ประเด็นที่น่าติดตามกรณีที่ นายลี้ ชี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง กล่าวในงานสัมมนาความร่วมมือเศรษฐกิจการค้า จีน (กวางตุ้ง) -ไทย ว่า การนำจากมณฑลกวางตุ้งเกือบ 200 คน เข้ามาหาช่องทางการลงทุนในเขตอีอีซี มณฑลกวางตุ้งนับเป็นเมืองการค้าและการส่งออกอันดับ 1 ของจีน เป็นเมืองที่มีการพัฒนารองรับอุตสาหกรรม สมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ด้านวิทยาศาสตร์ หุ่นยนต์ผลิต การใช้ระบบไอที เน้นการลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) สูงที่สุดในจีน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
โดยจีนขอเสนอ 5
ด้านในการกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน
ประกอบด้วย
1.
กระชับความสัมพันธ์นโยบายกลุ่มประเทศ GBA มายังไทย
2. ขยายความร่วมมือการลงทุนไทยในจีน
755 โครงการ และกวางตุ้งลงทุนในไทย 113 โครงการ
3.การยกระดับการค้า การลงทุน
ในด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่ E-Commerce ส่งเสริมการพัฒนาระบบ
5 จี
4. ความร่วมมือส่งเสริมด้านประมง
เกษตร การใช้จ่ายในชนบท
5. การขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว
จากปัจจุบันจีนเดินทางมาเที่ยวไทยในปี 61 จำนวน 1.5 ล้านคน
ให้เดินทางมาเที่ยวเพิ่มขึ้น
ที่น่าสนใจคือ เศรษฐกิจของมณฑลกวางตุ้ง (จีดีพี) มูลค่าสูงถึง 1.45 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 10.8 ต่อปีในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา นับเป็นมณฑลที่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้ามากที่สุดติดต่อกันกว่า 33 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 เป็นต้นมา รวมทั้งเป็นมณฑลที่มีการบริโภคสินค้าและบริการสูงที่สุดของจีนติดต่อกัน 36 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 เป็นต้นมา ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 86,412 หยวน/ปี
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไทยขอรับ 5 ข้อเสนอจากมณฑลกวางตุ้งในครั้งนี้
เพื่อสานต่อโยมนโยบายให้ต่อเนื่อง
พร้อมมุ่งเน้นกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทย และส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง
ไทย-กวางตุ้ง หวัง เชื่อมโยงนโยบาย Belt
and Road Initiative (BRI) เชื่อม กับ Greater Bay Area: GBA (กวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า)
เชื่อมต่อกับอาเซียนมายังเขต EEC ของไทย
ทั้งเป็นจังหวะอันดีไทยเป็นประธานอาเซียนซัมมิท
กวางตุ้งเป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่
จึงเป็นข้อต่อสำคัญเชื่อมต่อกับไทยไปยังอาเซียน
นับว่า การเชื่อมโยงประชาชนระหว่างอนุภูมิภาค
ด้วยการใช้มณฑลกวางต้นเป็นหัวหอกในการเชื่อมนโยบาย GBA กับอาเซียน
ที่สำคัญกวางตุ้งเป็นแหล่งกำเนินผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ
ผู้ประกอบการสมัยใหม่จำนวนมาก
กวางตุ้งจึงเป็นมณฑลสำคัญอย่างมากและยินดีที่มาเยือนไทยเป็นชาติแรก
นับเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการมาเยือนในครั้งนี้ อาเซียนมีการเติบโตร้อยละ 6-8
ต่อปี มีความพร้อมทั้งแรงงาน เครือข่ายอุตสาหกรรม ขณะที่กลุ่มประเทศ RCEP (ได้แก่ จีน
ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) กำลังเจรจาเพิ่มมูลค่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และกลุ่ม CLMVT โดยมีไทยเป็นศูนย์กลาง
คาดว่าความร่วมมือครั้งนี้ทำให้การค้าการลงทุนสองประเทศแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
เพื่อให้พี่ข้ามทะเลมาช่วยน้องไม่ใช่มารังแกน้อง
เพราะเป็นความสัมพันธ์การค้าเชิงพี่น้องสายเลือดเดียวกันจากชาวจีนโพ้นทะเลกวางตุ้ง
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า เมื่อเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์พานักลงทุนเดินทางมาครั้งนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ไทย-จีน เพราะการนัดเจรจาธุรกิจครั้งนี้จะสรุปชัดเจนบรรลุการลงทุนร่วมกันนับ 100 ราย หลังจากได้เจรจาเบื้องต้นไปแล้ว คาดว่าเกิดการลงทุนเพิ่มเติมนับแสนล้านบาทในอนาคต โดยเฉพาะในเขตอีอีซี และ ท่ามกลางสงครามเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ จะทำให้นักลงทุนจีนย้ายฐานการลงทุนในไทยมากขึ้น