สมรภูมิการทำธุรกิจขนส่งอาหารในสหรัฐอเมริการะหว่าง Amazon และ Uber นั้นน่าสนใจยิ่ง และหลังจากที่แข่งขันใน Segment นี้มาหลายปี Amazon ก็ดูเหมือนจะไปต่อไม่ไหว ทั้งจากรณีการปิดบริการ Amazon Restaurants(บริการส่งอาหาร) ในกรุงลอนดอนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการปิดบริการดังกล่าวอย่างถาวร เพราะบริษัทจะบริการส่งอาหารให้ลูกค้าในสหรัฐอเมริกาถึงแค่เดือนมิถุนายนนี้เท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าบริการนี้จะไม่ได้แข่งกับ Uber Eats อีกต่อไปแล้ว
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
โดยนับตั้งแต่วันที่
24 มิถุนายน 2562 นี้เป็นต้นไปจะยกเลิกบริการ Amazon
Restaurants ในสหรัฐอเมริกา ทั้งก่อนหน้านี้ก็ยังได้มีการปิดบริการ
Daily Dish ซึ่งเป็นร้านส่งอาหารกลางวันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Amazon ก็ไม่ได้ถอนตัวออกจากตลาดบริการส่งอาหารอย่างสิ้นเชิง
เพราะบริษัทก็ยังคงจำหน่ายอาหารที่ไม่เน่าเสียจากร้านออนไลน์เป็นหลัก
และส่งสินค้าของชำจาก Whole Foods ในเมืองต่างๆ
ในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีบริการ Amazon Fresh และทดลองบริการส่งสินค้าของชำส่งตรงถึงท้ายรถลูกค้า
แต่ความพยายามในการให้บริการส่งอาหารนั้นดูเหมือนว่าจะมุ่งเป้าไปที่แบรนด์อื่นแทนหลังจากที่บริษัทได้ลงทุนซื้อ
Deliveroo เมื่อไม่นานมานี้เอง
ทั้งนี้ข่าวการปิดตัว Amazon Restaurants ย่อมเป็นข่าวดีสำหรับ Uber แน่นอน ซึ่งทาง Uber Eats เองก็กำลังเติบโตได้ดีนับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2558
Uber
โชว์เหนือ บริการส่งอาหารด้วยโดรน
โดย Uber จะเริ่มทดลองใช้โดรนส่งอาหารสำหรับบริการ Uber Eats ในพื้นที่ประชากรหนาแน่นในเขตเมือง
หลังจากได้รับอนุญาตจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (The Federal Aviation Administration หรือ
FAA) ให้ทดลองโดรนบินส่งอาหารได้
Uber
ได้ร่วมกับ McDonald’s ทำการทดลองขั้นต้นที่
San Diego
State University ภายหลังในปีนี้ก็มีแผนที่จะร่วมกับร้านอาหารเจ้าอื่นด้วย
แต่ Uber จะไม่ได้ใช้โดรนให้บริการส่งอาหารถึงที่
เมื่อลูกค้าสั่งอาหารแล้ว ร้านจะเตรียมอาหารและนำขึ้นบนตัวโดรน
หุ่นโดรนนั้นจะบินไปส่งยังจุดส่งอาหารที่กำหนดไว้ใกล้กับจุดที่ลูกค้าอยู่
ซึ่งอาจจะเป็นบนหลังคารถ Uber ที่จอดไว้โดยใช้ QR code เพื่อหลีกเลี่ยงการทิ้งสินค้าบนหัวของคนเดินเท้าไปมาที่ไม่ได้ระวังหรือการสร้างมลพิษทางเสียง
เบื้องหลังจะมี Elevate
Cloud Systems ของ Uber คอยติดตามและนำทางหุ่นโดรน
และแจ้งเตือนเวลาและสถานที่แก่คนขับบริการส่งอาหารเพื่อดำเนินการส่งต่อถึงมือลูกค้า
โดรนที่ใช้จะสามารถส่งอาหารได้ในระยะ 1.5 ไมล์
ภายในเวลา 7 นาที ซึ่งเร็วกว่าใช้ยานพาหนะภาคพื้นที่ใช้เวลาถึง 21 นาที แต่ Uber ตั้งใจใช้โดรนบริการเฉพาะบริเวณเขตตัวเมือง
จึงไม่ได้จะใช้โดรนส่งอาหารถึงหน้าประตูบ้าน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ Uber มุ่งเป้าที่จะใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วและบรรดาผู้ให้บริการส่ง
Uber Eats ทั้งหลาย
ท้ายที่สุดแล้ว
บริการส่งสินค้าด้วยโดรนหมายความว่า Uber จะสามารถส่งอาหารแก่ลูกค้าได้เร็วขึ้นและทำให้ร้านอาหารเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากขึ้น
ธุรกิจ Eats ก็นับว่าเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูงขึ้นกว่าบริการเรียกรถเสียอีก
ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 นี้ Eats ก็มียอดเติบโตถึง 108 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน
3.07 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ของ Amazon ในด้านการส่งอาหารสดในอเมริกา ที่ไม่สามารถ ‘คว่ำ’เจ้าถิ่นอย่างUber ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แถมส่วนตัวของผู้เขียนเองไม่เชื่อด้วยซ้ำว่า Amazon จะไม่มีแผนสองสำหรับธุรกิจในกลุ่มนี้ รอดูกันต่อไป
อ้างอิง : https://www.engadget.com/2019/06/11/amazon-restaurants-shutdown/
https://techcrunch.com/2019/06/12/uber-will-start-testing-eats-drone-delivery/