สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤษภาคม 2563 ยังคงหดตัวลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 23.19 แต่ขยายตัวจากเดือนก่อนร้อยละ 2.86 ส่งสัญญาณดีขึ้นหลังจากผ่อนคลายล็อกดาวน์
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤษภาคม 2563 หดตัวลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 23.19 โดยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่หลายประเทศได้ใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว กิจกรรมสำคัญทางเศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงักลง รวมทั้งกิจกรรมด้านการขนส่ง
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้ลดวันทำงานลง เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ ในเดือนพฤษภาคมมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ร้อยละ 26.86 ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ร้อยละ 52.84 อย่างไรก็ตามสถานการณ์เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น หลังดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่ร้อยละ 2.86 จากการเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวเพิ่มขึ้นในบางอุตสาหกรรมที่สามารถตอบสนองต่อผู้บริโภคได้ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร (ไม่รวมน้ำตาล) อาทิ ผลิตภัณฑ์ปลาแช่แข็ง สัตว์น้ำบรรจุกระป๋อง การแปรรูปผักผลไม้ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
5 อุตสาหกรรมหลักที่ยังคงขยายตัวดีในเดือนพฤษภาคม
ปุ๋ยเคมี ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 24.89 เนื่องจากผู้ผลิตบางรายได้เพิ่มสัดส่วนในการรับจ้างผลิตสินค้ามากขึ้นจากปีก่อน
ที่เน้นการผลิตตามแผนการตลาดของตัวเองเท่านั้น
อาหารทะเลกระป๋อง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ
21.15 โดยสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้เกิดความต้องการอาหารที่เก็บไว้ได้นานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการเร่งผลิตให้สอดคล้องกับปริมาณวัตถุดิบปลาทูน่าและปลาซาร์ดีนที่มีมากในปีนี้
เภสัชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ
10.07 จากผลิตภัณฑ์ยาเม็ด ยาแคปซูล และยาครีม
เนื่องจากมีความต้องการใช้ต่อเนื่องในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
นม ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ
5.99 จากผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มและนมผง
เนื่องจากปริมาณน้ำนมดิบที่มีเพิ่มขึ้น
รวมถึงการทำโปรโมชั่นและเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์ โดยได้รับคำสั่งซื้อจากมาเลเซีย
อินโดนีเซีย และพม่าเพิ่มขึ้น ภายหลังผู้ผลิตในมาเลเซียปิดโรงงานชั่วคราวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
อาหารทะเลแช่แข็ง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.08 จากผลิตภัณฑ์ปลาแช่แข็ง
เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
ขณะที่อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนี MPI เดือนพฤษภาคม 2563 ได้แก่ การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ น้ำมันปิโตรเลียม
และเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง โรงงานยังคงหยุดสายการผลิต
ประชาชนเริ่มทำงานที่บ้านจึงลดการเดินทางลง
การหยุดกิจกรรมขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทำให้ประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบจากต่างประเทศ
และถูกปิดช่องทางการขายทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ สศอ.คาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนมิถุนายนจะกลับมาดีขึ้น โดยได้เงินหมุนเวียนเศรษฐกิจจากมาตรการเงินเยียวยาและช่วยเหลือประชาชน จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาล อาทิ มาตรการเยียวยา 5,000 บาท รวมถึงการผ่อนคลายให้กิจกรรมและกิจการบางประเภทสามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้ โดยการผ่อนคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 3 ในวันที่ 1 มิถุนายน และระยะที่ 4 ที่เริ่มวันที่ 15 มิถุนายน จะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนเริ่มกลับมาดำเนินการต่อได้ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมรวมถึงภาคอุตสาหกรรมที่จะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง