คนไทยเมื่อเอ่ยถึงเมือง “ฮอยอัน” มักจะมีคำสร้อยตามมาว่า “ ฉันรักเธอ” ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากละครทีวีแนวโรแมนติกดรามายอดฮิตเรื่อง “ฮอยอันฉันรักเธอ” ที่เคยออกอากาศทางช่อง 3 เมื่อปี 2548 นำแสดงโดยแดน-วรเวช ดานุวงศ์และเจนนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ
ละครเรื่องนี้ช่วยเปิดโลกอีกมุมหนึ่งให้คนไทยได้เข้าไปสัมผัสกับวิถีชีวิตและความงดงามแบบคลาสสิกของเมืองมรดกโลกอย่างฮอยอันที่ไม่มีที่ไหนในโลก ตึกเก่าแก่สไตล์โคโลเนียลอายุกว่าร้อยปีที่ยังอนุรักษ์ความงดงามเอาไว้ กลมกลืนกับวิถีชีวิตของคนฮอยอันที่สาว ๆ ยังนิยมสวมใส่ชุด "อ๋าวหย่าย" สวมหมวกงอบปลายแหลมแบบเวียดนาม และที่ขาดไม่ได้คือภาพปั่นจักรยานสองล้อ หรือรถจักรยานโดยสารสามล้อสำหรับพานักท่องเที่ยวตระเวนไปรอบเมือง อันเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมืองนี้
ฮอยอัน เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากเมืองท่าดานัง ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทูโบน ห่างจากชายฝั่งทะเลเข้ามาตอนในระยะทางไม่กี่กิโลเมตร ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากเพราะมีชาวตะวันตกนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18
เพราะความงดงามและเก่าแก่ของบ้านเมือง รวมทั้งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น องค์กรยูเนสโกประกาศให้ฮอยอันเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อปี 2542 ซึ่งหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่นิยมไปยลความงามของเมืองนี้คือคนไทย เพราะการเดินทางไปฮอยอันสะดวกง่ายดายมีสายการบินหลายสายบินตรงจากกรุงเทพฯไปฮอยอันซึ่งห่างจากดานัง 30 กิโลเมตร สามารถเดินทางจากสนามบินดานังด้วยshutter bus หรือ แท็กซี่ก็ได้ โดยใช้เวลา 40 นาที แบบสบาย ๆ
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือค่าครองชีพของเมืองนี้ถูกมากเมื่อเทียบกับเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอื่น ๆ เดินไปกินอาหารในร้านดี ๆ แบบอิ่มกำลังดีสนนราคาเฉลี่ยคนละ 500 – 600 บาทเท่านั้น ( ไม่รวมค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) รวมถึงค่าที่พักซึ่งมีตั้งแต่เกสต์เฮ้าส์ไปถึงโรงแรมที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ในราคาเริ่มต้นที่ 700-1,500บาท/คน/คืน หรือกาแฟสดร้อน ๆ ราคาเริ่มต้นที่ถ้วยละ 70 บาท
เมืองฮอยอันในเขตเมืองเก่าที่เป็นมรดกโลกนั้นเดินหากาแฟจิบง่ายกว่าหาร้านเฝ๋อเสียอีก นี่เป็นเรื่องจริงที่ผู้เขียนสัมผัสมาเอง เพราะเวียดนามได้ชื่อว่าเป็นประเทศส่งออกกาแฟเป็นอันต้น ๆ ของโลกรองจากบราซิล “กาแฟ”จึงเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนเวียดนาม กาแฟเวียดนามส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์อาราบิก้า และ โรบาสต้า โดยคนฝรั่งเศสเป็นชาติที่นำกาแฟเข้าไปปลูกในเวียดนามเป็นครั้งแรก เมื่อปี 1857 สมัยที่เวียดนามเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศส
ร้านกาแฟในฮอยอันต้องเรียกว่าผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด เดินแค่ 10 ก้าวก็จะเจอร้านกาแฟ 1 ร้าน และแทบทุกร้านก็มีนักท่องเที่ยวนั่งชิวชิวกันเกือบเต็มร้าน เพราะร้านกาแฟส่วนใหญ่นิยมนำตึกโบราณเก่าแก่มาตกแต่งแบบเท่ ๆ หลากหลายสไตล์ โดยมีเมนูกาแฟหลากหลาย ให้ลูกค้าที่เดินชมเมืองจนเมื่อยได้เข้ามานั่งพักขา จิบกาแฟร้อน ๆ หอมกรุ่น ทอดอารมณ์ออกไปนอกร้านเห็นผู้คนเดินไปมา หรือบางร้านมีชั้นบนให้ลูกค้าหลบมุมขึ้นไปชมวิวเมืองจากที่สูง มองเห็นหลังคากระเบื้องโบราณที่มีคราบตะไคร่จับบ่งบอกเรื่องราวกาลเวลาของเมืองนี้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายร้อยปี ถือเป็นการใช้ชีวิตแบบ slow life ของคนเมืองที่หนีความวุ่นวายมาเสพสุขที่นี่
รสชาติกาแฟแบบเวียดนามจะเข้มข้น ยิ่งชงในสไตล์เวียดนามคือใช้ระบบหยดจากภาชนะที่ออกแบบมาเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม จะได้รสกาแฟที่เข้มมาก นิยมดื่มคู่กับนมข้นหวานเพื่อมาเป็นตัวช่วยลดความเข้มของรสกาแฟ
ร้านกาแฟในฮอยอันส่วนมากใช้เมล็ดกาแฟสด คั่วบดตามสูตรของแต่ละร้านร้าน บางร้านที่มีลูกค้ามาอุดหนุนเยอะ ก็จะทำขายเมล็ดกาแฟคั่วในแบรนด์ของร้านเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ติดใจสามารถนำกลับไปชงดื่มที่บ้านได้ แต่ถ้าใครต้องการซื้อกาแฟสไตล์เวียดนามติดไม้ติดมือกลับบ้านขอแนะนำไปร้าน HEIRLOOM COFFEE ร้านนี้จะขายเมล็ดกาแฟเวียดนาม ซึ่งมีให้ลูกค้าเลือกรสชาติตามความชอบไม่ต่ำกว่า 50 แบบ รวมถึงเครื่องชงกาแฟน่ารัก ๆ ที่สามารถซื้อเป็นของฝากได้อีกมากมาย
ชีวิต slow life ในแบบฮอยอัน แค่เดินชมบ้านโบราณสไตล์โคโลเนียลหรือบ้านไม้เก่าแก่ในแบบเวียดนามโบราณ แวะจิบกาแฟหอมกรุ่น พักสมอง พักใจ แค่นี้ก็คุ้มค่ากับการได้มาสัมผัสเมืองมรดกโลกแห่งนี้แล้ว
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333