ่งเน้นไปที่ Niche market ที่เป็น Commercial vehicle เนื่องจากมี Demand และคุ้มค่าต่อต้นทุนการ Conversion มากกว่า 

โดยราคาที่เหมาะสม (Optimum price) ในปัจจุบันควรอยู่ที่ไม่เกิน 300,000 บาทต่อคัน พิจารณาจากการที่รถกระบะทั่วประเทศอายุ 10 ปีขึ้นไป มีประมาณ 4 ล้านคัน ถ้าสามารถนำมา Conversion เพียง 10% ( 4 แสนคัน) จะเกิดเงินหมุนเวียนในประเทศกว่า 120,000 ล้านบาท ไปยังผู้ผลิตชิ้นส่วนและอู่รถทั่วประเทศ ทั้งยังลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยมลภาวะได้อย่างมาก

ขณะที่ ผศ.ดร.ปฐพีพัฒน์ เตชะลิ่มสกุล ประธานหลักสูตรวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และระบบอัตโนมัติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผู้คร่ำหวอดในวงการรถยนต์ไฟฟ้ามากว่า 20 ปี ระบุว่า หากคำนวณจากค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้าในขณะนี้ อาจต่างกัน 9-10 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายระหว่างรถ EV กับรถน้ำมัน รถ EV จะประหยัดลง 300,000 บาท ใน 1 แสนกิโลเมตร เป็นเหตุผลว่าทำไมจำนวนรถยนต์ EV ในไทยจึงสูงขึ้น และได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถจนมียอดจองอย่างก้าวกระโดด



ภาครัฐผลักดันมาตรฐานรถ EV Conversion

มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจเริ่มสนใจ EV Conversion แต่อาจจะยังกังวลและตั้งคำถามในใจว่า แล้วรถยนต์ดัดแปลงแบบนี้จะปลอดภัยและขับได้ ไม่ผิดกฎหมายจริงหรือ? 

แน่นอนว่าการสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรม EV conversion จำเป็นต้องมีการออกมาตรฐานรับรองว่า อู่ซ่อมรถ หรือ ผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์รายย่อย หรือ SME เป็นผู้ให้บริการที่มีมาตรฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค 

ด้วยเหตุนี้ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) จึงได้มีการพิจารณามาตรการขับเคลื่อนการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งเป็นรถยนต์กลุ่มใหญ่ของประเทศ ให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) ได้ โดยวันที่ 2 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ได้มีมติให้กระทรวงอุตสาหกรรมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง (EV Conversion) ภายใต้บอร์ด EV ซึ่งประกอบไปด้วย 29 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยมีสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้กำหนดแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ได้แก่ รถยนต์ รถกระบะ รถจักรยานยนต์ รถสามล้อ รถโดยสาร รถบรรทุก เรือ รถไฟไฟฟ้า และชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศให้แข่งขันได้ จัดทำมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง 

รวมถึงพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงและชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการเปลี่ยนผ่านการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน

ด้านเลขาธิการ สมอ. ระบุด้วยว่า สมอ. ได้จัดทำมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องยานยนต์ไฟฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการจัดทำมาตรฐาน ซึ่งมีทั้งที่อยู่ระหว่างการจัดทำและประกาศใช้แล้ว รวมจำนวน 138 มาตรฐาน เช่น สถานีชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้า จักรยานยนต์ไฟฟ้า รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ระบบการสื่อสารระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับโครงข่ายไฟฟ้า เป็นต้น และล่าสุดมี 3 มาตรฐานที่อยู่ระหว่างดำเนินการเป็นมาตรฐานบังคับ ได้แก่ สถานีชาร์จ แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และการป้องกันผู้โดยสารเมื่อเกิดการชนจากด้านหน้าและด้านข้าง

โดยขณะนี้ สมอ. อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ได้แก่ ชุดชิ้นส่วนสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง นอกจากนี้ ยังได้จัดทำมาตรฐานอุตสาหกรรมเอสสำหรับผู้ประกอบการ SME จำนวน 2 มาตรฐาน ได้แก่ การบริการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้า มอก. เอส 221-2566 มีผู้ประกอบการยื่นขอการรับรองแล้ว จำนวน 3 ราย และการบริการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มอก. เอส 222-2566 อีก 1 รายซึ่งมาตรฐานของ สมอ. จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลกได้ในอนาคต



อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างไร?

จากเดิมประชาชนมี 2 ทางเลือก คือ ซื้อรถน้ำมันใหม่ หรือเปลี่ยนเป็นรถ EV เลย รถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง หรือ EV conversion  จึงเป็นตรงกลางที่ทำให้รถน้ำมันคันเดิมแต่กลายเป็นรถ EV ในราคาที่เอื้อมถึง นอกจากนี้ ยังสานฝันคนรักรถเก่าที่สามารถนำรถมาปรับโฉมอัปเดทเทคโนโลยีจนวิ่งได้เหมือนรถใหม่ 



ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงจะช่วยแก้ปัญหาทั้งอุปสงค์และอุปทาน ได้ดังนี้
1) วิกฤติค่าพลังงานเชื้อเพลิงราคาสูง จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ถึง 5 เท่า
2) ประหยัดค่าซ่อมรถ 15 เท่าต่อปี
3) ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากขึ้น
4) ประเทศไทยมีผู้ประกอบการ Tier 3 จำนวนกว่า 2,000 บริษัทที่ไม่มีเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้า ขาดเครื่องมือในการเปลี่ยนผ่านเสี่ยงต่อการปิดตัวลง
5) ประเทศไทยมีผู้ประกอบการอู่ซ่อมรถ 20,000 อู่ที่จดทะเบียน 50,000 อู่ที่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งอู่เหล่านี้ซ่อมรถไฟฟ้าไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนผ่านฉับพลันจะทำให้พวกเขาตกงาน 



EV Conversion จะเป็นโอกาสของ SME ได้อย่างไร 

อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง จะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการอู่รถยนต์ในการพัฒนาเทคโนโลยี ต่อยอดธุรกิจได้ในอนาคต รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนเกี่ยวกับรถไฟฟ้ามีตลาดเพิ่มขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่



1. กลุ่ม Battery อุตสาหกรรมแบตเตอรี่มีความสำคัญต่อการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า โดยมีผู้ผลิตแบตเตอรี่ 2 กลุ่ม คือ 1) ผลิต Battery Cells ขึ้นเองในประเทศ และนำมาผลิต Battery Pack ซึ่งมีผู้ประกอบการในประเทศทำได้เพียง 1-2 รายในปัจจุบัน และ 2) นำเข้า Battery Cells มาจากต่างประเทศ และนำมาผลิต Battery Pack มีผู้ประกอบการในประเทศ ไม่น้อยกว่า 5 ราย ที่มีศักยภาพผลิตได้ในระดับอุตสาหกรรม

สำหรับ Battery Pack เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญที่ไทยมีโอกาสสูง เนื่องจากมีผลิตเพื่อ Supply ให้รถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงและรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ และมีตลาดผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์ เช่น รถบัส, รถกระบะ, รถบรรทุก, รถจักรยานยนต์ ดังนั้น ควรมีการสนับสนุนทุนวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ไทยสามารถออกแบบและผลิต Battery Pack ได้เอง และมีกระบวนการทดสอบให้มีคุณภาพมาตรฐานสูงขึ้น ในราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้



2. กลุ่ม EV Conversion การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง โดยการใช้โครงรถเดิมและเปลี่ยนระบบ
ขับเคลื่อนเป็นไฟฟ้าเพื่อสร้าง Demand/Local Content ในประเทศให้สูงขึ้น ให้เกิดอุตสาหกรรม Battery/
Battery Pack และ Parts/components ให้มีราคาถูกลงทำให้แข่งขันได้



3. กลุ่ม EV New Design เมื่อเรามีความชำนาญมากพอก็สามารถต่อยอดสู่การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าใหม่ทั้งคัน โดยการพัฒนาออกแบบตัวรถเอง และนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบภายในประเทศ

คาดว่าความต้องการอะไหล่ที่มีราคาไม่แพงในตลาดหลังการขายของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ซึ่งไทยมีศักยภาพที่สามารถผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ได้



กรณีตัวอย่างผู้ประกอบการ EV conversion ที่มีมาตรฐานรองรับขับได้ถูกกฎหมายแน่นอน

ปัจจุบันมีกลุ่มผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพิ่มขึ้นหลายราย แต่มีหนึ่งรายที่หลายคนรู้จักกันดี เป็นตัวอย่างของการปรับตัวธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์โลกแห่งอนาคตได้เป็นอย่างดี นั่นคือ บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ผู้ผลิตและประกอบรถยนต์ รถพ่วง รถกึ่งพ่วง รถเพื่อการขนส่งรายใหญ่ของประเทศ ที่เห็นกันมากมายบนท้องถนน ที่วันนี้ได้ปรับเปลี่ยนตัวเองจากรถยนต์สันดาปปล่อยมลพิษ สู่รถบรรทุกไฟฟ้าพลังงานสะอาด สามารถวิ่งได้มากกว่า 200 กิโลเมตร  ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง โดยระยะทางที่แจ้งนี้ เกิดจากการทดสอบขณะที่รถบรรทุกน้ำหนัก 25 ตัน ที่การขับขี่บนถนนปกติ 

ทั้งนี้ สามารถทำความเร็วได้ที่ 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 112 นาที  สำหรับอายุแบตเตอรี่ ประมาณ 8 ปี หรือ ประมาณ 3,000 cycles 



สำหรับรถบรรทุก ราคาค่าดัดแปลงพร้อมเครื่องยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ที่ความจุ 200 kW ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งถูกกว่าถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับราคารถบรรทุกไฟฟ้าใหม่ ที่ราคาสูงถึง 5.99 ล้านบาท ส่วนรถปิกอัพ ราคาประมาณ 7 แสนบาท รวมแบตเตอรี่  ขณะที่รถปิกอัพไฟฟ้าใหม่ ราคาอยู่ที่ 1.55 ล้านบาท

สะท้อนให้เห็นว่า หากเรานำรถเก่าที่มีอยู่แล้ว มาดัดแปลงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าได้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ไม่ต้องสร้างภาระทางการเงิน แม้การดัดแปลงรถยนต์จากระบบสันดาปใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนมาเป็นระบบไฟฟ้าอาจยังมีค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับการซื้อรถใหม่ถือว่าถูกกว่ามาก ขณะเดียวกันยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ช่วยเหลือผู้ประกอบการต่าง ๆ ในซัพพลายเชนให้มีเวลาปรับตัว เปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ใช้น้ำมันไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า และที่สำคัญช่วยลดมลพิษได้อย่างมหาศาลเพื่อก้าวสู่สังคมไร้คาร์บอนที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้นในเร็ววัน



แนวโน้มธุรกิจ EV Conversion ในอนาคต

ที่ผ่านมา ประเทศไทยให้ความสำคัญในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และมีความพยายามที่จะลดอุณหภูมิลง รวมถึงมีการประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2065

จึงเป็นสาเหตุที่ต้องผลักดันให้คนหันมาใช้รถ EV เนื่องจากต้องการสนับสนุนพลังงานสะอาดเพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โดยงานวิจัยเผยว่าฝุ่น PM 2.5 ประมาณ 65-70% เกิดจากมลพิษที่มาจากรถยนต์ นอกจากนี้รถยนต์ 1 คันปล่อยคาร์บอนเฉลี่ย 800,000 ตันต่อปี หากเปลี่ยนเป็นรถ EV ได้ 100,000 คันในอนาคต ก็สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 800,000 ตันต่อปี

ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะการจะบรรลุเป้าหมายได้ ทุกภาคส่วนต้องเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด รวมถึงภาคส่วนคมนาคมด้วย โดยในปี 2025 มีข้อมูลว่าราคารถยนต์น้ำมันจะแพงกว่ารถยนต์ไฟฟ้า ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความสนใจมากขึ้น ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัวตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ทันเทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยได้ประกาศจะเป็น ASEAN EV-Hub รวมถึงกำหนดว่าในปี 2030 จะมีรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Zero Emission Vehicle: ZEV) ที่มีการผลิตขึ้นภายในประเทศถึงร้อยละ 30 หรือคิดเป็นจำนวน 6-7 แสนคันต่อปี ซึ่งสัดส่วนในการผลิตรถไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ดังนั้นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ต้องพร้อมเปลี่ยนแปลง หากมีการวางแผนที่ดีจะสามารถยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการเดิมให้สามารถเดินต่อไปได้ เป็นที่มาของโครงการ รถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง (EV Conversion) ที่จะช่วยยกระดับความสามารถของผู้ประกอบการไทยได้อีกทางหนึ่ง

ขณะที่ปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการอยู่หลายกลุ่ม ทั้งผู้ประกอบการเดิม ผู้ประกอบการใหม่ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ รวมถึงผู้ประกอบการต่างชาติรายใหม่ ตลาดในอนาคตจึงมีแนวโน้มเข้มข้นและรุนแรงมากกว่าในปัจจุบัน รวมถึงผู้ประกอบการไทยหลายบริษัท เริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบดัดแปลงและแบบใหม่มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การที่จะทำให้ผู้ประกอบใหม่เหล่านี้สามารถแข่งขันได้นั้น จะต้องให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่การพัฒนาต้นแบบ แต่ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้เข้าสู่การผลิตในเชิงปริมาณ ในราคาที่สามารถแข่งขันกับรถที่นำเข้าจากต่างประเทศได้ เป็นโจทย์ที่ต้องวางแผนและต้องคิดกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการขับเคลื่อน

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่า นี่คือโอกาสที่ผู้ประกอบการ SME ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ หรือ อู่ซ่อมรถ จำนวนมากในประเทศ จะได้พัฒนาศักยภาพธุรกิจ และมีเวลาปรับตัวเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต หากพัฒนาจนได้รับการรับรองมาตรฐานการบริการดัดแปลงรถไฟฟ้า จะสามารถสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจดัดแปลงรถยนต์สันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV Conversion) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อ้างอิง
สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)https://www.nxpo.or.th/th/14430/
https://www.nxpo.or.th/th/14653/
ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
https://www.gcc.go.th/?p=93586
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน
https://dmf.go.th/public/list/data/detail/id/18400/menu/593
https://www.salika.co/2022/03/13/ev-conversion-new-thailand-ev-industry/
https://www.prachachat.net/d-life/news-1282373?fbclid=IwAR2v7T4w5W5FJQ2aQhO3zkHQRsKvGCgBXVq8IH_2d_tgoaOw_eA_wOj6OCU
https://www.teched.rmutt.ac.th/?p=97857

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ส่องอนาคต ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ ทำไม? ถึงกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของไทย ไปสู่ Net Zero ไวขึ้น

ส่องอนาคต ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ ทำไม? ถึงกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของไทย ไปสู่ Net Zero ไวขึ้น

ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีโจทย์สำคัญต้องเร่งแก้ นั่นคือ ภาวะโลกเดือด และปัญหาด้านพลังงาน ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง เป็นปัญหาใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงกัน…
pin
34 | 15/12/2024
8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

กลยุทธ์ Festive Marketing คืออะไร?Festive Marketing หรือการตลาดช่วงเทศกาล เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างแคมเปญและกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลต่าง…
pin
30 | 13/12/2024
พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะลูมิเนียมไทย ให้คาร์บอนต่ำ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมสีเขียว

พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะลูมิเนียมไทย ให้คาร์บอนต่ำ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมสีเขียว

วิกฤตการณ์สภาพภูมิอากาศโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ กำลังส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เร่งให้เกิดภาวะโลกร้อนคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูงอย่างอุตสาหกรรมโลหะ…
pin
38 | 07/12/2024
EV Conversion แปลงรถยนต์ใช้น้ำมันคันเดิมสู่รถยนต์ EV โอกาส SME ต่อยอดธุรกิจแห่งอนาคต