ส่องโมเดล ‘เจเอสพี’ โรงงานผลิตยามหาชน ชูสมุนไพรไทย เพิ่มมูลค่า Value Chain อุตสาหกรรมยา

SME in Focus
02/07/2023
รับชมแล้วทั้งหมด 1680 คน
ส่องโมเดล ‘เจเอสพี’ โรงงานผลิตยามหาชน ชูสมุนไพรไทย เพิ่มมูลค่า Value Chain อุตสาหกรรมยา
banner
บทความนี้ Bangkok Bank SME จะพาไปทำความรู้จักกับ พี่น้องฝาแฝด ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แฝดผู้พี่ดูแลด้านนวัตกรรม ส่วนแฝดคนน้อง คุณพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานวิจัยและพัฒนารับผิดชอบด้านวิจัยและการตลาด บริษัทโรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP

ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้า ทั้งยา, อาหารเสริม, เครื่องสำอาง, สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามินบำรุงร่างกาย รวมทั้งกาแฟเพื่อสุขภาพ และจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร กับแนวคิดทางธุรกิจที่คิดแบบครอบคลุม ครบทุกมิติ 

ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลของทั้ง 2 ท่าน ทำให้เห็นช่องว่างในการเติบโตของสินค้า รู้ว่าอุปสรรคใดที่ต้องก้าวข้ามและเปลี่ยนเป็นโอกาสที่ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จ จนสามารถนำโรงงานผลิตยาจากสินค้าเกษตรไทยเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จอย่างงดงาม



ดร.สิทธิชัย กล่าวว่า เริ่มต้นจากรุ่นคุณปู่ ซึ่งทำธุรกิจร้านขายยาเล็ก ๆ ที่ตึกแถวย่านหัวลำโพงชื่อว่า ‘อั้งง่วนเฮง สุภาพโอสถ’ ดำเนินกิจการกว่า 70 ปี จากนั้นเริ่มปรับมาเป็นธุรกิจกงสี เนื่องจากคุณปู่มีพี่น้องหลายคน จนแตกตัวเพื่อเติบโต จากยี่ปั๊วขายยา กลายมาเป็นธุรกิจขายส่งยารักษาโรค 



มีโรงงานผลิตยาชื่อว่า เอ.เอ็น.เอช. ที่ย่อมาจาก อั้งง่วนเฮง ซึ่งเป็นของพี่ชายคนโต ส่วนคุณปู่ผมเป็นน้องคนรองลงมาท่านเปิดโรงงานผลิตยาเช่นกัน คือ โรงงานเภสัชอุตสาหกรรมค็อกซ์ COX LABORATORIES และยังมีธุรกิจโรงงานผลิตและจัดจำหน่าย ตู้เซฟ LEECO เนื่องจากน้องสาวคุณปู่ท่านแต่งงานกับสามีที่ทำธุรกิจดังกล่าว 



ธุรกิจอากง ‘โรงงานเภสัชอุตสาหกรรมค็อกซ์’ (COX LABORATORIES)

อากง คือคุณปู่ สร้างโรงงานนี้ร่วมกับคุณพ่อ ซึ่งรุ่นคุณพ่อได้เข้ามาช่วยงานตั้งแต่สมัยเรียนที่มหาวิทยาลัย หลังจากทำโรงงานยาสักพัก มีซัพพลายเออร์จำหน่ายขวดแก้ว ขวดพลาสติก ชื่อ ตั้งซุ่นฮวด มาติดต่อ ความบังเอิญคือลูกสาว (คุณแม่) ของซัพพลายเออร์รายนั้นเรียนที่เดียวกับคุณพ่อ จนท่านทั้งสองได้แต่งงานกันในที่สุด รุ่นผมจึงกลายเป็นทายาทธุรกิจที่คุณพ่อทำโรงงานยา และคุณแม่ทำโรงงานขายขวด ลงตัวพอดี 



ผมเป็นเจนเนอเรชันที่ 3 ที่เข้ามาบริหารธุรกิจนี้กว่า 30 ปีแล้ว ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น ผมเรียนจบด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร (Food science Biotechnology) เอกนวัตกรรม โดยคำแนะนำของคุณพ่อ เนื่องจากเห็นโอกาสว่าประเทศไทยเรามีความโดดเด่นเรื่องอาหาร 

มีวัตถุดิบที่ดีไม่แพ้ใครในโลก พอเรียนจบจึงปรึกษาคุณพ่อว่าอยากนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้กับธุรกิจยาด้วยการทำสินค้ากลุ่มอาหารเสริม 

ผมตั้งชื่อโรงงานผลิตอาหารเสริม ว่า JSP ย่อมาจากชื่อคุณแม่ (จินตนา) ชื่อผม (สิทธิชัย) และชื่อคุณพ่อ (ประสิทธิชัย) โดยเริ่มจากโรงงานเล็ก ๆ ดีไซน์ทุกอย่างเอง ด้วยความที่เราเป็นนักวิทยาศาสตร์ จึงใช้ความรู้จากสาขาที่เรียนมาวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเสริมร่วมกับเภสัชกรในโรงงาน 

“จุดเริ่มต้น...ต้องสร้างแบรนด์” นี่คือความคิดแรกของเรา หลังจากได้สูตรแล้วจึงสร้างแบรนด์ขึ้นมาชื่อว่า Twin Wye เป็นเวย์โปรตีน 



แต่เพราะเราเรียนมาด้านวิทยาศาสตร์ มีความรู้ด้านการผลิต ส่วน Knowhow การตลาด การเงิน การสร้างแบรนด์ ฯลฯ คือไม่รู้เลย ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ 

จากนั้น จึงคิดหาแนวทางทำธุรกิจใหม่ ซึ่งเห็นโอกาสว่าเรามีความพร้อมด้านการผลิต น่าจะเบนเข็มมาเป็นผู้รับจ้างผลิตแทนการทำแบรนด์เอง แม้ว่ากำไรจะไม่มาก แต่มีข้อดีเรื่องเงินหรือค้าจ้าง เพราะได้เงินมัดจำก่อน 50% และอีก 50% ได้หลังจากส่งของให้ลูกค้าแล้ว

รูปแบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงด้านการเงิน ขณะที่วัตถุดิบอย่างเคมี แพ็คเกจจิ้ง เรามีเครดิตเทอม ธุรกิจรับผลิตอาหารเสริมแบบ OEM จึงไม่ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเยอะ เราจึงเริ่มเรียนรู้เรื่องการจัดการการเงินมากขึ้น

การก้าวเป็นผู้บริหารขณะอายุเพียง 23 ปี แม้ว่าคนทั่วไปอาจจะมองว่ามีประสบการณ์น้อย แต่ด้วยการสั่งสมทักษะด้านการทำธุรกิจครอบครัวบวกับการได้ลองถูกลองผิดในเวทีธุรกิจจริง ทำให้ ดร.สิทธิชัยและคุณพิษณุ ได้เรียนรู้และผ่านบททดสอบแบบเล่นจริง เจ็บจริง ในฐานะเจ้าของธุรกิจเป็นอย่างดี 




“ถ้าเป็นด้านการลงทุน ซื้อเครื่องจักร หรืองานด้านการวิจัยพัฒนาในราคาหลักล้าน ผมกล้าลงทุนเพราะเรารู้ว่าถ้าได้มาจะผลิตยาได้กี่เม็ด แต่ในทางกลับกัน หากบอกให้ผมลงทุนหลักแสนไปกับงานด้านการตลาดที่ไม่ถนัด ผมจะไม่มีความมั่นใจ เพราะฉะนั้นการเลือกทำสิ่งที่เราเชี่ยวชาญจึงเป็นแนวทางที่เราทำ และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”



หลังจากทำยา รับจ้างผลิตอาหารเสริม เริ่มได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น จากนั้น ดร.สิทธิชัย ได้เดินทางไปเรียนต่อด้านการแพทย์แผนไทย และเปิดโรงงานผลิตยาสมุนไพร OEM พร้อมขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง 

ปัจจุบันกลายเป็นบริษัทผู้ผลิตยาและอาหารเสริมรายใหญ่ มีโรงงานผลิตถึง 2 โรงงาน ธุรกิจเติบโตมียอดขายที่ดี จึงตัดสินใจปรึกษาคุณพ่อและคุณแม่เรื่องการลงทุนใหม่อีกครั้ง ขยายและสร้างโรงงานเพิ่มเติม 

โดยเล็งเห็นว่ากลุ่มอุตสาหกรรม Wellness เป็นเทรนด์ที่มาแรง อีกทั้งยังเข้าร่วมอบรมกิจกรรมที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อศึกษาหาความรู้ ปูทางการนำธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

หลังจากใช้เวลา 5 ปีเต็ม บริษัทโรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้เปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจกงสี เป็น Professional โดยมีที่ปรึกษาทางด้านการเงินเข้ามาปรับโครงสร้าง เปลี่ยนการจัดการมาใช้บัญชีเล่มเดียวที่มีคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นผู้ควบคุมดูแล 



ดร.สิทธิชัย เผยว่า วิธีนี้ช่วยให้ทุกคนอยู่บนกฎและกติการ่วมกัน สร้างความยั่งยืนสู่การสืบทอดในเจนเนอเรชันถัดไปอย่างโปร่งใสและลดความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง ข้อดีคือหากสมาชิกท่านไหนไม่อยากบริหาร สามารถไปถอนหุ้นได้ หรือใครอยากบริหารก็เป็น Professional ได้  

ซึ่งต่างจากเดิมที่เป็นธุรกิจกงสี มีทรัพย์สินกองกลางโดยคนในตระกูลแบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน เมื่อได้ข้อสรุป บริษัทจึงเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอในปี 2565  ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า JP เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ เข้า IPO แล้ว ขั้นต่อไปคือบริษัท ‘มหาชน’



จุดแข็งของ ‘เจเอสพี’ ที่ขึ้นแท่นแถวหน้าธุรกิจผลิตยา

เนื่องจากต้นตระกูลของเราเป็นธุรกิจโรงงาน OEM อาหารเสริมที่เริ่มต้นจากโรงงานผลิตยาแผนปัจจุบันที่ทันสมัยที่สุด อีกทั้งเรามีประสบการณ์และความชำนาญเรื่องยาแผนโบราณที่สั่งสมมายาวนาน ประกอบกับมีโรงงานที่ผลิตยาแผนโบราณ ทำให้อาหารเสริมของเราสามารถประยุกต์ใช้ทั้งสรรพคุณที่ดีของสมุนไพรกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตยาแผนปัจจุบัน สิ่งนี้ถือเป็นจุดแข็งของธุรกิจเรา

นอกจากนี้สาขาที่ผมเรียนคือ Food science Biotechnology เอกทางด้านนวัตกรรม เพราะฉะนั้นลูกค้าจึงมั่นใจได้ทั้งความทันสมัยและสรรพคุณของอาหารเสริม บ้านเรามีผู้ผลิตเพียงไม่กี่รายที่เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริมโดยมีพื้นฐานจากโรงงานผลิตยา เราจึงเป็นเถ้าแก่ที่เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม และยังมีความเก่าแก่จากการทำธุรกิจมายาวนาน ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ

ทั้งนี้ ข้อดีของธุรกิจครอบครัว คืออัตราการ Turn over ของพนักงานน้อยมาก เรามีพนักงานระดับบริหารที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นอากง มีเภสัชกรที่มากประสบการณ์ ถือว่าเราโชคดีที่มีพนักงานเก่ง ๆ หลายเจนเนอเรชันที่อยู่มานานได้ทำงานร่วมกัน จึงอยู่กันแบบครอบครัว บางคนมีลูกก็ส่งลูกมาทำงานกับเราต่อ



ชูจุดเด่น สู่สินค้าเรือธง 

คุณพิษณุ กล่าวว่า จุดเด่นคือเรามียาสมุนไพร และอาหารเสริม ตอนนี้กระแสความชอบยุคโบราณกำลังกลับมา ผมจึงนำแบรนด์เก่าแก่ของเราที่มีมาตั้งแต่รุ่นอากง เมื่อ 70 ปีที่แล้ว คือ ‘สุภาพโอสถ’ มีน้ำมันมะพร้าว น้ำมันงาขี้ม้อน น้ำมันรำข้าว และน้ำมันกระเทียม เป็นอาหารเสริมที่ใช้เทคโนโลยีด้านยา กลับมาทำตลาดขายผ่านทางช่องโทรทัศน์ Home Shopping

ซึ่งเรามี Story Telling เล่าเรื่องให้ลูกค้าฟังถึงที่มาที่ไป และคุณค่าของสินค้าได้ อีกอย่างหนึ่งคือ ย้อนไปเมื่อ 10 ปี ก่อนที่จะมีแบรนด์สุภาพโอสถ ช่วงพีค ๆ ของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เราถือเป็นผู้ที่นำเข้าโปรดักส์กลุ่มนี้ติด Top  ของโลก และยังทำ OEM ให้อีกหลายสิบแบรนด์ เช่น กลูต้าไธโอน คอลลาเจน แอสตาแซนทิน เป็นต้น 

เรื่องราวของ 10 ปี ก่อน คือ วันที่เราออกบูทแสดงสินค้าในงานส่งออก แม้เราจะทำ OEM ให้หลายแบรนด์ หรือเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ติดอันดับต้น ๆ ของโลก แต่วันนั้น บูทข้างเราคือแบรนด์ญี่ปุ่นที่เป็นผู้ผลิตแอสตาแซนทิน สินค้าประเภทเดียวกัน 

แต่เรานำเข้าจากประเทศเขาแล้วเราจะไปแข่งในตลาดโลกอย่างไร เขาถามเราว่า ประเทศไทยมีอะไรดี? และบอกเราอีกว่า “รู้ไหมว่าประเทศไทยมีสิ่งที่ได้จากธรรมชาติที่มีมูลค่ามหาศาล นั่นคือสินค้าและบริการด้าน Wellness Tourism มีชื่อเสียงในระดับโลก 

เราจึงกลับมาคิดว่าสิ่งล้ำค่าที่คนญี่ปุ่นท่านนั้นพูดถึงคืออะไร ซึ่งได้คำตอบว่า รำข้าว มะพร้าว กระเทียม งาดำ เราจึงตัดสินใจปักธงสินค้าที่มาจากสมุนไพรและวัตถุดิบจากธรรมชาติของประเทศไทย ผสานกับองค์ความรู้ของเราและแมตซ์เข้ากับแบรนด์สุภาพโอสถ ที่มีเรื่องราวความเป็นแบรนด์สมุนไพรไทยอยู่แล้ว นี่คือที่มา    



JSP มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่า ‘สินค้าเกษตรไทย’ เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพมูลค่าสูง

แนวคิดของเราคือ ต่อให้เราทำสินค้ากลุ่มวิตามินเก่งแค่ไหน ก็ยังสู้ยุโรปไม่ได้ หรือต่อให้เราวิจัยและพัฒนาจุลินทรีย์ได้ดี เราก็แพ้ไต้หวัน แต่ของดีที่อยู่ใต้ผืนดินของไทยที่เรานำมาพัฒนาเป็นยาสมุนไพร เป็นของล้ำค่าที่ไม่มีใครสู้ประเทศไทยได้ ปัจจุบันในอุตสาหกรรมยาถ้าเป็นสินค้าจากประเทศไทยที่มาจากเกษตรกรโดยตรง โดยเฉพาะ แฮนด์เมด โฮมเมด จะมีมูลค่าสูงกว่ายาที่ใช้สารเคมีที่มาจากการสังเคราะห์ 



สมุนไพรไทย เพิ่มมูลค่า Value Chain อุตสาหกรรมยาทุกมิติ

ดร.สิทธิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ เรามีโรงงานยา สมุนไพร อาหารเสริม เครื่องสำอาง และเข้าตลาดหลักทรัพย์ เป้าหมายต่อไป คือหา New S Curve เพื่อโตต่อ ธุรกิจไหนที่ทำกำไรยากเราก็หาธุรกิจใหม่ ๆ 

หลังจากนั้นเราจะเข้าซื้อกิจการที่วิจัยและพัฒนาที่เก่งด้านรีเสิร์ช ทำเทรนนิ่ง และทำ Vending pharmacy หรือตู้ขายยาอัตโนมัติ ดีลนี้เราจะเป็นธุรกิจที่อยู่กลางน้ำ มีต้นน้ำเป็นบริษัททำวิจัย ได้ Knowledge งานวิจัยทั้งหมด ส่วนปลายน้ำคือตู้ขายยา เราจะมีครบทั้ง Value Chain ซึ่งตอนนี้ตามกฎหมายจะขายได้เฉพาะยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้ปวด ลดไข้ แก้ไอ ชุดตรวจ ATK  ฯลฯ 

เรามีแผนจะวางตู้ไว้ก่อน แต่ต่อไปหากกฎหมายอนุญาตให้ Vending pharmacy มีการขายยาแบบ Tele  pharmacy โดยเภสัชกรได้แล้ว วันนั้นเรามีตู้ที่ปูทางไว้แล้วเต็มตลาด ยึดพื้นที่ไว้ทั่วประเทศแล้ว 

ข้อดีของ Vending pharmacy คือ คอมพิวเตอร์จะเก็บข้อมูลลูกค้าไว้หมดว่าพื้นที่ไหน ใช้ยาประเภทไหน หลังจากนั้น จากการที่เรามีบริษัทอาหารเสริม มียาสมุนไพร เดือนที่ผ่านมาเราเข้าซื้อกิจการโรงงานผลิตยาฟอกไต เพราะคนเป็นโรคไตมีจำนวนมาก เราจะขายน้ำยาฟอกไต และอุปกรณ์การแพทย์ที่คนเป็นโรคนี้ต้องใช้ นอกจากนี้ยังมีอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคไตด้วย นี่คือแผนการตลาดอย่างครอบคลุมทุกมิติที่เราวางไว้ 



รู้จัก บริษัทโรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) เพิ่มเติมได้ที่ 

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘LED Farm’ โรงงานผลิตพืชด้วยหลอดไฟ ฟาร์มผักพันธุ์ใหม่ เอาใจคนรักสุขภาพยุคดิจิทัล

‘LED Farm’ โรงงานผลิตพืชด้วยหลอดไฟ ฟาร์มผักพันธุ์ใหม่ เอาใจคนรักสุขภาพยุคดิจิทัล

จากธุรกิจผลิตหลอดไฟ LED ต่อยอดสู่การพัฒนาด้านการผลิตอาหารและนวัตกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตรออร์แกนิก แบรนด์ ‘แอลอีดี ฟาร์ม’ (LED Farm) ที่มุ่งสร้างมาตรฐานสินค้าเกษตรคุณภาพ…
pin
152 | 25/04/2024
Transition สู่ Operation Excellence ความมุ่งมั่นพัฒนาระบบการทำงาน สู่ความเป็นเลิศในธุรกิจแป้งทำอาหาร ‘แบรนด์ปลาแฟนซีคาร์ฟ’

Transition สู่ Operation Excellence ความมุ่งมั่นพัฒนาระบบการทำงาน สู่ความเป็นเลิศในธุรกิจแป้งทำอาหาร ‘แบรนด์ปลาแฟนซีคาร์ฟ’

การทำโลกธุรกิจสำหรับ SME ยุคดิจิทัล ต้องมี ‘นวัตกรรม’ เข้ามาเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจเติบโต และอยู่รอดท่ามกลางการแข่งขัน เพิ่มขีดความสามารถด้านการพัฒนาสินค้า…
pin
256 | 22/04/2024
จากธุรกิจนำเข้า สู่เจ้าของกรรมสิทธิ์อุปกรณ์ ‘ตู้บริการสื่อสารเอนกประสงค์’ กล่องสมองกลควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร

จากธุรกิจนำเข้า สู่เจ้าของกรรมสิทธิ์อุปกรณ์ ‘ตู้บริการสื่อสารเอนกประสงค์’ กล่องสมองกลควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร

Bangkok Bank SME จะพาไปทำความรู้จักกับธุรกิจในกลุ่มบริษัทโทรคมนาคม (Telco) ที่เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่ารูปแบบของการดำเนินงาน มีภาพรวมของรายละเอียดอย่างไร…
pin
878 | 17/04/2024
ส่องโมเดล ‘เจเอสพี’ โรงงานผลิตยามหาชน ชูสมุนไพรไทย เพิ่มมูลค่า Value Chain อุตสาหกรรมยา