การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 หรือโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตของผู้คนในวงกว้าง เกิดพฤติกรรมใหม่ที่เรียกว่า
“New normal” เช่น การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ อุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ
มีความต้องการใช้สูง
จึงถือเป็นโอกาสสำหรับลงทุนในอุตสาหกรรมการแพทย์และชิ้นส่วนอุปกรณ์เพื่อใช้ในวงการแพทย์
และประชาชนทั่วไป
เมื่อเร็วๆ นี้ การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ ได้เห็นชอบมาตรการเร่งรัดการลงทุนในอุตสาหกรรมการแพทย์และชิ้นส่วน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนอย่างรวดเร็ว สนองต่อความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในสถานการณ์ปัจจุบัน และส่งเสริมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสุขอนามัยที่ดีของประชาชนในประเทศ โดยให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมหลายด้าน ดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. มาตรการเร่งรัดการลงทุนในอุตสาหกรรมทางการแพทย์เพื่อรับมือกับโควิด-19
โดยให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ
50 เป็นเวลา 3 ปี ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมทางการแพทย์
ซึ่งปกติจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3-8 ปี อยู่แล้ว
เช่น การผลิตเครื่องมือแพทย์หรือชิ้นส่วน วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึง Non-
Woven Fabric ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
ชุดตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ยาและสารออกฤทธิ์สำคัญในยา เป็นต้น
ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมลงทุนได้ตั้งแต่วันที่
1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2563 และต้องเริ่มผลิตและมีรายได้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม
2563 โดยจะต้องจำหน่ายและหรือบริจาคภายในประเทศอย่างน้อยร้อยละ 50
ของปริมาณที่ผลิตได้ในปี 2563-2564
2.
มาตรการสนับสนุนการปรับเปลี่ยนสายการผลิตเดิมเพื่อผลิตเครื่องมือแพทย์หรือชิ้นส่วน
รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์
โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร โดยต้องนำเข้าภายในปี 2563
และยื่นขอแก้ไขโครงการภายในเดือนกันยายน 2563
3. การปรับสิทธิประโยชน์สำหรับกิจการผลิตวัตถุดิบที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต้นน้ำและกลางน้ำในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ โดยเพิ่มเติมขอบข่ายประเภทกิจการผลิตเชื้อเพลิงจากผลผลิตการเกษตรให้ครอบคลุมถึงการผลิตแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ (Pharmaceutical Grade) ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ให้กิจการผลิต Non- Woven Fabric ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์การแพทย์ จากเดิมยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี เป็น 5 ปี
สำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมนี่จะเป็นโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมการแพทย์
และเชื่อว่าจากมาตรการและระบบสาธารณสุขของไทยที่เข้มแข็งในการรับมือกับโควิด-19 ครั้งนี้
จะตอกย้ำภาพลักษรณ์การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการแพทย์ หรือ เมดิคัล
ฮับในประเทศไทย