อังกฤษพัฒนา SeaCURE ช่วยดูด CO₂ จากทะเล โอกาสใหม่สำหรับ SME

โครงการซีเคียว (SeaCURE) คืออะไร มีแนวคิดอย่างไร?

โครงการ SeaCURE คือ โครงการนำร่องที่มีจุดเริ่มต้นในเมืองเวย์มัธ (Weymouth) ของอังกฤษ เพื่อศึกษาความคุ้มค่า และประสิทธิภาพของการลดคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ในมหาสมุทร เนื่องจากมหาสมุทรเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศประมาณร้อยละ 25 ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมของมนุษย์

แนวคิดของเทคโนโลยี SeaCURE คือ การดึง CO₂ ออกจากน้ำทะเลโดยตรง โดยเริ่มจากการทำให้น้ำทะเลเป็นกรด เพื่อเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ที่ละลายอยู่ในน้ำให้กลายเป็นก๊าซ จากนั้นจึงดักจับก๊าซดังกล่าวและนำไปจัดเก็บแบบถาวร

ส่วนน้ำทะเลที่ผ่านกระบวนการแล้ว จะถูกปรับค่า pH ให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ ก่อนปล่อยคืนสู่มหาสมุทร เพื่อช่วยฟื้นสมดุลของระบบธรรมชาติและเพิ่มความสามารถในการดูดซับ CO₂ ได้มากขึ้น

กระบวนการแลกเปลี่ยน CO₂ ระหว่างมหาสมุทรกับชั้นบรรยากาศจึงยังคงดำเนินต่อไปตามธรรมชาติ โดยน้ำทะเลที่ปล่อยกลับออกไปจะมีคุณสมบัติทางเคมีใกล้เคียงกับน้ำเดิม นักวิจัยยังมีการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลควบคู่กันด้วย

ข้อดีของ SeaCURE หรือการดึงคาร์บอนออกจากน้ำทะเล คือความเข้มข้นของ CO₂ ในน้ำทะเลตามธรรมชาตินั้นสูงกว่าในอากาศมาก ทำให้ SeaCURE มีความสามารถดึงคาร์บอนออกมาจากทะเลได้มากกว่าการดักจับคาร์บอนในอากาศมากถึง 150 เท่า จึงเป็นเหตุผลให้ SeaCURE มีประสิทธิภาพสูงกว่าเทคนิคการดักจับคาร์บอนจากอากาศโดยตรง (Direct Air Capture) ที่มีอยู่ในปัจจุบันมาก

เมื่อเทคโนโลยีรักษ์โลกกลายเป็นแต้มต่อของ SME

แม้ว่าเทคโนโลยี SeaCURE จะถูกพัฒนาขึ้นในอังกฤษ และการทดลองของ SeaCURE จะยังอยู่ในช่วงวิจัยและทดสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่เทคโนโลยีรักษ์โลกก็มีศักยภาพที่จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับ SME ในประเทศไทยได้เช่นกัน

SME มีโอกาสในการเข้าสู่ตลาดโลก

SME ไทยที่ใส่ใจและติดตามเทรนด์เทคโนโลยีรักษ์โลก จะมีโอกาสปรับตัวให้สอดคล้องกับข้อบังคับสากล และสามารถส่งออกสินค้าหรือบริการเข้าสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีรักษ์โลกมีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยแนวโน้มของเทคโนโลยีคาร์บอนติดลบ (Carbon Negative Tech) มีการเติบโตอย่างชัดเจนในระดับโลก โดยสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และแคนาดา เป็นผู้พัฒนาหลักของเทคโนโลยีคาร์บอนติดลบ ปัจจุบันมีสตาร์ตอัปจำนวนมากในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว โดยเฉพาะสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่ดำเนินมาตรการที่เข้มงวดขึ้นในการกำหนดมาตรฐานคาร์บอนตลอดห่วงโซ่อุปทาน 

เตรียมความพร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy)

SME ไทยควรเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ผู้ประกอบการควรติดตามข่าวสาร และนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศ เริ่มต้นจากทำความเข้าใจเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม (Climate Tech) ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท เช่น พลังงานหมุนเวียน การเกษตรอัจฉริยะ และตัวอย่างจาก SeaCURE เป็นเทคโนโลยีในการดักจับและจัดเก็บคาร์บอน

โอกาสในการคิดค้นและต่อยอดนวัตกรรมใหม่ ๆ  

การทำความเข้าใจเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม (Climate Tech) เช่น พลังงานหมุนเวียน การเกษตรอัจฉริยะ หรือเทคโนโลยีการดักจับและจัดเก็บคาร์บอนอย่าง SeaCURE จะกระตุ้นให้ SME ไทยสามารถคิดค้นและต่อยอดนวัตกรรมของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น สร้างแพลตฟอร์มติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์ พัฒนาบริการบำบัดน้ำทะเลแลกเครดิตคาร์บอน หรือให้บริการฟอกอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น

ข้อควรคำนึงสำหรับ SME 

ต้นทุนพลังงานที่ใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำ และดักจับ CO₂ อาจไม่เหมาะสำหรับการขยายในวงกว้าง นอกจากการลงทุนระบบดักจับคาร์บอนแล้ว การสร้างพลังงานเพื่อนำไปใช้ในระบบดักจับนั้นยังต้องใช้พลังงานหมุนเวียน 100% อีกด้วยเพื่อให้เกิดคาร์บอนติดลบ (Carbon Negative) อย่างแท้จริง โดย SeaCURE ระบุว่าได้ใช้พลังงานหมุนเวียนจากโครงข่ายไฟฟ้าและกำลังสำรวจทางเลือกการผลิตไฟฟ้าที่เหมาะสมต่อไป

อย่างไรก็ตาม SME ที่ต้องการขยับเข้าใกล้แนวคิด Net Zero ควรประเมินโครงสร้างต้นทุนของตนเอง และหาแนวทางร่วมกับพันธมิตร เช่น สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ธนาคารที่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งอาจช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะเริ่มต้นได้

บทสรุป

จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยี SeaCURE จากประเทศอังกฤษเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ที่สะสมอยู่ในผิวน้ำที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการไทยมองเห็นเทรนด์เรื่องการลดคาร์บอน และเทคโนโลยีรักษ์โลก ทั้งยังสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ ๆ ได้อีกด้วย
แม้ว่าเทคโนโลยี SeaCURE นี้จะยังมีต้นทุนพลังงานสูงและอยู่ในช่วงการวิจัยและทดสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ SME สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ จากการลดคาร์บอนในธุรกิจของตน รวมทั้งศึกษาและทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ธุรกิจมีแต้มต่อในอนาคตได้

ข้อมูลอ้างอิง

1. The technology สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2568 จาก https://sites.exeter.ac.uk/seacure/the-technology/

2. How oceans can help in reducing carbon dioxide สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2568 จาก https://timesofindia.indiatimes.com/science/how-oceans-can-help-in-reducing-carbon-dioxide-a-uk-project-finds-the-way-forward/articleshow/120481922.cms

3. รับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ด้วย Climate Tech สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.greenyellow.co.th/en/blogs/what-is-climate-tech/

4. Everything You Need to Know About Green Technology in 2025 สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2568 จาก https://greenly.earth/en-gb/blog/industries/everything-you-need-to-know-about-green-technology-in-2022

5. Carbon-Negative Technologies: Discover Major Hubs, Industries, and Trends สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.startus-insights.com/innovators-guide/carbon-negative-technologies-discover-major-hubs-industries-and-trends/