DAO หรือ Decentralized Autonomous Organization คือรูปแบบองค์กรยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นฐานการทำงาน โดยมีกฎเกณฑ์กำหนดไว้ในสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) และใช้โทเคน (Token) เป็นกลไกในการโหวตหรือตัดสินใจ ทุกกระบวนการถูกบันทึกและตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส จุดสำคัญคือ DAO ไม่ได้ขึ้นกับคนใดคนหนึ่ง แต่กระจายอำนาจไปยังสมาชิกในชุมชน ช่วยลดความเสี่ยงจากการผูกขาดอำนาจ และเพิ่มการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางองค์กร
บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจว่า DAO คืออะไร หลักการทำงานเป็นอย่างไร ตัวอย่างจริงที่เกิดขึ้นแล้วในโลกธุรกิจ และ SME จะสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร
DAO คืออะไร? นิยามฉบับเข้าใจง่าย
เปรียบเทียบ DAO กับบริษัททั่วไป (DAO vs. Traditional Company)
DAO (Decentralized Autonomous Organization):
องค์กรที่ใช้กติกาซึ่งถูกเขียนไว้ใน Smart Contract ทุกขั้นตอนการทำงานและการตัดสินใจจะอ้างอิงตามกติกานี้ โดยสมาชิกมีสิทธิ์โหวตผ่าน Governance Token ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ โปร่งใส และไม่ขึ้นอยู่กับผู้บริหารเพียงกลุ่มเดียวบริษัททั่วไป (Traditional Company):
องค์กรที่อำนาจการตัดสินใจอยู่ในมือของคณะกรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยมีกฎหมายและเอกสารเป็นกรอบการทำงาน ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยผู้มีอำนาจ
4 องค์ประกอบหลักที่ขับเคลื่อน DAO (4 Core Components of DAO)
1. Smart Contracts: กฎที่โปร่งใสและบังคับใช้ได้เอง
Decentralized Autonomous Organization (DAO) ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) และโทเคน (Token) เป็นหลักในการบริหารที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้และสมาชิกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมผ่านการลงคะแนนเสียงที่สิทธิ์จะขึ้นอยู่กับการถือครองโทเคนซึ่งทุกการกระทำที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชนถูกบันทึกไว้ทั้งหมด ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ทำให้ระบบ DAO มีความโปร่งใส
2. Governance Token: สิทธิ์ในการออกเสียงและความเป็นเจ้าของ
สมาชิกของ DAO จะรับสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงผ่านการถือครอง Governance Token ซึ่งเป็นโทเคนเฉพาะขององค์กรนั้น ๆ ที่ยิ่งถือครองมากเท่าไร ก็จะยิ่งมีอำนาจในการโหวตมากขึ้น การเป็นเจ้าของโทเคนจึงไม่ใช่แค่การลงทุน แต่มีส่วนร่วมโดยตรงในการกำหนดทิศทางและอนาคตของ DAO ยกตัวอย่างเช่น MakerDAO ที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือ MKR Token ในการตัดสินใจและโหวตทุกการเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์ม
3. Proposals & Voting: กระบวนการตัดสินใจแบบประชาธิปไตย
กระบวนบริหารจัดการใน DAO จะเริ่มจากสมาชิกคนใดคนหนึ่งทำการส่งข้อเสนอ (Proposal) เช่น การอัปเดตกฎเกณฑ์ การพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ ๆ หรือการใช้จ่ายเงินทุนจากคลัง หรือเพื่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาองค์กรอื่นใด จากนั้นผู้ถือ Governance Token จะทำการลงคะแนนเสียงที่อาจทำผ่าน On-chain หรือ ระบบ Off-chain อย่าง Snapshot เพื่อตัดสินใจซึ่งถ้าเกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น 51% Smart Contract จะดำเนินการตามข้อเสนอนั้นโดยอัตโนมัติ
4. Treasury: คลังสินทรัพย์ที่บริหารโดยชุมชน
ในส่วนของคลังสินทรัพย์ (Treasury) ก็คือแหล่งเงินทุนแบบกระจายศูนย์กลางที่บริหารโดยสัญญาอัจฉริยะซึ่งหากมีการใช้เงินทุน สมาชิกในชุมชนจะต้องร่วมกันโหวตเพื่ออนุมัติการใช้จ่าย หรือใช้เครื่องมือ Gnosis Safe ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินแบบ Multi-signature (Multi-sig) ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ลงนามจำนวนหนึ่งที่กำหนดไว้ก่อนการทำธุรกรรมใด ๆ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายเงินทุนโดยไม่ได้รับอนุญาต
Case Study: 3 ตัวอย่าง DAO ที่กำลังเปลี่ยนโลก
1. MakerDAO (DeFi)
MakerDAO (DeFi) แพลตฟอร์มบริหารจัดการเหรียญ Stablecoin บนเครือข่าย Ethereum ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งสร้างมาเพื่อทำให้การยืมและการให้ยืมสกุลเงินดิจิทัลง่ายขึ้นโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง โดยใช้ MakerDAO ดูแลเหรียญ Stablecoin อย่าง DAI พร้อมใช้กลไกการลงคะแนนเสียงในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียม การอัปเกรดระบบ และข้อเสนอการกำกับดูแลอื่น ๆ ที่วิธีนี้ช่วยให้ชุมชน Maker สามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะตลาด DeFi ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็วอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. Uniswap (DeFi)
Decentralized Autonomous Organization ที่บริหารจัดการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่แบบไร้ตัวกลางบน Ethereum Blockchain มุ่งเน้นการลงทุนในอุตสาหกรรม Web 3.0 ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงแอปพลิเคชันที่ใช้งานโดยตรง (End-user Service) และมี Liquidity Pool ที่ให้นักลงทุนสามารถรับผลตอบแทนจากการเป็นผู้ให้บริการสภาพคล่องได้และการแลกเปลี่ยนทั้งหมดจะทำงานบนระบบ Smart Contract ทำให้ทุกธุรกรรมมีความโปร่งใส
3. Friends With Benefits (Social DAO)
Friends With Benefits (Social DAO): คลับโซเชียลสุดพิเศษสำหรับนักสร้างสรรค์ในโลก Web 3.0 โดยสมาชิกสามารถร่วมกันระดมทุนและบริหารจัดการโครงการต่างๆ ของชุมชน พร้อมกับเป็นเจ้าของร่วมในโครงการที่สร้างสรรค์ขึ้นได้ร่วมกันซึ่งผู้ที่สนใจจะยื่นใบสมัครและถือครองโทเคน FWB ในจำนวนที่กำหนดซึ่งแบ่งออกเป็นระดับ Global Member จะต้องถือ 75 FWB เพื่อเข้าถึงระบบนิเวศทั้งหมด หรือ Local Member ที่ถือแค่ 5 FWB เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
ข้อดีและความท้าทายขององค์กรแบบ DAO
ข้อดี (Pros):
ความโปร่งใส (Transparency): ทุกการตัดสินใจและธุรกรรมจะถูกบันทึกไว้บนบล็อกเชน ทำให้สมาชิกสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ตลอดเวลา
การมีส่วนร่วม (Participation): สมาชิกทุกคนที่ถือโทเคนมีสิทธิ์ออกเสียงและเสนอแนวทางในการบริหาร ช่วยลดการพึ่งพาผู้มีอำนาจเพียงไม่กี่คน
การเข้าถึงได้จากทั่วโลก (Global Access): โครงสร้างแบบกระจายศูนย์เปิดโอกาสให้ผู้คนจากหลากหลายพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมได้ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยพรมแดน
ความรู้สึกเป็นเจ้าของ (Sense of Ownership): การถือโทเคนไม่เพียงแต่เป็นการลงทุน แต่ยังสะท้อนถึงสิทธิ์ในการกำหนดทิศทางและอนาคตขององค์กร
ความท้าทาย (Challenges):
ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย (Legal Uncertainty): ปัจจุบัน DAO ยังไม่มีกฎหมายรองรับอย่างชัดเจนในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ส่งผลให้การกำหนดสถานะนิติบุคคลและการกำกับดูแลยังมีข้อจำกัดและความไม่แน่นอน
ความเสี่ยงด้าน Smart Contract (Smart Contract Risks): หากโค้ดที่ใช้มีช่องโหว่ อาจถูกเจาะระบบหรือโจมตีได้ ดังนั้นการออกแบบ ตรวจสอบ และทดสอบระบบอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันความเสียหาย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
จะเข้าร่วม DAO ได้อย่างไร?
การเข้าร่วม Decentralized Autonomous Organization จะทำได้ 2 แบบหลัก ๆ คือ ซื้อสิทธิ์เข้าเป็นสมาชิกแบบโทเคน (Token) ส่วนใหญ่ใช้ในโปรโตคอล หรือโทเคน DeFi และแบบแบ่งปันหุ้น (Share) ที่ไม่สามารถซื้อสิทธิ์เข้าเป็นสมาชิกได้ซึ่งมักจะเจอใน DAO ด้านการกุศลและสังคม โดยการส่งข้อเสนอ การให้ของขวัญ การมอบเงิน หรือแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความเชี่ยวชาญ หรือความมุ่งมั่นที่จะช่วยตัดสินใจที่มีคุณค่าไปยัง DAO เพื่อรับการแบ่งปันหุ้นของสมาชิกใหม่ที่ให้สิทธิ์ในการออกเสียง
การสร้าง DAO ยากแค่ไหน? ต้องใช้ทักษะอะไรบ้าง?
การสร้าง Decentralized Autonomous Organization ในอดีตอาจเป็นเรื่องยากเพราะต้องใช้ทักษะเชิงเทคนิคขั้นสูงในการเขียน Smart Contract ขึ้นมาตั้งแต่ต้น แต่ในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มและเครื่องมือสำเร็จรูปมากมายที่ช่วยสร้าง DAO ให้ง่ายขึ้น
ทักษะที่จำเป็นจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ด้านการเขียนโค้ด แต่ต้องมีทักษะเชิงกลยุทธ์ เช่น การกำหนดกลไกการควบคุมอุปทานโทเคน การออกแบบโครงสร้างการกำกับดูแลที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ขององค์กร รวมถึงการมีทักษะในการสร้างชุมชนไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การสร้างความสนใจในโครงการ หรือการดึงดูดสมาชิกก็มีส่วนสำคัญ
DAO จะเข้ามาแทนองค์กรแบบดั้งเดิมได้จริงหรือ?
ในปัจจุบันยังไม่สามารถแทนองค์กรดั้งเดิมได้เนื่องจากหากพิจารณาข้อบกพร่องในปัจจุบันยังคงมีความท้าทายในการกระบวนการตัดสินใจที่ยังล่าช้า ความไม่แน่นอนของกฎหมาย รวมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แต่ก็สร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อยในชุมชน Web 3.0 ซึ่งในอนาคตหากมีการพัฒนาและสามารถปรับปรุงข้อบกพร่องต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็อาจจะได้เห็นการดำเนินงาน DAO ในรูปแบบการดำเนินการแทนองค์กรที่ชัดเจนขึ้น
บทสรุป: DAO ก้าวต่อไปของ 'การทำงานร่วมกัน'
DAO เป็นโมเดลองค์กรแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาสร้างความโปร่งใสและกระจายอำนาจในการบริหารจัดการ แม้จะยังไม่มีกฎหมายกำหนดแน่ชัด แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่ SME ควรรู้จักและติดตาม เพราะในอนาคตอาจเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือช่วยสร้างความเชื่อมั่น การระดมทุน หรือการทำงานร่วมกันในชุมชนธุรกิจได้อย่างโปร่งใสและยั่งยืน
อ้างอิง
องค์กรแห่งอนาคตแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Autonomous Organization) สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 จาก https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/990732
Decentralized Autonomous Organization (DAO) สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 จาก https://corporations.utah.gov/2023/12/15/decentralized-autonomous-organization-dao/
ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับ DAO (Decentralized Autonomous Organization) ในญี่ปุ่นคืออะไร สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 จาก https://monolith.law/th/it/dao-regulation
DAO คืออะไร ? Decentralized Autonomous Organization ทำงานอย่างไร ? พร้อมข้อดี-ข้อเสีย สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 จาก https://tips.thaiware.com/1955.html
องค์กรอัตโนมัติ DAO คืออะไร? สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 จาก https://www.finnomena.com/bitkub/what-is-dao/
Decentralized Autonomous Organization (DAO): Definition, Purpose, and Example สืบค้นเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 จาก https://www.investopedia.com/tech/what-dao/
DAO องค์กรอัตโนมัติ คืออะไร ทำงานอย่างไร ประยุกต์ใช้กับธุรกิจแบบไหนได้บ้าง ? สืบค้นเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 https://techsauce.co/tech-and-biz/what-is-dao-decentralized-autonomous-organization
องค์กรอัตโนมัติ DAO จะเปลี่ยนภาพตลาดแรงงานและการทำงานในยุค Web3 ได้อย่างไร ? สืบค้นเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 จาก https://techsauce.co/metaverse/how-dao-impact-the-future-of-work
เหรียญ DeFi เหรียญไหนดี? พาส่องเหรียญ DeFi น่าสนใจ ปี 2022 สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 จาก https://www.finnomena.com/planet46/defi-Token/
MKR คืออะไร และ แพลตฟอร์ม Maker Protocol ทำอะไรได้บ้าง? สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 จาก https://www.bitkubacademy.com/th/blog/what-is-maker-mkr
Uniswap ยักษ์ใหญ่ DeFi เปิดตัวกองทุน เน้นลงทุนในระบบนิเวศ Web 3.0 ครบวงจร สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 จาก https://techsauce.co/news/uniswap-launched-uniswap-labs-ventures
Friends With Benefits สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 จาก https://www.crossmint.com/ecosystem/friends-with-benefits