ยั่นวิกฤต! เปิดเหตุผล ‘ฮ่องกง’ ติด Top 4 ศูนย์กลางการเงินโลก

SME Go Inter
22/08/2021
รับชมแล้วทั้งหมด 1739 คน
ยั่นวิกฤต! เปิดเหตุผล ‘ฮ่องกง’ ติด Top 4 ศูนย์กลางการเงินโลก
banner

แม้ว่าที่ผ่านมาฮ่องกงต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่ระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงการดำเนินธุรกรรมอื่นๆ ของตลาดการเงินฮ่องกง ยังคงดำเนินได้อย่างราบรื่น เป็นระเบียบ และมั่นคง

โดยความสามารถด้านการแข่งขันและความแข็งแกร่งของระบบการเงินฮ่องกงเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก ซึ่งจากการจัดอันดับดัชนีศูนย์กลางทางการเงินโลก (Global Financial Centres Index - GFCI) ครั้งที่ 29 ฮ่องกง ครองอันดับ 4 ศูนย์กลางทางการเงินโลก รองจากนครนิวยอร์ก กรุงลอนดอน และนครเซี่ยงไฮ้ ตามลำดับจากการสำรวจ 126 เมืองทั่วโลก โดยขยับขึ้นจากอันดับ 5 ในการจัดอันดับฯ ครั้งก่อนเมื่อเดือนกันยายน 2563 (ที่มา : longfinance.net)

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

การจัดอันดับดัชนีศูนย์กลางทางการเงินโลก (Global Financial Centres Index - GFCI) เป็นผลการรายงานของ Z/Yen Group บริษัทที่ปรึกษาเชิงพาณิชย์ ณ กรุงลอนดอน ร่วมกับสถาบันการพัฒนาประเทศจีน (China Development Institute) ซึ่งประเมินข้อมูลจากองค์กรชั้นนำระดับโลก อาทิ องค์การสหประชาชาติ (United Nations) ธนาคารโลก (World Bank) และหน่วยงานวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจ (Economist Intelligence Unit) ขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD)

รวมทั้งสถาบันการเงินทั่วโลกกว่า 65,507 แห่ง และจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินผ่านระบบออนไลน์กว่า 10,774 ราย โดยประเมินคะแนนการเป็นศูนย์กลางทางการเงินจาก 5 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย

1. สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ

2. การพัฒนาภาคการเงิน

3. ปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน

4. ทุนมนุษย์

5. ชื่อเสียงของเมืองหรือประเทศ

 

แม้เจอสารพัดปัญหา ทำไม? ‘ฮ่องกง’ ติด Top 4

เหตุผลสนับสนุนให้ ฮ่องกง ได้รับการจัดอันดับ GFCI ที่สูงขึ้น เป็นเพราะฮ่องกงเป็นเมืองที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีมากต่อการดำเนินธุรกิจ มีขั้นตอนในการจัดตั้งธุรกิจที่สะดวกและรวดเร็ว รวมทั้งมีกฎหมายที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจและการลงทุนของบริษัทต่างชาติ เห็นได้ชัดเจนจากรายงานผลการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ประจำปี 2563 ของธนาคารโลก (World Bank) ซึ่งฮ่องกงครองอันดับ 3 จากการจัดอันดับ 190 ประเทศและเขตเศรษฐกิจทั่วโลก

เนื่องจากระบบภาษีที่ไม่ซับซ้อน นโยบายด้านการเงินสำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศที่ค่อนข้างเสรี มีจุดแข็งด้านการเป็นศูนย์กลางของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ มีความเป็นสากล มีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีระบบกำกับดูแลตามมาตรฐานสากล มีหลักนิติธรรม มีทรัพยากรบุคคลที่มีทักษะด้านการเงินจำนวนมาก และมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ครบวงจร ตลอดจนข้อมูลและเงินทุนไหลเวียนอย่างเสรี ซึ่งนับเป็นข้อได้เปรียบที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางทางเงินระหว่างประเทศระดับโลก

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญก็คือจุดแข็งและเอกลักษณ์ของตลาดการเงินฮ่องกง การมีผลิตภัณฑ์ด้านการเงินที่หลากหลาย มีเครื่องมือเพื่อการลงทุนมากมายและมีสภาพคล่องสูง ทำให้ฮ่องกงมีบทบาทสำคัญในฐานะ Super Connector เพื่อให้ตลาดต่างประเทศสามารถเข้าถึงตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 ของจีนจึงได้กำหนดให้ฮ่องกงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมการเงิน

ซึ่งรัฐบาลกลางจะสนับสนุนการยกระดับฮ่องกงในด้านการเป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ ศูนย์กลางธุรกิจเงินหยวนระหว่างประเทศ ศูนย์กลางการบริหารสินทรัพย์ระหว่างประเทศ และศูนย์กลางการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งเป็นประตูเชื่อมระหว่างตลาดของจีนกับตลาดโลก โดยใช้โอกาสจากโครงการอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Guangdong-Hongkong-Macao Greater Bay Area - GBA) และข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt & Road Initiative)

ในอนาคต ‘ฮ่องกง’ จะยังคงเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญระดับโลก ตามแผนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 ของจีน ซึ่งได้ผนวกฮ่องกงเข้าไปอยู่ในยุทธศาสตร์การพัฒนาแบบวงจรคู่ขนาน (Dual Circulation) ด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ประสบการณ์และศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และความได้เปรียบที่เป็นเอกลักษณ์ภายใต้หลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ ส่งผลให้ฮ่องกงเปรียบเสมือนประตูเชื่อมที่สำคัญระหว่างจีนกับโลกนั่นเอง

 

แหล่งอ้างอิง :

ข้อมูลปฐมภูมิจากการสัมภาษณ์ สำนักงานธนาคารไทยในฮ่องกง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564

https://thaibizchina.com

https://www.news.gov.hk/

https://www.info.gov.hk/

http://www.xinhuanet.com/

https://www.chinadailyhk.com/

https://www.bot.or.th/

https://www.zyen.com/

 


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ตลาดอาหารวีแกน เทรนด์โลก โตแรง! โอกาสทองของผู้ส่งออกไทย ที่ต้องรีบคว้า

ตลาดอาหารวีแกน เทรนด์โลก โตแรง! โอกาสทองของผู้ส่งออกไทย ที่ต้องรีบคว้า

เทรนด์การรับประทานอาหารแบบเนื้อไร้เนื้อ ยังคงเป็นแนวโน้มการบริโภคที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  จากกระแสการหันมาดูแลสุขภาพ…
pin
6324 | 17/01/2023
ไทย หนึ่งในเป้าหมาย! จีนเล็งลงทุนเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ผู้ประกอบการ SME ปรับตัวไวได้ประโยชน์มหาศาล

ไทย หนึ่งในเป้าหมาย! จีนเล็งลงทุนเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ผู้ประกอบการ SME ปรับตัวไวได้ประโยชน์มหาศาล

ขณะนี้ โลกของเราได้เข้าสู่ยุคระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy : DE) ซึ่งหลอมรวมเทคโนโลยีดิจิทัลให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คน ส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลได้กลายเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย…
pin
2033 | 21/12/2022
โอกาสมาแล้ว! ดีมานด์มันสำปะหลังจีนโตแรง เกษตรกรไทยลุยรุกส่งออกแดนมังกร ชิงส่วนแบ่งตลาดก้อนยักษ์

โอกาสมาแล้ว! ดีมานด์มันสำปะหลังจีนโตแรง เกษตรกรไทยลุยรุกส่งออกแดนมังกร ชิงส่วนแบ่งตลาดก้อนยักษ์

อีกหนึ่งโอกาสเกษตรกรไทย! คาดการณ์ความต้องการมันสำปะหลังช่วง 6 เดือนหลังของปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดทั้งปีไทยส่งออกกว่า 11 ล้านตัน…
pin
5065 | 23/10/2022
ยั่นวิกฤต! เปิดเหตุผล ‘ฮ่องกง’ ติด Top 4 ศูนย์กลางการเงินโลก