ก่อนจะกล่าวถึงการทำ 'บัญชีเดียว' สำหรับ SME ขอกล่าวถึงเรื่องที่รู้กันทั่วไป แต่ไม่มีใครเคยออกมายอมรับในทางนิตินัยมาก่อน คือ ผู้ประกอบการ SMEs ส่วนใหญ่มีบัญชีการเงิน 2 แบบด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน แบบแรก 1 ทำเพื่อวัตถุประสงค์ให้สรรพากรดูโดยเฉพาะ ส่วนอีกแบบคือสิ่งที่ไม่อยากให้สรรพากรเห็นอย่างเด็ดขาด เพราะอะไรนะเหรอ ?
ท่านเองก็ทราบดี
กรณีทำบัญชีเดียว ที่กระทรวงการคลังยืนกรานให้สถาบันการเงินใช้งบการเงินที่ยื่นสรรพากรในการพิจารณาเครดิตเท่านั้น มีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา
ก่อนจะไปกล่าวถึงข้อดี ระบบบัญชีเดียว ไปดูพฤติกรรมการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs ส่วนใหญ่ของประเทศก่อน แต่ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าเรากล่าวหาแบบลอยๆ เชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร
สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการไม่ชอบที่สุดคือ ‘หนี้สิน’ ดังนั้นในการทำธุรกิจการทำบัญชีทรัพย์สินต่างๆ หนี้สิน คือภาระของบริษัท ขณะที่ถ้าเป็น ‘สินทรัพย์’ จะจดในชื่อบุคคลหรือนัยหนึ่งคือเจ้าของธุรกิจ หากจดจำเหตุการณ์ล้มบนฟูกเมื่อวิกฤติต้มยำกุ้ง นี่คือกรณีศึกษาทีดีและเป็นกรณีที่ทำให้ธุรกิจที่ทำแบบนี้ไม่โต
สิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ชอบรองลงมา คือ ‘ภาษี’ แน่ล่ะท่านจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่ท่านต้องจ่ายให้สรรพากรด้วยความเต็มใจ หรือจำเป็นก็แล้วแต่ในฐานะที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทและมีการดำเนินธุรกิจที่มีรายได้ ‘ภาษี’ คือ ‘ค่าใช้จ่ายต่อปี’ รูปแบบหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการมักหาวิธี ลด หลบ เลี่ยง และเทคนิคกันแพรวพราวของที่ปรึกษาด้านการเงินและบัญชีต่างๆ ผ่านการตกแต่งทำบัญชี โดยสร้างโลกของการทำบัญชีมาสองแบบ อย่างที่ระบุในข้างต้น
กรณีการเจตนาหลบเลี่ยงภาษี เป็นการกระทำผิดฐานฟองเงิน ซึ่งถ้าสรรพากรตรวจพบ จะส่งข้อมูลให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันนับว่าการเจตนาหลบเลี่ยงไม่จ่ายภาษา เสี่ยงที่จะถูกตรวจเจอมาก เพราะมีการทำธุรกรรมการเงินแบบ E-payment มากขึ้น ธุรกรรมการเงินของกิจการไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินค่าสินค้าหรือการรับเงินจากการขาย ทุก ๆ ยอดที่เกิดขึ้นจะมีหลักฐานปรากฏอยู่ที่ธนาคาร
และแน่นอนว่าสรรพากรสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เมื่อเจ้าของกิจการยื่นบัญชีที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงต่อกรมสรรพากร ก็มีโอกาสถูกตรวจพบและดำเนินคดีได้ง่ายกว่าสมัยก่อน คราวนี้ธุรกิจของคุณงานเข้าของจริงแน่นอน
บัญชีชุดเดียว เพื่อใคร ?
ดังนั้นผู้ประกอบการ SMEs ถึงเวลาต้องเปลี่ยนเอาใหม่ เน้นทำบัญชีเดียว ที่กระทรวงการคลังบอกว่าเป็นของดี มีปะโยชน์ ธนาคารแห่งประเทศไทยก็เอาด้วย แบงค์ต่างๆ ก็ตามน้ำ ส่วนสรรพากรนี่ยิ้มอ่อน !
แต่ดูเหมือนไม่ง่าย จากเดิมที่ SMEs ชอบ ‘แกล้งจน’ ให้สรรพากรดู ต้องมาทำบัญชีเดียวที่ต้องใส่ข้อมูลการเงินทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นก็อดเข้าถึงสินเชื่อ เพราะอย่างที่ระบุในข้างต้นธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกกฎเกณฑ์การขอกู้สินเชื่อแก่ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งว่า หากมีเจ้าของกิจการ SMEs รายใดต้องการขอกู้สินเชื่อจะต้องยื่นบัญชีชุดเดียวกับที่ยื่นให้กรมสรรพากรเท่านั้น แม้จะเหมือน ‘หักคอ’กันกลายๆ เพราะแม้จะไม่ยื่น เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบภาษีของกรมสรรพากรก็อาจสงสัยในงบบัญชีการเงินของบริษัทนั้นๆ เป็นพิเศษอยู่ดี
ส่วนในเรื่องประโยชน์ คือการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และแบงค์มั่นใจมากขึ้น แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า การทำบัญชีเดียว มองในมุมกลับกันเอกสารที่ผู้ประกอบการ SMEs อยากให้แบงค์ดูย่อมต้องเป็นงบการเงินอันเยี่ยมยอด แต่ในความเป็นจริง อาจไม่ใช่สิ่งที่สรรพากรมีอยู่ในมือ
ดังนั้น การทำบัญชีเดียว ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่เหมือนโอกาสยังไม่สุกงอม ใครกันที่ได้ประโยชน์มากที่สุด...ยิ้มอ่อน !
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333