แนวโน้มดี! ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องเดือนที่ 2
ภายหลังจากที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
(MPI)
นับตั้งแต่ปี 2563 ที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
แต่ล่าสุดนับว่าเริ่มมีข่าวดีตั้งแต่ต้นปี โดยดัชนี MPI เดือนมกราคม 2564 ได้ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563
อยู่ที่ระดับ 101.82 และอัตราการใช้กำลังการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับร้อยละ
66.41 ทำให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนแรกของปี 2564 กลับมามีแนวโน้มขยายตัว
เนื่องจากความเชื่อมั่นในการจัดหาและบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19
ที่ล็อตแรกได้จัดส่งถึงประเทศไทยแล้ว และจะเริ่มฉีดเข็มแรกโดยเร็วที่สุด
ตามแผนการกระจายวัคซีนโควิด 19 ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น
โครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เราชนะ และโครงการเรารักกัน
จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)ได้ระบุถึงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมกราคม 2564 หดตัวร้อยละ 2.80 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 ส่งผลต่อเนื่องมายังเดือนมกราคม 2564 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การจับจ่ายใช้สอย รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศลดลง ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวในระยะสั้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ
อย่าลืมกดไลก์
Facebook bangkokbanksme
แนวโน้มเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมไทยจะปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการกระจายวัคซีนโควิค 19 ทั้งในและต่างประเทศ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จำนวนการแพร่ระบาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามามีแนวโน้มที่ดีขึ้น
อีกทั้งรัฐบาลได้ผ่อนคลายกิจกรรมในพื้นที่ควบคุม อาทิเช่น
ร้านอาหารเปิดบริการได้ตามปกติ สถานบันเทิง ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา
สถาบันกวดวิชา และสถานที่ออกกำลังกาย
สำหรับในมุมเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ
จากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในหลายประเทศ
ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการผลิตและการบริโภค ส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและรายการพิเศษเดือนมกราคม
2564 ขยายตัวร้อยละ 8.22 โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
และเป็นการขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 29 เดือน
ซึ่งจากที่กล่าวมาสะท้อนให้เห็นสภาวะเศรษฐกิจของไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ
อุตสาหกรรมหลักที่ยังคงขยายตัวดีในเดือนมกราคม
2564 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้แก่ เม็ดพลาสติก ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ
10.86 จากความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้น เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์
เครื่องใช้ไฟฟ้า อีกทั้งจากสถานการณ์โควิด 19
ที่หลายสถานประกอบการมีนโยบายให้พนักงาน work from home ประกอบกับการลดการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ
จึงส่งผลให้กลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์ ถุงอาหาร ขวด
และเครื่องใช้ในครัวเรือนขยายตัวมากกว่าปีก่อน
ด้านเหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน
ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.44
จากความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
และบรรจุภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ สถานการณ์ราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากจีนมีการนำเข้าสินค้าเหล็กเพิ่มสูงขึ้นมาก
จนเกิดภาวะขาดแคลนสินค้า (Short
Supply) ผู้ผลิตจึงเร่งผลิตเพื่อขายทำกำไรในช่วงนี้
เฟอร์นิเจอร์
ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 23.63
จากเฟอร์นิเจอร์ทำด้วยไม้เป็นหลัก จากการส่งออกไปสหรัฐอเมริกา
รวมถึงสามารถกลับมาส่งสินค้าได้ตามปกติ หลังมีปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในช่วงก่อนหน้า
อาหารสัตว์สำเร็จรูป
ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.21
จากอาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูปและอาหารปลาเป็นหลัก
โดยเพิ่มขึ้นจากการผลิตอาหารแมวเพื่อส่งออกไปสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกาเลิกการผลิตและหันมาสั่งซื้อสินค้าจากไทยเพื่อจำหน่ายแทน
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.74 จากสินค้า Printer เป็นหลัก
ซึ่งผู้ผลิตได้รับคำสั่งซื้อต่อเนื่องในช่วงสถานการณ์โควิด 19
เนื่องจากผู้ผลิตจากอินโดนีเซีย จีน และฟิลิปปินส์ ไม่สามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้
รวมถึงความต้องการใช้เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการทำงาน work from home