ธุรกิจอาหารฮาลาล เป็นทั้งธุรกิจและอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายภูมิภาค ทั้งตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาและเอเชีย ด้วยเม็ดเงินไหลหมุนเวียนมหาศาลพร้อมกับการคาดการณ์ของจำนวนประชากรมุสลิมที่จะเพิ่มขึ้นถึง 2.8 พันล้านคนในปี พ.ศ. 2593 หรืออัตราการเติบโตที่ร้อยละ26.4 อัตราการเติบโตแบบนี้ แน่นอนว่าใครๆ ก็ต้องสนใจ แต่ความท้าทายอยู่ที่การพัฒนาคุณภาพให้ตอบโจทย์ของโลกของตลาดสินค้าฮาลาลที่กำลังเติบโตอย่างทันท่วงที
ศึกษากฎ ระเบียบ ก่อนเข้าไปลงทุนในฟิลิปปินส์
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ขณะที่บริบทของอาเซียนในตลาดฮาลาล ซึ่งถ้ามองตัวเลขของประเทศที่มีจำนวนประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกนั้นอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเมื่อมองอีกมิติหนึ่งก็พบว่า จากจำนวนประชากรในอาเซียนกว่า 600 ร้อยล้านคนนั้น หนึ่งในสามของประชากรอาเซียนอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ 250 ล้านคน เมื่อรวมกับมาเลเซียและบรูไนดารุสซาราม ตลาดภายในอินโดนีเซียมีขนาดใหญ่มาก
ทำให้ที่ผ่านมารัฐบาลอินโดนีเซียประกาศแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 15 ปี (พ.ศ. 2554 - 2568) โดยได้อนุมัติเงินลงทุนจำนวน 4.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยร้อยละ 72 เป็นการลงทุนจากภาคเอกชน หากมองทางด้านความร่วมมือ ทางรัฐบาลจะลดหย่อนภาษีให้ในส่วนวัตถุดิบและเครื่องจักรหากวางแผนที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากอินโดนีเซียสำหรับผู้ประกอบการจากภายนอก
แน่นอนเพื่อนบ้านในอาเซียนก็มองตลาดฮาลาลในอินโดนีเซียอย่างตาเป็นมันเช่นกัน
หนึ่งในนั้นคือ ฟิลิปปินส์ โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ตั้งเป้าส่งออกสินค้าฮาลาลของประเทศเพิ่มภายในปีนี้ โดยต้องการให้มีมูลค่าที่ 605 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดสินค้าฮาลาลของโลกที่มีมูลค่าสูงถึง 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ..ที่สำคัญที่ผ่านๆ มาฟิลิปปินส์กำหนดเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางฮาลาลในอาเซียนมาโดยตลอด
ทั้งที่ผ่านมารัฐบาลฟิลปปินส์ ต่างออกมาตรการผู้การส่งออกขยายขอบเขตประเภทของผลิตภัณฑ์ฮาลาล รวมทั้งเสริมสร้างกฎหมายท้องถิ่นให้เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลให้มากขึ้น ทั้งยังได้สนับสนุนให้สถาบันการศึกษาอำนวยความสะดวกในการวิจัย และพัฒนาเพื่อให้การศึกษาที่เกี่ยวกับฮาลาลสามารถนำมาใช้ในสถาบันการศึกษา เพื่อให้ภาคเอกชนเพิ่มความสนใจในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น
รวมทั้งการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลเพิ่มขึ้นในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ในพื้นที่ ซัมบองก้า และเขตปลอดทหารในเขต Mindanao ซึ่งฟิลิปปินส์หวังว่า จะเป็นศูนย์กลางของนักลงทุนระดับโลกด้านฮาลาลในไม่ช้า
นาย Anthony Rivera ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดภาคการส่งออก กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา มูลค่าทางการตลาดสินค้าฮาลาลของประเทศอยู่ที่ 560 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ครองสัดส่วนการส่งออกสินค้าฮาลาลฟิลิปปินส์ถึงร้อยละ 90 ขณะที่สินค้าอื่น ๆ ประกอบด้วย เครื่องสำอาง เวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและทำความสะอาดเสื้อผ้า ซึ่งสินค้าทั้งหมดนี้ถูกส่งออกไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชีย
ด้านนาย Abdulgani Macatoman รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลรายย่อยของฟิลิปปินส์ร่วมมือกับหน่วยงาน เช่น Malaysia International Halal Showcase (MIHAS) ของมาเลเซีย Gulfood ของดูไบ และ Brunei Halal Showcase (BruHAS) ของบรูไนฯ เป็นต้น ในการแสดงสินค้าไปสู่ตลาดที่สำคัญในต่างประเทศ ซึ่งตลาดสินค้าฮาลาลนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงประชากรชาวมุสลิมในโลกที่มีอยู่ประมาณ 2 พันล้านคนเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงผู้คนทั่วไปที่ต้องการซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพและมีมาตรฐานความปลอดภัยในสินค้าด้วย
โดยในตอนนี้ กระทรวงฯ กำลังเตรียมผลักดันให้ตราฮาลาลฟิลิปปินส์ได้รับการยอมรับในมาตรฐานฮาลาลสากลมากขึ้น ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์มีสินค้าที่ได้รับตราฮาลาลแล้วมากกว่าพันรายการ
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 3 – 5 พฤษภาคม 2562 ฟิลิปปินส์จะจัดงาน The Philippine Halal Trade and Tourism Expo 2019 ในเมือง Davao ซึ่งนักลงทุนชาวต่างชาติที่สนใจเข้าร่วมงานนี้ต่างต้องการหาหุ้นส่วนทางธุรกิจกับชาวฟิลิปปินส์เพื่อขยายธุรกิจในประเทศ สภาหอการค้าแห่งเมือง Davao กล่าวว่า นักลงทุนชาวต่างชาติจำนวน 10 รายได้แสดงความสนใจตั้งธุรกิจในเมืองแห่งนี้และต้องการร่วมทุนกับคนในพื้นที่ ซึ่งนักลงทุนชาวต่างชาติจำนวน 5 รายในจำนวนดังกล่าวต้องการเปิดร้านขายสินค้าฮาลาลสะดวกซื้อ และที่เหลือต้องการเป็นผู้ผลิตสินค้าฮาลาลป้อนตลาด
ภายในงาน Expo จะมีการแสดงห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ฮาลาล (Halal laboratory) ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของฟิลิปปินส์ด้วย สำหรับผู้ผลิตฮาลาลไทย การเกาะกุมโอกาสในธุรกิจฮาลาลยังเปิดกว้างมาก ไม่รู้จะเริ่มต้นจุดไป ไปงานนี้ที่ฟิลิปปินส์ก็น่าจะดีนะ ไปหาลู่ทาง อ้างอิง : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา