คุณทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า "ผมคิดว่าแรงผลักดันจริง ๆ เราต้องมองความต้องการของคนที่มีต่อธนาคาร การปรับตัวของธนาคารต้องเกิดขึ้นแน่นอน เมื่อ FinTech เข้ามา แต่ธุรกิจธนาคารยังมีความสำคัญอยู่หลายมิติ ซึ่งเราก็ต้องปรับตัวกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น"
และยังเสริมอีกด้วยว่า "สมัยก่อนเราคิดว่าแบงก์เป็นปัจจัยหลักในการหนุนธุรกิจ ผมคิดว่าระบบกำลังจะเปลี่ยน การอยู่ร่วมกันกับ FinTech ก็กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป เรื่องสำคัญคือ เราเตรียมการด้านโครงสร้างพื้นฐานเรายังไง เราต้องใช้เวลาศึกษาด้านไอทีพอสมควรเพื่อให้รู้ว่าลงทุนไปแล้วจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้จริง อีกเรื่องคือความต้องการของลูกค้า เราต้องดูฟีดแบคของพวกเค้าว่าเค้าต้องการอะไร และอย่างที่สามคือเรื่องของสินค้า ผลิตภัณฑ์ แค่มีสินค้าไม่กี่อย่างแต่สามารถตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการก็เพียงพอแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีความรวดเร็วควบคู่กันไปด้วย"
คุณทวีลาภก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับจุดแข็งของธนาคารที่ FinTech ไม่สามารถทดแทนได้ไว้ว่า "ผมว่าความเชื่อถือที่คนมีต่อธนาคารเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธนาคารได้เปรียบ สองคือการมีฐานข้อมูลลูกค้าที่เยอะ แต่จุดท้าทายก็คือด้านเทคโนโลยี เพราะอาจต้องใช้เวลานาน การเปลี่ยนแปลงก็เป็นไปได้ยาก ดังนั้น FinTech ก็จะได้เปรียบในด้านนี้ แต่จริง ๆ แล้วเราไม่ได้แข่งกันเอง เราช่วยกันเพื่อดูว่าทำยังไงถึงจะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันไปยังตลาดโลกได้มากกว่า"
จากการสัมมนาครั้งนี้ทำให้เรา ๆ หายสงสัยกันไปได้แล้วว่า การถือกำเนิดขึ้นมาของ FinTech และการคงอยู่ของธนาคารทั้งหลาย ผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจริง ๆ แล้วเป็นใครกันแน่ ซึ่งคำตอบก็คงหนีไม่พ้นคนธรรมดาอย่างพวกเรานั่นเอง