สหรัฐฯ คุมเข้มขอวีซ่าต้องเช็กโซเซียลย้อนหลัง 5 ปี

SME Update
05/06/2019
รับชมแล้วทั้งหมด 3007 คน
สหรัฐฯ คุมเข้มขอวีซ่าต้องเช็กโซเซียลย้อนหลัง 5 ปี
banner

เมื่อเร็วๆ นี้ทางกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐที่ออกใหม่ ได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบผู้ย้ายถิ่นฐานและนักท่องเที่ยวให้เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อความปลอดภัย โดยได้ขอให้ผู้ยื่นขอวีซ่าเกือบทุกคนต้องยื่นข้อมูลโซเชียลมีเดียของตนเองประกอบคำร้องด้วย

ทั้งนี้ ข้อมูลเพิ่มเติมที่สหรัฐฯ จะใช้ตรวจสอบประวัติของผู้ยื่นขอวีซ่า ครอบคลุมตั้งแต่ชื่อผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย ที่อยู่อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงสถานะการเดินทางระหว่างประเทศและการถูกส่งตัวกลับในช่วง 5 ปีเช่นกัน อีกทั้งยังต้องรายงานข้อมูลว่ามีสมาชิกรายใดในครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมก่อการร้ายหรือไม่

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme 

โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯระบุว่า “เราให้ความสำคัญกับความมั่นคงของชาติเป็นลำดับแรกเมื่อพิจารณาคำร้องขอวีซ่า นักท่องเที่ยวและผู้ย้ายถิ่นฐานทุกคนล้วนต้องผ่านการตรวจสอบด้านความมั่นคงอย่างเข้มข้น ทั้งกำลังมองหากลไกที่จะช่วยปรับปรุงกระบวนการคัดกรองอยู่เสมอ เพื่อปกป้องชาวอเมริกัน และสนับสนุนการเดินทางอย่างถูกกฎหมายมายังสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามนโยบายนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันถูกเสนอมาตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และเพิ่งมีผลหลังแบบคำร้องขอวีซ่าฉบับแก้ไขใหม่ได้รับการอนุมัติ ผู้ที่ได้รับการยกเว้นมีเพียงผู้ยื่นขอวีซ่าที่เป็นนักการทูตและข้าราชการบางส่วนเท่านั้น


โดยนโยบายนี้จะใช้กับผู้ยื่นขอวีซ่าเกือบทุกคนที่ยื่นขอวีซ่าถาวร (immigrant visa) และวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (nonimmigrant visa) รวมทั้งผู้ที่ยื่นขอวีซ่าเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและทางการศึกษา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ประเมินว่านโยบายใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ยื่นขอวีซ่าถาวรจำนวน 710,000 คน และผู้ยื่นขอวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราวอีก 14 ล้านคนต่อปี

ทั้งในอดีตสหรัฐฯ เคยมีมาตรการที่คล้ายคลึงกันเช่นนี้ แต่ก็ส่งผลให้ผู้ยื่นขอวีซ่าที่ต้องผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดมีเพียงราว 65,000 คนต่อปีเท่านั้น ตัวอย่างผู้ที่เข้าข่ายมาตรการในอดีตเช่น ผู้ที่มีประวัติการเดินทางไปยังพื้นที่ที่ถูกควบคุมโดยผู้ก่อการร้าย

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ประกาศขอโซเชียลมีเดียไว้ทั้งหมด 20 แพลตฟอร์มด้วยกัน ซึ่งในจำนวนนั้นมีโซเชียลมีเดียที่คนไทยคุ้นเคย เช่น เฟซบุ๊ก ฟลิกเกอร์ กูเกิลพลัส อินสตาแกรม ลิงค์อิน มายสเปซ พินเทอเรสต์ เรดดิท ซินล่างเว่ยโป๋ ทวิตเตอร์ ทัมเบลอร์ และยูทูบ ส่วนในอนาคตอาจมีรายชื่อเพิ่มขึ้นอีก

อ้างอิง : China Xinhua News


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

TikTok ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคน ทั้งครีเอเตอร์ คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน และธุรกิจทุกขนาดในไทย ด้วยการเปิดตัว…
pin
1049 | 14/02/2024
ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่ยานพาหนะต่าง ๆ ทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ และเรือ ต่างมุ่งสู่การใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่เป็นพลังงานสะอาดกันแล้ว แต่สำหรับการเดินทางโดยอากาศยาน…
pin
1388 | 26/01/2024
จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

ปี 2024 นี้ ธุรกิจไหนมาแรง ธุรกิจไหนน่าจับตา เทรนด์ธุรกิจใดกำลังมาแรง Bangkok Bank SME สรุปมาไว้ในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางแก่ SME และผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจทุกท่าน…
pin
1667 | 25/01/2024
สหรัฐฯ คุมเข้มขอวีซ่าต้องเช็กโซเซียลย้อนหลัง 5 ปี