จากข้อมูลศูนย์วิจัยของสถาบันวิชาการ รัฐบาล โรงพยาบาล องค์การเภสัชกรรม และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งภายในและต่างประเทศทั่วโลก พบว่าตลาด Genomics ตลอดปี 2019-2024 มีแนวโน้มการเติบโตของ CAGR กว่า 10% โดยเฉพาะช่วงโควิด 19 ที่ทำให้ผู้คนหันมาสนใจการดูแลสุขภาพมากขึ้น จนลงลึกไปถึงระดับยีน อย่าง ศาสตร์แห่งจีโนมิกส์ ที่กลายมาเป็นเทรนด์ธุรกิจทางการแพทย์โลก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ทำความรู้จักก่อนส่องธุรกิจ
“จีโนมิกส์”
จีโนมิกส์
(Genimics) เป็นธุรกิจทางการแพทย์
ที่นำศาสตร์แห่งการศึกษาค้นคว้าโครงสร้างกลุ่มยีนหรือพันธุกรรมของเซลล์สิ่งมีชีวิต
เพื่อเข้าใจกลไกของสิ่งมีชีวิตได้แบบเชิงลึก ไปถึงสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง
การแสดงออกในรูปลักษณะ รูปร่างหน้าตา พฤติกรรม พื้นฐานสุขภาพ ฯลฯ โดยปกติแล้วการทำธุรกิจจีโนมิกส์ที่เห็นได้ทั่วไปจะเห็นอยู่
2 กลุ่มคือ ‘สุขภาพและการรักษาโรค’ กับ ‘การค้นหาความถนัด’
เพื่อวางแผนอนาคตตั้งแต่วัยเยาว์
ส่วนการหยิบจีโนมิกส์มาใช้ในธุรกิจด้านสุขภาพและรักษาโรค
อาจมีการนำมาใช้งานได้ประมาณ 3
กลุ่มหลักคือ การวางแผนการรักษาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล, การวินิจฉัยโรคและการคาดการณ์แนวโน้มสุขภาพในอนาคต และการวางแผนดูแลสุขภาพร่างกายให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
อย่างที่หลายท่านน่าจะเคยเห็นว่า มีการวางแผนเรื่องโภชนาการ
โดยพิจารณาตามยีนเช่นกัน
3 รูปแบบธุรกิจจีโนมิกส์ ที่กลายเป็นเทรนด์ช่วงโควิด
ด้วยความที่จีโนมิกส์เกี่ยวข้องกับการเก็บข้อมูลมหาศาล
และเทคโนโลยี–นวัตกรรมมากมาย
จึงอาจจะมีรูปแบบธุรกิจเป็นจำนวนมาก
บทความนี้จะขอยกตัวอย่างธุรกิจที่น่าสนใจมาเพียง 3 รูปแบบ
เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจและเห็นภาพชัดมากขึ้น ว่าธุรกิจจีโนมิกส์ที่กลายมาเป็นเทรนด์ช่วงโควิดมีอะไรบ้าง
1) การเก็บข้อมูลพันธุกรรม : ธุรกิจจีโนมิกส์สำคัญที่ทำให้วงการก้าวไปข้างหน้าได้ก็คือ
ธุรกิจที่คอยเก็บข้อมูลพันธุกรรมขนาดมหาศาล และจัดลำดับตัวอักษรกว่า 3,000 ล้านตัว ที่ประกอบรวมกันจนกลายเป็นพันธุกรรมของมนุษย์
ด้วยเทคโนโลยีการจัดเก็บและใช้งานข้อมูลในราคาต้นทุนต่ำ
ทำให้การนำไปต่อยอดทำธุรกิจได้กว้าง และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
รวมถึงส่งเสริมความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ ในการทำความเข้าใจตัวแปรทางพันธุกรรมในประชากรและผลกระทบต่อสุขภาพ
การทำนาย/วินิจฉัยโรค และการตอบสนองของยา
นอกจากนี้ยังดีต่อการนำไปใช้ในการศึกษาวิจัยอย่างการอ่านชิ้นส่วน DNA เพื่อหาคลัสเตอร์หรือปัจจัยที่มีผลต่อการแปลงสายพันธุ์ของเชื้อโควิด 19
2) การคำนวณและวินิจฉัยพันธุกรรม : หลังจากที่มีการจัดเก็บข้อมูลยีนแล้ว
อีกธุรกิจจีโนมิกส์ที่ขาดไม่ได้ก็คือ การให้บริการคำนวณและวินิจฉัยพันธุกรรม
เพื่อประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคในอนาคต อย่างที่ดาราคนดังระดับโลก อาทิกรณี แองเจลินา
โจลี ก็เคยเข้ารับการตรวจ DNA
Test จนพบว่า มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม 87% และมะเร็งรังไข่
50% เลยตัดสินใจรักษาได้ทันท่วงที
นอกจากจะประเมินความเสี่ยงของโรคได้แล้ว
ยังสามารถนำสถิติมาประเมินเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ในทุกขั้นตอน
รวมถึงการดูแลสุขภาพของคนทั่วไปที่ไม่ได้มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย
เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงด้วย
3) การหยิบพันธุกรรมมาใช้ในการป้องกันและรักษา : ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีได้ก้าวไปไกลถึงขั้นตัดแต่ง
เติม เปลี่ยนลำดับเบสพันธุกรรม หรือหยิบไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ค่อนข้างแม่นยำ
และราคาที่ถูกลง ทำให้ถูกหยิบไปใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะในแง่ของการเกษตร
เคมี หรือแม้แต่วัสดุศาสตร์ แต่สำคัญคือ การรักษา-ป้องกันโรค และการคิดค้นพัฒนายา-วัคซีนใหม่ๆ อย่างวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด 19 บางประเภทก็จะมีการนำส่วนหนึ่งของพันธุกรรมวัคซีนไปใช้
หรือยาต้านเชื้อไวรัสโควิดบางตัวที่มีการหยิบพันธุกรรมมาวิจัย ตัดต่อ
เพื่อนำไปพัฒนาและหยิบมาใช้กันต่อไป
รวมถึงกระแสรักสุขภาพที่นิยมมากขึ้น
โดยเฉพาะช่วงโควิด 19 แพร่ระบาด จวบจนหลังจากนี้ไปก็ต้องยอมรับว่า ธุรกิจเหล่านี้มีโอกาสจะกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง
จากการไร้คู่แข่งและการเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของผู้คนทั่วไป
จนได้รับความนิยมแพร่หลายอย่างแน่นอน และน่าจับตามองว่า
ธุรกิจนี้จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของผู้คนไปได้มากน้อยแค่ไหนกัน