เสน่ห์ ‘น้ำมวบ’ เมืองแห่งขุนเขาและสายหมอก

ในขณะที่สายฝนยังไม่ทันจางหายไป ลมหนาวก็เริ่มพลิ้วกรายเข้ามาเยือนขุนเขาแห่งน้ำ วันนี้ที่ ‘น้ำมวบ’ เริ่มอวดเสน่ห์ที่ งดงาม สงบนิ่ง น่าค้นหา

เมื่อเอ่ยถึง น้ำมวบ อ.เวียงสา จังหวัดน่าน น้อยคนนักที่จะรู้จัก  ยิ่งน้อยคนนักที่จะมีโอกาสมาเยือนที่นี่จึงเป็น Unseen แห่งใหม่ของเมืองน่าน เป็นชุมชนที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมที่คนกับผืนป่ายังต้องพึ่งพิงกันอยู่  กลายเป็นชีวิตที่สงบเรียบง่ายอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่มีขุนเขาหลวงพระบางโอบล้อม

[caption id="attachment_29362" align="alignnone" width="800"] วิวมุมสูง ท่ามกลางธรรมชาติที่น่าหลงไหล[/caption]

การเดินทางสู่เมืองน่านในปัจจุบันสะดวกรวดเร็วกว่าเมื่อก่อนมาก  เพราะมีถึง 2 สายการบินที่มายังจังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้ทั้ง จากท่าอากาศยานน่านเดินทางต่อไปยังน้ำมวบใช้เวลาเพียง 1 ชม.30นาที

พื้นที่ส่วนใหญ่ของตำบลน้ำมวบเป็นภูเขาปกคลุมไปด้วยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ วิถีชีวิตของคนน้ำมวบจึงผูกพันกับป่ามาตั้งแต่โบราณจนทุกวันนี้แม้จะเจริญขึ้นมาบ้าง  แต่คนน้ำมวบส่วนหนึ่งยังคงเข้าป่าเพื่อหาของป่ามาเป็นอาหาร  โดยเฉพาะ “ เห็ดป่า” ที่ขึ้นดาษดื่นในช่วงหน้าฝน  ซึ่งจะมีเห็นขึ้นตามพื้นดินและขอนไม้เต็มไปหมด  เห็นป่าไม่มีใครเป็นเจ้าของ เรียกว่าใครมาก่อนเก็บได้ก่อน  ใครมาช้าก็ต้องเดินเข้าไปเก็บในป่าลึก  เพราะป่าเป็นของทุกคน

[caption id="attachment_29367" align="alignnone" width="720"] เห็ดป่าตามธรรมชาติ เจอก่อนได้ก่อน[/caption]

เห็ดเป็นอาหารในชีวิตประจำวันของคนน้ำมวบก็ว่าได้  เพราะอาหารทั้งแกง ต้มจืด ผัด ลาบ ล้วนแต่มีเห็ดเป็นส่วนประกอบ คงเพราะเห็ดนั้นหาง่ายมากนั่นเอง  แต่อยากทานเห็ดขอแนะนำให้มาหน้าฝนจะได้ชิมเห็ดพื้นบ้านสารพัดชนิด

นอกจากสารพัดเห็ดที่เก็บได้จากป่าแล้ว  ระหว่างทางเดินป่ายังมีหน่อไม้อ่อน ๆ แทงหน่อขึ้นมาตามริมทาง  เพื่อไม่ให้เสียเที่ยวชาวบ้านก็จะหักหน่อไม้สดเพื่อนำไปจิ้มกับ “น้ำพริกน้ำปู๋” อาหารขึ้นชื่อของคนน้ำมวบ

[caption id="attachment_29361" align="alignnone" width="800"] เปิดห้องพบกับวิวธรรมชาติที่คุณจะจดจำไม่มีวันลืม[/caption]

ใครอยากจะสัมผัสวิถีของชาวน้ำมวบว่ากินอยู่อย่างไร  ขอแนะนำให้ไปพักที่ "น้ำมวบวิว" เป็นโฮมสเตย์  ห้องพักสร้างจากไม้ไผ่ที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนาเขียวขจี มีด้านหลังเป็นขุนเขาโอบล้อม ที่นี่จะมีกิจกรรมต้อนรับลูกค้าที่มาเยือนด้วยการลงนาจับปูที่มีอยู่เต็มท้องนา  จากนั้น “ป้ายอง” เจ้าของโฮมสเตย์จะลงมือตำน้ำพริกน้ำปู๋ให้แขกได้ลิ้มลองเป็นอาหารมื้อเย็นที่กินกับหน่อไม้สดและผักพื้นบ้าน

[caption id="attachment_29354" align="alignnone" width="800"] ลิ้มลองความอร่อยกับ“ลาบเลือด”สูตรต้นตำรับชาวเหนือ[/caption]

ส่วนใครอยากลิ้มลอง “ลาบเลือด” สูตรต้นตำรับชาวเหนือควรไปเลือกพักที่ บ้าน “พี่ถนิม” ที่แบ่งห้องให้แขกที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตของน้ำมวบมาพัก  แถมสาธิตการวิธีการทำ “ลาบเลือด” ซึ่งเป็นลาบของคนเหนือที่ใช้หมูสับ เครื่องในหมูหั่นชิ้นเล็ก ๆ มาคลุกกับเลือดหมูสด ๆ ใส่สมุนไพรสด ข้าวคั่ว พริกแห้งป่น กากหมูเจียวกรอบ และที่ขาดไม่ได้คือมะแข่วนที่มาช่วยดับกลิ่นคาว

และถ้ากลางคืนลมพัดแรง พอรุ่งเช้าแขกของพี่ถนิมอาจได้กิน “ เห็ดลม” ที่โผล่พ้นดินมาสวัสดียามเช้าในตอนที่มีลมพัดแรง ๆ ในตอนกลางคืน  โดยพี่ถนิมจะนำมาทอดกับไข่เจียว จิ้มข้าวเหนียวร้อน ๆ รับอรุณยามเช้า

[caption id="attachment_29356" align="alignnone" width="800"] น้ำมวบยามเช้าอากาศเย็นสบายเหมาะกับการปั่นจักรยานซอกแซกเพื่อไปดูวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่กันอย่างเงียบสงบ[/caption]

[caption id="attachment_29365" align="alignnone" width="800"] เบื้องหลัง พระเจ้าทันใจศากยมุนีศรีแดนทอง กับวิวบนยอดเขา[/caption]

และปิดทริป ที่พระธาตุแดนทอง และ พระเจ้าทันใจศากยมุนีศรีแดนทอง 2 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนน้ำมวบเคารพบูชา ที่ตั้งอยู่พระธาตุแดนทอง มีความสูงขนาด 9 เมตร และหน้าตักกว้าง 6 เมตร เป็นองค์ที่ 2 ของอำเภอเวียงสา และเป็นองค์ที่ 105 ของประเทศไทย หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งสวยงามเด่นเป็นสง่า และดูพระอาทิตย์ตกดินที่จุดชมวิว ซึ่งจะเห็นวิวขุนเขาที่สวยที่สุด