จับตา ‘เยอรมนี’ ร่างกฎหมายธุรกิจเครื่องมือแพทย์กั้นลงทุนต่างชาติ
'เยอรมนี' เป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเยอรมันรุนแรงขึ้นภายในหลังจากรัฐบาลเยอรมนีผ่อนคลายการใช้มาตรการล็อกดาวน์ และมาตรการคุมเข้มทางสังคมลง เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ และเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกครั้ง ทำให้ประชาชนเริ่มออกจากบ้านมาใช้ชีวิตปกติ จำนวนผู้ติดเชื้อจึงพุ่งขึ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
อย่างไรก็ตาม
อีกด้านหนึ่งรัฐบาลเยอรมนียังมีเงื่อนไขว่าหากยอดจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
รัฐบาลจะระงับการใช้มาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ทันที และที่สำคัญรัฐบาลยังได้เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขมารองรับจำนวนผู้ติดเชื้อ
ด้วยการยกร่างกฎหมายควบคุมการเข้าซื้อกิจการของนักลงทุนต่างชาติฉบับใหม่
เพื่อให้รัฐบาลสามารถกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ
เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ตามข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ระบุว่า สาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว
ให้อำนาจรัฐบาลในการป้องกันบริษัทหรือนักลงทุนต่างชาติ
เข้าซื้อกิจการบริษัทเยอรมนีที่ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งวัคซีน
อุปกรณ์และชุดป้องกัน เครื่องช่วยหายใจ ยารักษาและเวชภัณฑ์อื่นๆ
ซึ่งหากมีนักลงทุนรายใดสนใจเข้าไปซื้อต้องแจ้งให้รัฐบาลเยอรมนีทราบทันที
หากนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 10%
เพื่อให้รัฐบาลสามารถเข้าไปประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการเสนอราคา
และมีสิทธิในการตัดสินใจว่าจะแทรกแซงการประกอบธุรกิจหรือไม่
เหตุผลสำคัญที่รัฐบาลเยอรมนียกร่างกฎหมายดังกล่าว
เป็นผลจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกซึ่งทำให้ประเทศต่างๆ
ตื่นตัวและกังวลเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งจะเห็นว่าก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน 2563 มีบุคลากรทางการแพทย์เยอรมันได้รวมกลุ่มกันโพสต์ภาพเปลือยในแคมเปญ
'Blanke
Bedenken' เพื่อส่งเสียงประท้วงปัญหาการขาดแคลนชุด PPE และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ในการต่อสู้กับโควิด-19
โดยสมาคมประกันสุขภาพเยอรมนี คาดการณ์ว่า
บุคลากรทางการแพทย์ยังขาดแคลนหน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งถึง 100 ล้านชิ้น
ขาดชุด PPE
60 ล้านชุด นำมาสู่การที่รัฐบาลเยอรมนีเลือกใช้นโยบายที่จะพึ่งพาตนเองในการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์
แต่อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่งฝ่ายสมาคมการค้าได้มองว่ามาตรการภายใต้กฎหมายฉบับดังกล่าวจะกลายเป็นการปิดกั้นการลงทุนจากต่างประเทศให้ลดลง
ทั้งที่ในช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจประสบภาวะวิกฤตต้องการเม็ดเงินมากระตุ้นให้เกิดการเปิดกว้างทางการตลาด
ประเด็นนี้ทางรัฐบาลเยอรมนีโดย นาย Peter
Altmaier อธิบายว่ากฎหมายนี้จะมีส่วนปกป้องระบบสาธารณสุขเยอรมนีในระยะยาว
ซึ่งจากวิกฤติโควิด-19 แสดงให้เห็นว่าความรู้และความเชี่ยวชาญทางการแพทย์
รวมถึงการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์กำลังประเด็นที่แต่ละประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
ทั้งหมดนี้จะเห็นว่าเยอรมนีถือว่าเป็นประเทศพัฒนาแล้ว แต่ยังหนีไม่พ้นปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ นำมาสู่การวางกติกาประกอบธุรกิจและการลงทุน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านสาธารณสุขครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสความท้าทาย และเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของตลาดอุปกรณ์การแพทย์เยอรมนี