ง่ายจะตาย! ใช้ Google นี่แหละพัฒนาระบบทำงานในธุรกิจของคุณสิ!
2017 กลายเป็นปีที่หลายภาคองค์กรธุรกิจต้องปรับตัวในหลายเรื่องจริงๆ โดยเฉพาะกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารและการจัดการ ซึ่งการลงทุนกับเทคโนโลยีเพื่อนำมาใช้ในองค์กรไม่จำเป็นต้องทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเสมอไป เพราะทุกวันนี้มีเครื่องมืออัฉริยะที่จะเข้ามาช่วยคุณให้ขับเคลื่อนธุรกิจได้ในยุคดิจิทัลได้แล้วววววว ความเปรี้ยวเฟี้ยวฟ้าวของสิ่งดังกล่าวนั่นคือการเชื่อมโยงถึงกันของข้อมูลที่เป็นหัวใจหลักสำหรับโลกธุรกิจวันนี้ ซึ่งจะพาทุกคนไปรู้จักกับเครื่องมือจากบริษัท IT ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกอย่าง Google
เอสเอ็มอีไทยอาจยังไม่รู้ว่า Google นั้นไม่ได้เป็นแค่ Search Engine สำหรับหาข้อมูลหรือทำ SEO และ SEM เท่านั้น แต่ Google ยังมีบริการที่เรียกว่า G Suite (Google Apps for Business)ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ Google Cloud เป็นการรวมบริการต่างๆ ของตัวเอง และเพิ่ม Feature ลงไป!
[caption id="attachment_14567" align="aligncenter" width="664"] G Suite (Google Apps for Business) by Google Cloud[/caption]
G Suite นับเป็นผู้นำด้านอีเมลธุรกิจในระบบคลาวด์ โดยเฉพาะในเอสเอ็มอีที่ไม่มีแผนก IT และยังต้อง Save Cost กับค่าใช้จ่ายดูแลชุดอุปกรณ์เดสก์ท็อป ซึ่ง Google เห็นถึงโอกาสดังกล่าวจึงวางแพ็กเกจครบวงจรให้พื้นที่เก็บไฟล์และการแชร์กับ Google ไดรฟ์ การทำงานร่วมกันใน Google เอกสารแบบเรียลไทม์ การประชุมผ่านวิดีโอโดยใช้แฮงเอาท์ และระบบอีเมลแบบมืออาชีพอย่าง Gmail นอกจากนี้พนักงานยังสามารถทำงานร่วมกันได้แม้จะต่างอุปกรณ์ (Notebook, Tablet, Mobile) และสถานที่ เพียงใช้ระบบปฎิบัติการและ Browser ในผลิตภัณฑ์ของ Google โดยเชื่อมโยงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แบบที่ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ใดๆ เลย อีกทั้งยังสามารถทำงานกับไฟล์ที่สร้างจากโปรแกรมอื่น เช่น Microsoft Office ได้อีกด้วย (เริ่ดมาก)
แต่เอ๊ะ! มาถึงตรงนี้ เชื่อได้เลยว่า เอสเอ็มอีต้องสงสัยแล้วว่า ทำไมองค์กรต้องเสียเงิน เมื่อ Google ก็มีบางผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานแบบฟรีอยู่บ้างแล้ว !?!
อย่างที่กล่าว Google นั้นมีข้อแตกต่างอยู่สำหรับบริการฟรีในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค และบริการ G Suite สำหรับภาคธุรกิจ
สำหรับบริการด้านออฟไลน์ Gmail ประกอบไปด้วย ปฏิทิน และ Google เอกสาร ที่สามารถสร้างเนื้อหาได้แม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตก็ตาม ความเก๋ยังไม่จบเท่านี้เพราะระบบของ Google จะทำการ Sync ข้อมูลอัตโนมัติทันทีเมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้การทำงานระหว่างทีมสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้แบบ Real-time ในกรณีที่ทำการ Share เอกสารระหว่างกันผ่าน G Suite ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรธุรกิจที่จะสามารถประยุกต์ใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ให้สอดคล้องกับกระบวนการทางธุรกิจได้ ไม่ใช่แค่การ รับ-ส่ง งานทุกอย่างผ่านอีเมลแบบเดิมอีกต่อไป จนเกิดสิ่งที่เรียกว่า Business Transformation ทั้งกระบวนการทางธุรกิจ วัฒนธรรมองค์กร และเทคโนโลยี (Business, Culture and Technology)
เป้าหมาย G Suite ของ Google สู่ AI อัจฉริยะ
J.A.R.V.I.S. และ F.R.I.D.A.Y. ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ออกแบบและสร้างโดย Tony Stark จาก Iron Man ในจักรวาล Marvel อาจไม่ใช่ความฝันของเหล่าเยาวชนและเอสเอ็มอีเจนเนอเรชั่น Y ที่โตมากับเหล่า Super Hero ในดวงใจอีกต่อไป เพราะ G Suite ของ Google ในอนาคตน่าจะกลายเป็น Machine Learning ที่กลายเป็น Artificial Intelligence (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์ ในอนาคต ซึ่ง Google สอดแทรกเทคโนโลยีที่จะทำให้การสืบค้นข้อมูลภายใน G Suite ทำได้แข็งแกร่งแม้จะใช้ภาษาง่ายๆ ในการค้นหาข้อมูลหรือจัดระบบข้อมูล อาทิ สมมุติว่าบริษัทคุณต้องการรู้ข้อมูลเชิงการตลาด คุณอาจ Search ว่า “เพศและช่วงอายุไหนสนใจสินค้าอะไรบ้าง” G Suite ก็จะแสดงผลการค้นหาขึ้นมาทันที
[caption id="attachment_14569" align="aligncenter" width="711"] J.A.R.V.I.S. จาก Iron Man 2[/caption]
หากเอสเอ็มอีสนใจสามารถ ทดลองใช้ฟรี ซึ่ง G Suite ของ Google แบบปรับปรุงใหม่นั้นยังมาพร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลไม่จำกัดและความสามารถในการเก็บถาวร $10 ต่อผู้ใช้ต่อเดือน หรือ $120 ต่อผู้ใช้ต่อปี( รวมภาษีแล้ว)
ที่สำคัญเอสเอ็มอีสามารถติดตาม Update เรื่องราวอินเทรนด์แบบนี้ได้ตลอดใน Bangkokbanksme.com ซึ่งคราวหน้า จะมีการสอนวิธีให้เอสเอ็มอีใช้สำหรับเครื่องมือ G Suite ของ Google อีกด้วย!
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษา Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สายด่วน 1333