รู้ก่อนได้เปรียบ! 4 เครื่องมือการตลาดดิจิทัล ใช้ฟรีสำหรับ SME ในปี 2023
ไม่ว่าคุณกำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือเป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็กอยู่แล้ว และมีความสนใจการตลาดดิจิทัล อยากทำคอนเทนต์ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย Bangkok Bank SME ขอนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจในการใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัลเข้ามาช่วยสร้างความได้เปรียบ ยกระดับธุรกิจของคุณสู่เป้าหมายที่วางไว้ พร้อมโอกาสในการสร้างอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่สูงขึ้น จาก 4 เครื่องมือการตลาดดิจิทัลต่อไปนี้...

1. Google Analytics
หนึ่งในเครื่องมือการตลาดดิจิทัลยอดฮิตจาก Google ที่คุณสามารถใช้งานได้ฟรี คือ “Google Analytics” ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ และปฏิสัมพันธ์ที่พวกเขามีต่อเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณนำมาวิเคราะห์ต่อยอด หรือปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับความนิยม และสามารถเข้าถึงได้ฟรีบน Google Analytics ได้แก่
- จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งจะแสดงข้อมูลเป็นวัน สัปดาห์ เดือน หรือตามระยะเวลาที่คุณสามารถกำหนดเองได้
- ผู้คนเหล่านี้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณจากช่องทางไหนบ้าง ซึ่งอาจระบุได้ทั้งผู้ที่คลิกลิ้งก์มาจากเว็บไซต์อื่น จากการค้นหาแบบออร์แกนิค จากการโฆษณา จากสื่อโซเชียลต่าง ๆ หรือการพิมพ์ที่อยู่เว็บไซต์บนเสิร์ชเอนจินโดยตรง
- คีย์เวิร์ดต่าง ๆ ที่ผู้คนมักพิมพ์เพื่อค้นหาเว็บไซต์ของคุณบน Google
- ข้อมูลสถิติประชากร และความสนใจของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์
- ระยะเวลาที่ผู้คนใช้เวลาอยู่บนเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงหน้าเว็บไซต์ที่พวกเขาคลิกเข้าไปดูด้วย

จากข้อมูลที่น่าสนใจเหล่านี้ คุณสามารถนำมาประกอบการปรับปรุงเว็บไซต์ หรือสร้างแคมเปญการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะพบว่า มีคนจำนวนมากเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณผ่านการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่คุณอาจไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร ซึ่งต่อไปคุณอาจนำคีย์เวิร์ดดังกล่าวมาใช้ประกอบในคอนเทนต์ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้มีผู้เข้าถึงเว็บไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้นในอนาคต

2. BuzzSumo
การที่จะประสบความสำเร็จในการทำการตลาดคอนเทนต์ สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือการศึกษาข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างถูกต้อง ซึ่ง BuzzSumo ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดคอนเทนท์ที่ถูกใจใครหลายคน
BuzzSumo จะแสดงคอนเทนท์ที่กำลังติดเทรนด์อยู่บนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ ตามหัวข้อที่คุณค้นหา ช่วยให้คุณตามทันทุกกระแสบนโลกโซเชียล และอาจได้ไอเดียการทำคอนเทนต์ตามเทรนด์นั้น ๆ ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ BuzzSumo ยังมีฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์ต่อการตลาดดิจิทัลอีกมากมายที่สามารถใช้งานได้ฟรี อาทิ
- การค้นหาคีย์เวิร์ด
- การค้นหาอินฟลูเอนเซอร์
- การแสดงหน้าฟีดของโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ ตามหัวข้อที่ค้นหา
- รายงานผลการวิเคราะห์คอนเทนต์
- ไอเดียการทำคอนเทนต์ในหัวข้อต่าง ๆ
นอกจาก ฟังก์ชั่นใช้งานฟรีที่กล่าวมาแล้วนั้น ผู้ประกอบการสามารถซื้อบริการเสริมรายเดือน ซึ่งมีราคาแพ็กเกจตั้งแต่ 99$ ไปจนถึง 299$ ต่อเดือน เพื่อเข้าถึงฐานข้อมูลจำนวนมหาศาล พร้อมฟังก์ชั่นระดับพรีเมียมอีกมากมาย อาทิ การวิเคราะห์ข้อมูลบน Facebook Page หรือ YouTube Channel เป็นต้น

3. HubSpot
หากคุณเป็นแบรนด์ที่ชอบทำโปรโมชั่น หรือแคมเปญการตลาดที่หลากหลายผ่านช่องทางการตลาดหลาย ๆ แพลตฟอร์มในเวลาเดียวกัน HubSpot จะช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น
HubSpot ขึ้นชื่อว่าเป็นโซลูชั่นซอฟต์แวร์การตลาดแบบ all-in-one ที่มัดรวมช่องทางการตลาดต่าง ๆ ของคุณมาอยู่ในที่เดียวกัน เพื่อง่ายต่อการดูแลจัดการ อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมี Traffic ดีขึ้น เพิ่ม Conversion Rate ให้สูงขึ้น หรือที่เรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า อัตราส่วนของผู้ที่ตอบสนองต่อโฆษณา หรือยอดผู้ซื้อจริงนั่นเอง ซึ่งจะตามมาด้วย ROI ที่สูงขึ้นเช่นกัน

ฟังก์ชั่นใช้งานฟรีที่น่าสนใจของ HubSpot ได้แก่
- เครื่องมือช่วยปรับปรุงคอนเทนท์
- เทมเพลตอีเมลสำเร็จรูป
- ระบบจัดการการตลาดอัตโนมัติ
- ระบบวิเคราะห์ข้อมูล
- ระบบจัดการโซเชียลมีเดีย
- ระบบจัดการคอนเทนท์
อีก 1 ฟังก์ชั่นที่พลาดไม่ได้คือ เทมเพลตสำเร็จรูปสำหรับเว็บไซต์ ใช้สร้างแลนดิ้งเพจ ซึ่งจะมีระบบเสริมอย่าง live chat มาให้ด้วย
หากฟังก์ชั่นฟรียังไม่จุใจ ก็สามารถเลือกสมัครสมาชิกแบบรายเดือนได้ 2 แพ็กเกจ ซึ่งแพ็กเกจ Starter ราคา 50$ ต่อเดือน และแพ็กเกจ Professional ราคา 890$ ต่อเดือน แม้ค่าสมาชิกแบบ Full version จะแอบมีราคาสูงไปสักหน่อย แต่สิ่งที่คุณจะได้คือการเข้าถึงแพลตฟอร์ม CRM (ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า) เต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงรายงานแคมเปญ รายงานกลุ่มลูกค้า การจัดการ-วิเคราะห์กลุ่มลูกค้า และระบบจัดการ-วิเคราะห์ผลการดำเนินงานบนโซเชียลมีเดีย โดยใช้งานร่วมกับ Facebook, Instagram, LinkedIn และ Twitter

4. Canva
หนึ่งในเครื่องมือการตลาดดิจิทัลที่หลายท่านคุ้นชื่อกันดี คงหนีไม่พ้น Canva แพลตฟอร์มแห่งกราฟิกดีไซน์ ที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์บนโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งงานนำเสนอลูกค้าของคุณให้ดูสะดุดตา น่าประทับใจ ด้วยวิธีการใช้งานที่ง่ายดาย ไม่ซับซ้อน พร้อมเทมเพลต รูปภาพ และกราฟิกตกแต่งหลากหลายรูปแบบ ช่วยให้คุณรังสรรค์คอนเทนต์ที่ดูโดดเด่นได้ภายในไม่กี่นาที
บนเว็บไซต์ Canva จะมีการอัปเดทรูปภาพ กราฟิกดีไซน์ และเทมเพลตใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา เหมาะกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย การทำอินโฟกราฟิก โปสเตอร์โฆษณา นามบัตร พรีเซนเทชั่น อีบุ๊ค และอื่น ๆ อีกมากมาย
ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจบน Canva ได้แก่
- อ็อปชันการตัดต่อภาพ
- พาเลทสี
- การผสมฟอนต์
- การปรับขนาดของรูปภาพ
- เทมเพลตสำเร็จรูปหลากหลายรูปแบบ
- รูปภาพ วีดิโอ และกราฟฟิกสำหรับตกแต่ง

สิ่งที่ทำให้ Canva เป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดดิจิทัลยอดนิยม นั่นเป็นเพราะ แม้คุณจะไม่มีประสบการณ์ หรือความรู้เกี่ยวกับการทำกราฟิกเลย คุณก็สามารถสร้างผลงานระดับมืออาชีพได้จากกราฟิกดีไซน์คุณภาพ และภาพถ่ายความละเอียดสูงที่ Canva มีให้ สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่ลาก วาง และเซฟ!
นอกเหนือจากความรู้ในเรื่องของเทคนิค และวิธีการทำการตลาดดิจิทัลแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด คือ การเรียนรู้ และรู้จักปรับใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัลที่หลากหลาย วางแผนกลยุทธ์การใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัลอย่างชาญฉลาด โดยให้สอดคล้องกับเป้าหมายของแบรนด์ เพื่อประหยัดเวลาในการทำงาน และช่วยให้ดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Bangkok Bank SME หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้ใช้ประโยชน์จาก 4 เครื่องมือการตลาดดิจิทัลที่เรานำมาฝากกันในวันนี้
ที่มา: