‘LiVE Exchange’ ตลท. สร้างโอกาส SME ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์
โอกาสสำหรับผู้ประกอบการ SME
เมื่อตลาดหลักทรัพย์ เปิดตัว ‘LiVE Platform’ บ่มเพาะธุรกิจสู่ ‘LiVE
Exchange’ ตลาดทุนสำหรับ SME และ Startups เผยความสำเร็จ มีบริษัทพร้อมเข้าซื้อขายหลักทรัพย์กระดาน 3 นำร่องแล้ว 30 บริษัท
หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) ได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดกระดานซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับ SME และ Startups มาหลายปี ล่าสุดภายหลังที่ ตลท.
ปิดรับฟังความคิดเห็นหลักเกณฑ์การระดมทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม (SME
Board) พร้อมกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่
3 กันยาน ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างจะเสนอให้บอร์ด ตลท.
รับทราบต่อไปนั้น ถือเป็นการขยับเข้าสู่ความสำเร็จในการเปิดให้ SME ไทย สามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างแท้จริง
ดังนั้นเหล่าบรรดา SME
ไทย จึงไม่ควรพลาดที่จะจับตา ติดตามความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้
โดยเฉพาะบริษัทที่มีเป้าหมายชัดเจน ที่จะขยายกิจการเข้าสู่บริษัทมหาชน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
รู้จัก ‘LiVE
Platform’ แพลตฟอร์มแห่งความเติบโต
นายประพันธ์ เจริญประวัติ
ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
เปิดเผยกับ Smart SME ว่าจากการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) เปิดตลาดรอง mai มา 22 ปี
ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ปีนี้ ตลท.
กำลังจะก้าวสู่ความสำเร็จใหม่อีกครั้ง ด้วยการผลักดันให้เกิดตลาดทุนสำหรับ SME
และ Startups (SME Board)
ภายใช้ชื่อ ‘LiVE Exchange’ เป้าหมายเพื่อให้ตลาดทุน
เป็นส่วนหนึ่งของรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในการผลักดันตลาดทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนานย่อม
หรือ SME
นั้น จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมหลากหลายมิติ
โดยเฉพาะความพร้อมของบริษัทผู้ประกอบการ
ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักจะทำให้ประสบความสำเร็จ ทาง ตลท. จึงได้จัดทำแพลตฟอร์ม
ที่ชื่อ ‘LiVE Platform’ ขึ้นมา เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับ
SME และ Startups ที่ต้องการเข้าระดมทุนในตลาดทุนที่ตั้งขึ้นดังกล่าว
สำหรับ LiVE Platform เป็น แพลตฟอร์มเปิด แบ่งเป็น 3 ระดับ ประกอบด้วย
: Education Platform
: Scaling Up Platform
: LiVE Acceleration Platform
ความรู้แน่นๆ ฟรี ที่ https://www.live-platforms.com/
ดังที่กล่าวว่า
การเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ประกอบการเป็นเรื่องสำคัญ
แพลตฟอร์มนี้จึงได้จัดทำแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการ
รวมทั้งนักลงทุนและผู้สนใจทั่วไป โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านทาง https://www.live-platforms.com/ ซึ่งภายในประกอบไปด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ
อาทิ บทความ คลิปความรู้ Infographic สัมมนาย้อนหลังดีๆ
รวมทั้งระบบ E-Learning และแบบทดสอบความรู้
โดยเฉพาะระบบ E-Learning
มีหลักสูตรการบริหารจัดการ ที่จำเป็นต่อผู้ประกอบการมากมาย
ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น การตลาด บัญชี การเงิน
และความรู้ทางธุรกิจสมัยใหม่ต่างๆ
ระดมสุดยอดที่ปรึกษา เพื่อหนุนการเติบโต
Scaling up Platform มุ่งสร้างความแข่งแกร่งให้กับผู้ประกอบการที่พร้อมจะเติบโต
ต้องการหาผู้ร่วมทุนกู้เงินธนาคาร
รวมทั้งมีความตั้งใจที่จะเข้าสู่ตลาดทุนต่อไป
โปรแกรมนี้ถือว่ามีความเข้มข้นจริงจัง
ประกอบไปด้วย
1. การอบรมเรียนรู้หลักสูตรเชิงลึกต่างๆ (Advanced
Education) อาทิ ด้านบัญชี ด้านภาษีและกฎหมาย ด้านการเงิน
การจัดการทรัพยากรมนุษย์
2. การสนับสนุนให้สามารถใช้ระบบปฏิบัติการต่างๆ
เพื่อประสิทธิภาพการบริหาร (Enterprise System) ไม่ว่าจะเป็น
ระบบ ERP บัญชี ภาษี การควบคุมภายในระบบ Back Office ระบบเงินเดือน
3. โปรแกรม คลินิกที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business
Coaching)
4. การเจรจาและจับคู่ทางธุรกิจ (Business
Matching)
ทั้งนี้ ตลท. ทุ่มงบประมาณกับ Platform
นี้ไม่น้อย โดยจับมือกับบริษัทชั้นนำมาอบรมและเป็นที่ปรึกษา อาทิ
ด้านบัญชีคือ บริษัท PWC Pricewaterhouse Coopers, ด้านภาษีและกฎหมายคือ
บริษัท Baker Mc Kenzie เป็นต้น
รับ 1.5 ล้านบาท
พร้อมเข้าสู่ตลาดทุน
LiVE Acceleration Program คือจุดสุดท้ายของเส้นทางการบ่มเพาะ
SME และ Startups ที่จะเข้าสู่ตลาดทุน SME
Board หรือ LiVE Exchange โดยโปรแกรมนี้
มุ่งที่จะพัฒนาระบบงานที่สำคัญขององค์กร
โดยมีผู้เชี่ยวชาญอบรมและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้สามารถระดมทุนในตลาดทุนได้
โปรแกรมนี้หากบริษัทใดเข้าร่วมโครงการและสามารถผ่านหลักสูตรได้
จะได้รับเงินสนับสนุน 1.5 ล้านบาท
เพื่อเป็นทุนในการบริหารจัดการ ให้สามารถเข้าสู่การระดมทุนในตลาดทุนอีกด้วย
เข้าโปรแกรมไม่ง่ายและต้องจริงจัง
ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai
เผยว่า LiVE Platform ในส่วน Education
Platform เปิดให้ทุกคนที่สนใจเข้าไปเรียนรู้ได้ฟรี แต่เมื่อขยับเป็น
Scaling up Platform จะต้องมีการสมัครและได้รับการคัดเลือก
โดยต้องเป็นบริษัทต้องแสดงเจตจำนงชัดเจนว่า ‘ต้องการขยายธุรกิจ’ รวมทั้งยกระดับเป็นการระดมทุนผ่านตลาดทุนใหม่ ตามโครงการ LiVE
Exchange
นอกจากนี้การอบรมและการทดสอบความรู้ในส่วนของขั้น
LiVE
Acceleration Program จะต้องเรียนรู้การทำแผนธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่การระดมทุนอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกบริษัทสามารถมีผู้ร่วมทุน หรือเข้าสู่กระบวนการยื่นขอเสนอขายหลักทรัพย์
(Filing) ได้จริง
เปิดโอกาส SME
ไม่ใช้เกณฑ์ทุนจดทะเบียน
อย่างไรก็ตาม การเปิด LiVE
Exchange เป็นสิ่งที่มีความละเอียดอ่อน
โดยด้านหนึ่งจะทำอย่างไรให้บรรดา SME และ Startups สามารถเข้าสู่ตลาดทุนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากหากใช้เกณฑ์ mai น่าจะเข้มจนเกินไป จึงจำเป็นต้องขยับลดเกณฑ์บางอย่าง
แต่อีกด้านก็ต้องคุ้มครองนักลงทุนด้วยเช่นกัน ดังนั้น ตลท. จึงเลือกมุ่งเน้นไปที่จำกัดเฉพาะให้นักลงทุนสถาบัน
และนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความรู้ โดยการซื้อขายจะถูกกำหนดให้เป็นเงินสด
และซื้อขายได้เพียงวันละ 1 รอบ เท่านั้น
กล่าวถึงเกณฑ์การเข้าระดมทุนในกระดาน LiVe
Exchange นั้น หลักๆ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. SME หากเป็นธุรกิจประเภทบริการ
จะต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 50 ล้านบาทต่อปี
หากเป็นภาคผลิตต้องมีรายได้ 100 ล้านบาทต่อปี
โดยเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง แม้จะยังไม่มีกำไร
2. Startups จะต้องเป็น Post
Series A หมายถึงต้องเป็นบริษัทที่มี VC หรือ Venture
Capital ร่วมลงทุนอยู่แล้ว เนื่องจากเป็น Startups ได้รับการตรวจสอบจาก VC มาแล้ว
เชื่อได้ว่ามีความมั่นคงแข็งแกร่งในระดับหนึ่งแล้ว
ทั้งนี้จะเห็นว่า การระดมทุนใน LiVE
Exchange ไม่มีเกณฑ์ทุนจดทะเบียนบริษัท นอกจากนี้ยังลดเกณฑ์ตรวจสอบบัญชีตามมาตรฐานรายงานทางการเงิน
(PAE) จาก 3 ปี เหลือ 1 ปี และเมื่อเข้าซื้อขายแล้วยังแสดงรายงานปีละ 2 ครั้ง
ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายได้อีกส่วนหนึ่ง
นี่คือความคืบหน้าของ SME
Board ซึ่ง ตลท. ได้เชื่อมโยงไว้บนแพลต LiVE Platfrom สร้างผู้ประกอบการเข้าระดมทุนในกระดาน LiVE Exchange ที่คาดว่าจะเปิดตัวภายในปลายปีนี้ โดยมีบริษัทที่ได้รับการบ่มเพาะพร้อมเข้าเทรดแล้ว
30 บริษัท นับเป็นก้าวสำคัญในการเปิดให้ SME และ Startups ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ผลักดันเศรษฐกิจไทยอีกด้านหนึ่ง