ธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่โดดเด่นในโลกธุรกิจปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะมีจุดกำเนิดมาจากการเป็นธุรกิจครอบครัว หรือ Family Business ที่สืบทอดและส่งต่อกิจการมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยจะเห็นว่ามี Family Business หลายรายสามารถเติบโตแผ่กิ่งก้านสาขาจนกลายเป็นบริษัทมหาชนที่สามารถเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือกลายเป็น Global Company
ไม่ใช่แค่ในประเทศแต่ธุรกิจทั่วโลกส่วนใหญ่สืบทอดกันในลักษณะครอบครัว ถือเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจโดยรวม
ขณะที่กระแสความเปลี่ยนแปลงในเทรนด์ดิจิทัลในปัจจุบันหรือที่เรียกว่า Digital Disruption ที่โหมกระหน่ำสร้างผลกระทบให้ธุรกิจทุกประเภทต้องเผชิญกับความท้าทายที่หนักหน่วง ในการที่จะหยัดยืนอย่างมั่นคงและสานต่อธุรกิจให้อยู่รอด โดยเฉพาะธุรกิจครอบครัวที่ต้องแสวงหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อให้สามารถส่งต่อธุรกิจไปยังรุ่นต่อไปให้ได้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
แต่การขับเคลื่อนธุรกิจครอบครัวไปได้ย่อมต้องมีกลยุทธ์ โดยในที่นี้เราถอดใจความแนวคิดของคุณ ‘คุณเอื้อมพร ปัญญาใส’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้าน Marketing Service และปัจจุบันตำรงตำแหน่งนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) ระบุว่า
ธุรกิจครอบครัวเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือในระดับโลก เพราะเมื่อพิจารณาข้อมูล Top 100 หรือแม้แต่ Top 20 ของบริษัทชั้นนำระดับโลก จะพบได้ว่าส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่มีรากฐานการเติบโตมาจากธุรกิจที่เป็น Family Business ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจค้าปลีกชั้นนำระดับโลกอย่าง Walmart ก็ตาม
ทั้งนี้ ข้อมูลจากงานวิจัยบริษัทธุรกิจครอบครัวของโลกยังระบุว่า ธุรกิจทั่วไปจะมีอายุของกิจการเฉลี่ยแค่ 12 ปี ขณะที่อายุเฉลี่ยของธุรกิจครอบครัวจะยาวนานกว่า โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีค่าเฉลี่ยอายุกิจการของ Family Business สูงที่สุด โดยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 52 ปี และมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือมีจำนวนถึง 56% ที่มีเกณฑ์อายุเฉลี่ยของกิจการมากกว่า 200 ปี
โดยพบว่ามีธุรกิจ Kongo Gumi หนึ่งในธุรกิจครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างวัด ก่อตั้งมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 578 ซึ่งทำธุรกิจมายาวนานถึง 14 ศตวรรษเลยทีเดียว รวมทั้งยังมี ธุรกิจครอบครัวในอีกหลายประเทศที่ดำเนินกิจการและเติบโตมาอย่างยาวนาน อาทิ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์และฝรั่งเศส ตามลำดับ
สำหรับประเทศไทยจะมีธุรกิจครอบครัวอยู่ราว 80% กระจายตัวไปในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กที่เป็น SME หรือแม้แต่องค์กรธุรกิจระดับประเทศ ซึ่งหลายธุรกิจกลายเป็น Role Model ที่สามารถเติบโตไปเป็นบริษัทที่มั่นคง หรือสามารถเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ทั้ง MAI หรือ SET เพื่อปูทางไปสู่การแข่งขันทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค หรือในระดับโลกต่อไป ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแตกต่างกันของแต่ละครอบครัว
ทั้งนี้ หลายๆ ครอบครัวมีแนวทางรองรับการเติบโตของธุรกิจ ทั้งการบ่มเพาะทายาทอย่างมีกลยุทธ์ การตั้งบริษัทเพื่อดูแลผลประโยชน์ในครอบครัว รวมถึงตั้งสภาครอบครัว (Family Council) เพื่อกำหนด “ธรรมนูญครอบครัว” เป็นกติกาในการอยู่ร่วมกัน ทั้งการดูแลสมาชิก การสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว หรือกำหนดบทบาทของสมาชิกว่าควรจะเข้ามาดูแลธุรกิจในส่วนใดบ้าง ทำให้ทุกคนในครอบครัวช่วยกันทำงานไปในทิศทางเดียวกัน มากกว่าจะขัดแย้ง แข่งขันกันเอง หรือแม้แต่ประเด็นหรือการว่าจ้างมืออาชีพเข้ามาบริหาร ซึ่งข้อหลังนี้มีให้เห็นมากขึ้นในปัจจุบัน
ขณะที่โลกธุรกิจปัจจุบัน การแข่งขันต่างๆ ได้เปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างสิ้นเชิง แต่ละธุรกิจไม่ได้แข่งขันอยู่เพียงคู่แข่งในสายพันธุ์เดียวกันอีกต่อไป แต่ยังต้องเผชิญกับคู่แข่งที่ข้ามสายพันธุ์มาจากอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ข้ามมาแข่งขันด้วย ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เป็นความท้าทายที่ทุกธุรกิจต้องเผชิญ เช่นเดียวกับธุรกิจครอบครัวที่นอกจากปัญหาที่ต้องเผชิญเหมือนๆ กับทุกธุรกิจแล้ว ยังมีปัญหาสำคัญในการหาผู้สืบทอดธุรกิจต่อ
จากการสำรวจ Familybizsurvey ของ PWC ในปี 2016 พบว่า 43% ของธุรกิจครอบครัว มีปัญหาในการหาผู้สานต่อหรือขาดโซ่ข้อกลาง (The Missing Middle) ทำให้หลายๆ ธุรกิจในปัจจุบันต้องใช้วิธีการจ้างผู้บริหารมืออาชีพมาดูแลธุรกิจต่อแทน ขณะที่อีกราว 1 ใน 4 ของกลุ่มธุรกิจครอบครัวกังวลต่อปัญหาการถูก Digital Disruption
สิ่งหนึ่งที่คนทำธุรกิจต้องคำนึงถึงไม่ว่าจะเป็นธุรกิจทั่วไปหรือธุรกิจครอบครัว คือ คำว่าองค์กรนั้นไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มีจริงคือคนในองค์กร ที่จะเป็นทั้งผู้ขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโต เป็นผู้สร้างให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรต่างๆ ตามมา
ดังนั้น ความท้าทายข้างหน้าในการดำเนินธุรกิจย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของบุคลากร (People) ที่จะต้องพัฒนาให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว องค์กร (Organization) สภาพแวดล้อม (Environment) กระบวนการทำงาน (Processes) และการใช้เทคโนโลยี (Technology) เข้ามาสนับสนุนธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริหารรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเจนเนอเรชั่นใหม่ๆ ของธุรกิจครอบครัวที่ต้องเข้ามารับช่วงต่อต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจำเป็นจะต้องรับมือให้ได้เพื่อนำพาธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป
อ้างอิง : https://www.seasiacenter.com
เตรียมการอย่างไรให้ลูกยอมรับช่วงธุรกิจต่อ
Family Business ความท้าทายคน Gen Y
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333