แม้ว่ากระแสข่าวความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของกัมพูชา และสหภาพยุโรปจะอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบางและอ่อนไหวอย่างยิ่ง โดยเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2562 คณะกรรมาธิการยุโรป (อียู) ประกาศจะเริ่มกระบวนการพิจารณาตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) กัมพูชา ภายใต้โครงการ Everything but Arms (EBA) ภายในระยะเวลา 18 เดือนหรือสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม 2563
ประเด็นนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจกัมพูชา เนื่องจากกัมพูชาเป็นประเทศที่ได้รับสิทธิประโยชน์นี้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากบังกลาเทศ หากถูกตัดสิทธิพิเศษสินค้าที่ส่งออกไปยังอียูทุกรายการจากเดิมจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าก็อาจจะต้องกลับมาจ่ายภาษีเทียบเท่ากับอัตราปกติ (MFN)
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ช่วงเวลานี้กัมพูชาจึงมีนโยบายทางการค้าและการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับหลายๆ ประเทศอย่างน่าสนใจ ทั้งการสานสัมพันธ์กับมหาอำนาจอย่าง "จีน" โดยนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ประกาศเดินหน้าพัฒนาความสัมพันธ์กับจีนแบบ 100% เปิดรับการลงทุนโดยตรงของนักลงทุนจีนมากขึ้นเพื่อผลักดันให้กัมพูชาเป็นศูนย์กลางของโครงการ One Belt One Road (OBOR) ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ส่งผลให้ปี 2561 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามา 1.2 แสนคน เพิ่มขึ้น 126% จากปี 2561
ล่าสุดรายงานข่าวของเอเอฟพี ระบุว่า กลุ่มทุนจีนได้เข้ามาลงทุนพัฒนาธุรกิจกาสิโนในเมืองสีหนุวิลล์ รวม 50 แห่ง ไม่นับรวมร้านอาหารและโรงแรม ส่งผลสีหนุวิลล์ เมืองท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียวของกัมพูชา และเคยได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองพักตากอากาศแห่งกัมพูชา กลายเป็นมาเก๊าหรือลาสเวกัสแห่งอาเซียน ประเด็นนี้ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและกัมพูชามีความแน่นแฟ้นมากขึ้นในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันกัมพูชาก็ยังได้หันไปผนึกกำลังมหาอำนาจอย่าง "รัสเซีย" โดยล่าสุด กัมพูชาได้เปิดเจรจาทวิภาคีกับสหภาพเศรษฐกิจยุเรเซีย (The Eurasian Economic Union : EAEU) ซึ่งประกอบไปด้วย ประเทศที่อยู่บนรอยต่อของทวีปเอเชียและยุโรป 5 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย เบลารุส อาร์เมเนีย คาซัคสถาน คีร์กีซ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการบูรณาการเขตศุลกากรมาเป็นตลาดเดียวกัน
เป้าหมายของการเจรจาความตกลงฉบับนี้ เพื่อเปิดเสรีส่งเสริมการค้า และการลงทุนร่วมกันให้มากขึ้นในอนาคต ซึ่งทาง EAEU เสนอว่าให้มีการยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจากกัมพูชา 46 รายการ เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยการยกเว้นภาษีดังกล่าว ถือเป็นการช่วยเหลือที่ EAEU ให้กับประเทศในกลุ่มพัฒนาน้อยที่สุด (LDC) ทั้งนี้ ปัจจุบันกัมพูชายังส่งสินค้าไปยัง EAEU ไม่มากนัก ดังนั้นคาดว่าหากความตกลงมีผลบังคับใช้จะทำให้มูลค่าการค้าระหว่างกัมพูชา และ EAEU เพิ่มมากขึ้นในอนาคต เช่นเดียวกับที่เวียดนามเคยทำความตกลงกับ EAEU มาแล้ว และทำให้มูลค่าการค้าระหว่างเวียดนาม และ EAEU เพิ่มขึ้น 31 % โดยเฉพาะการส่งอกไปยังตลาดรัสเซีย ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก
ทั้งนี้ จะเห็นว่าตลาด EAEU เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง เป็นทางเลือกทดแทนการส่งออกไปยังตลาดยุโรป ที่อาจจะมีปริมาณลดลงหากถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีในอนาคต ซึ่งประเด็นนี้เชื่อมโยงถึงนักลงทุนไทยที่ขยายการลงทุนออกไปยังกัมพูชา เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเช่นกัน
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333