แม้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่งเปิดทดลองใช้งานจะเป็นรถไฟฟ้าสายที่
4 แล้ว แต่ดูเหมือนคนกรุงเทพฯกลับตื่นเต้นกับสายนี้เป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะเป็นสายแรกที่วิ่งลอดอุโมงค์แม่น้ำเจ้าพระยาข้ามแล้ว ยังมีสถานีที่เจาะเข้าสู่พื้นที่เมืองเก่าและเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
วันนี้จะพาไปเจาะไฮไลต์ของ 4 สถานี ของ MRT สายสีน้ำเงินที่นอกจากจะเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่คนเมืองในการเดินทางแล้ว แต่ละสถานียังได้รับการออกแบบให้สวยงามอลังการ กลายเป็นเส้นทางแห่งความสุขที่จะพาผู้โดยสารไปพบกับแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานในประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯชั้นในและฝั่งตะวันตกเพื่อให้ย้อนรำลึกถึงกรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
สถานีวัดมังกร
เนื่องจากสถานีนี้อยู่ใกล้กับวัดมังกรกมลาวาส
หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ย่านเยาวราช
การออกแบบตกแต่งภายในสถานีจึงมีกลิ่นอายของไทย-จีน โดยการนำ “มังกร”
ซึ่งเป็นสัตว์แห่งเทพเจ้ามาประดับตกแต่งสลับลวดลายดอกบัวลายจีนอย่างงดงาม บรรยากาศภายในสถานีวิจิตรอลังการด้วยจิตกรรมลวดลายจีนในโทนแดง-ทอง
ซึ่งเป็นสีที่บ่งบอกถึงโชคลาภในความเชื่อของคนจีน
ทางออก 1 ถนนแปลงนาม เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างเยาวราชกับถนนเจริญกรุง มีความยาวเพียง 100
เมตร แต่เป็นย่านการค้าเก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อเรื่องสินค้าประเภท เครื่องดนตรีจีน, ตะเกียงเจ้าพายุและของเก่า, เครื่องครัวจีน (ปัจจุบันยังมีบางร้านขายอยู่)
ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารประเภทหูฉลามและรังนก
รวมถึงร้านอาหารจีนประเภทสตรีทฟู้ดและข้าวต้มจับเกี้ยมซึ่งเป็นการกินข้าวต้มกับอาหารหลากหลายอย่างของคนจีน
ทางออก 2 ซอยเจริญกรุง 16 ขึ้นจากสถานีนี้จะเจอ “ตลาดเก่า”
เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเพราะเป็นหนึ่งใน Destinationที่ต่างชาติต้องมา
check-in ที่ ไชน่าทาวน์แห่งนี้ อยากรู้จักวัฒนธรรมของคนจีนในเมืองไทยให้มาศึกษาที่ตลาดเก่า
ซึ่งรวบรวมทั้งของกิน ของใช้
อาหารจีนโบราณ ของแห้ง
วัตถุดิบที่นำไปทำอาหารซึ่งมีตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพงระยับอาทิ หูฉลาม
เป๋าฮื้อ
เลยจากตลาดเก่าจะเจอถนนสายทองคำ
ที่มีร้านขายทองตั้งอยู่สองฟากถนนเยาวราชซึ่งถือเป็นแหล่งขายทองรูปพรรณที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากทองคำแล้วยังมีอาหารอร่อย ๆ ที่ขายทั้งกลางวันและกลางทั้งสองฟากถนน
ที่ช่วยเพิ่มสีสันของถนนเยาวราชให้มีชีวิตชีวา
ทางออก 3 ไปวัดมังกรกมลาวาส ถือเป็นไฮไลต์ของสถานีแห่งนี้ เพราะวัดมังกรกมลาวาสหรือวัดเล่งเน่ยยี
เป็นวัดจีนเก่าแก่มีอายุ 140 ปีมีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมของคนจีนโพ้นทะเล
ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยชื้อสายจีนต้องมากราบไหว้ขอพรทุกวันขึ้นปีใหม่
เลยจากวัดมังกรฯเข้าไปในเจริญกรุง 21 จะพบกับศาลเจ้าไต่ฮงกง ศาลแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ 110 ปี เป็นที่ประทับของหลวงปู่ไต่ฮง ซึ่งเป็นที่นับถือของคนจีนที่เชื่อว่าเมื่อได้มาสักการะแล้วจะมีแต่เรื่องสิริมงคล แคล้วคลาดจากอันตรายต่าง ๆ ส่วนตรงข้ามศาลเจ้าคือมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเป็นมูลนิธิบรรเทาสาธารณภัย
สถานีสามยอด
ได้รับการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมย้อนยุคสมัยรัชกาลที่
5 แบบชิโน-โปรตุกีส
ทางเข้า-ออกสถานีออกแบบให้มีความโอ่งโถง ผนังรอบทำเป็นประตูบานเฟี้ยมซึ่งเป็นรูปแบบของประตูในสมัยโบราณ
ในกลมกลืนกับอาคารรอบ ๆ ที่ยังคงความคลาสสิกดั้งเดิมอยู่
ทางออก 1 เจอถนนมหาไชย แยกสามยอด พิพิธภัณฑ์ราชทัฑณ์ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการลงทัณฑ์ในสมัยก่อน
มีหุ่นจำลอง และเครื่องมือจริงๆ ที่ใช้ทรมานนักโทษในอดีต , สวนรมมณีนาถเป็นสวนสุขภาพ ถ้าเดินเรื่อยไปตามถนนมหาไชย
จะมีร้านอาหารสตรีทฟู้ดชื่อดังก้องโลกระดับมิชลิน
1ดาวคือร้านเจ้ไฝและร้านผัดไทยทิพย์สมัยที่ได้ Bib Gourmand คือร้านที่ต้องมาชิมจากมิชลิน
ลัดเลาะเรื่อยไปจะเจอวัดราชนัดดา
มีสถาปัตยกรรมโลหะปราสาทองค์แรกและองค์เดียวของไทย
ริมรั้ววัดเป็นย่านข้าวต้มเป็ดที่หากินได้ยาก
ทางออก 2 เป็นทางเชื่อมไปถึงห้าง ดิ โอลด์สยามพลาซ่า พาหุรัดแหล่งขายผ้าที่เก่าแก่ที่สุด แหล่งรวมสินค้าของชำร่วยที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ตลาดบ้านหม้อเป็นศูนย์รวมอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สะพานหันแหล่งรวมอุปกรณ์ทำเบเกอรี่ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ
สถานีสนามไชย
บริเวณสถานีแห่งนี้ถือเป็นส่วนเชื่อมต่อเกาะรัตนโกสินทร์ที่เป็นย่านสำคัญในประวัติศาสตร์
ตั้งแต่ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์เนื่องด้วยเป็นเส้นทางที่ใช้สำหรับพระราชพิธีหรือกระบวนแห่ต่าง
ๆ โดยชื่อ "สนามไชย" มาจากท้องสนามไชย ซึ่งเป็นลานอยู่ข้างท้องสนาม หลวง เป็นสถานที่ ๆ
ให้ข้าราชบริพารตลอดจนประชาชนใช้สำหรับเข้าเฝ้าทูล ละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในแต่ละรัชกาล
สถานีแห่งนี้ได้รับขนานนามว่าเป็น 1
ใน 4 ของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดของประเทศไทย
ด้วยแนวความคิดที่ต้องการสะท้อนเอกลักษณ์ไทยผ่านสถาปัตยกรรมสุดประณีต ประดับด้วยเสาสดมภ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างทางเดิน
ลงลายกระเบื้องเป็นดอกพิกุล ปลายเสาประดับด้วยบัวจงกลปิดทองคำเปลว
เดินอยู่ภายในสถานี ให้รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในท้องพระโรงที่ดูอลังการมาก
ส่วนพื้นและผนังจำลองมาจากกำแพงเมือง
ทางออก 1 มิวเซียมสยาม เป็น พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้นี้
ถือเป็นแหล่งการเรียนรู้หนึ่งที่เน้นจุดมุ่งหมายในการแสดงตัวตนของชนในชาติ
ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าชมที่อยู่ในวัยเด็กและเยาวชน
ได้เรียนรู้รากเหง้าของชาวไทย
ทางออก 2 โรงเรียนวัดราชบพิธ เป็นโรงเรียนเก่าแก่มีอายุ 134 ปี ถือกำเนิดขึ้นมาจากโรงเรียนสอนภาษาไทยในยุคต้นของการจัดการศึกษาในระบบโรงเรียนของไทย
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทางออก 3 สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง
สถานที่แห่งนี้เดิมเคยเป็นวีงของพระราชโอรสในพระยาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ครั้นในสมัยรัชกาลที่ 6
ทรงให้ย้ายโรงพักจากท่าเตียนให้มาอยู่ที่แห่งนี้จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง
จากสถานีตำรวจ สามารถเดินทางต่อไปยังพระบรมมหาราชวัง
วัดพระแก้ว ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และวัดโพธิ์ท่าเตียน
ทางออก 4 ปากคลองตลาด เป็นแหล่งขายสินค้าเกษตรกรรมที่เน้นการค้าส่งผัก
ผลไม้และดอกไม้สดติดอันดับ 4 ของตลาดขายดอกไม้ทั่วโลก
และเป็นตลาดค้าส่งกล้วยไม้ติดอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย
ทางออก 5 ท่าเรือราชินี อยู่ติดกับโรงเรียนราชินี
ซึ่งสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้
พระราชทานกำเนิดโรงเรียนแห่งนี้ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 ณ ตึกแถวมุมถนนอัษฎางค์ และถนนจักรเพชร ตำบลปากคลองตลาด ซึ่งเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์
และได้ทรงจ้างครูมาจากประเทศญี่ปุ่น 3 คน
ให้สอนภาษาอังกฤษ คำนวณ วิทยาศาสตร์ วาดเขียน เย็บปัก และการประดิษฐ์ดอกไม้แห้ง ภายในโรงเรียนมีตึกสุนันทาลัยซึ่งสวยงามมาก
ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Neo Classic
จากทางออกนี้สามารถเดินไปถึงท่าเตียน ท่ามหาราช และท่าพระจันทร์ทะลุไปถึงท้องสนามหลวง
สถานีอิสรภาพ
สถานีแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนอิสภาพ
ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของชาติไทยและทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี ภายในสถานีใช้สัญลักษณ์ “หงส์”
ซึ่งเป็นสัตว์สิริมงคลและศักดิ์สิทธิ์และยังเป็นสัญญลักษณ์ของวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร
พระอารมหลวง เป็นวัดสำคัญในสมัยกรุงธนบุรีและเป็นวัดที่อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ภายในสถานีถูกออกแบบอย่างดงามด้วยลวดลายหงส์มีทองบนพื้นเสา
ซึ่งหงส์นี้ทำจากวัสดุอะคริลิกสีทองและอะคริลิกใสฉลุลายซ้อนทันกันเกิดเป็นมิติความลึกของลายหงส์
ทางออก 1 ถนนอิสรภาพ 34
เป็นถนนที่มุ่งตรงไปสีแยกบ้านแขกและวงเวียนใหญ่สถานที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ทางออก 2 อิสรภาพ 23
สามรถเดินทางต่อไปยังวัดอรุณราชวราราม
เป็นวัดเก่าแก่มากสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คือเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง
จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่าวัดแจ้ง
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเช่นกัน ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดแห่งนี้
โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช
โรงพยาบาลศิริราช เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันถือนับเป็นโรงพยาบาลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียอาคเนย์ ติดกับโรงพยาบาลจะมีตลาดวังหลังที่คึกคักไปด้วยอาหารนานาชนิด เสื้อผ้า ของใช้