ผู้นำวงการกล้วยไม้ไทย เพิ่มมูลค่า ต่อยอดไปไกล มากกว่าไม้ประดับ ‘พราวด์ ออร์คิด’

มองเป็น เห็นโอกาส Bangkok Bank SME วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับธุรกิจในภาคการเกษตร สวนกล้วยไม้ ‘มานะ ออร์คิด’ โดยบริษัท พราวด์ ออร์คิด(ไทยแลนด์) จำกัด ผู้พัฒนาสายพันธุ์กล้วยไม้ไทย ให้อวดโฉมสู่สายตาชาวต่างชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ เติบโตสู่ธุรกิจมูลค่าหลักพันล้านบาท!

คุณเอกณัฏฐ์ คูเจริญชัยมานที (คุณมานะ) เล่าให้เราฟังว่า เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ครอบครัวของคุณมานะ เริ่มเข้าสู่ธุรกิจการเกษตรจากการชักชวนของเพื่อนคุณพ่อ ที่ชวนให้มาเซ้งสวน ซึ่งตอนนั้นในสวนมีส้มเขียวหวานปลูกไว้อยู่แล้ว แต่เนื่องจากไม่มีความรู้ทางการเกษตรมากพอ ทำให้ไม่ทราบว่าส้มเขียวหวานในสวนแห่งนี้ เป็นต้นที่เสื่อมสภาพแล้ว ผ่านไปไม่นาน คนงานในสวนก็ทยอยลาออกจนหมด เหลือเพียงคุณพ่อและคุณแม่ของคุณมานะทำกันอยู่ 2 คน จุดนี้เองที่ทำให้คุณมานะ ตัดสินใจดร็อปเรียนจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อมาช่วยงานที่สวนเต็มตัว

ต่อมา เริ่มมีการนำต้นรัก และต้นดาวเรืองมาปลูกแซมในสวน เพื่อตัดดอกขายส่งที่ตลาดศาลาแดง ซึ่งมีรายได้เพียงแค่พอครองชีพไปรายวัน แต่ด้วยความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค คุณมานะ ใช้คอนเนคชันจากเพื่อน ๆ ที่มีให้เกิดประโยชน์ 

ทว่า ขึ้นชื่อว่าไม้ประดับ กระแสย่อมมาเร็วไปเร็วเป็นเรื่องธรรมดา พอมีเกษตรกรให้ความสนใจ หันมาปลูกดาวเรืองเกษตรมากขึ้น จึงทำให้ราคาตก

หลังจากนั้น คุณมานะ ได้มีโอกาสไปดูงานที่มหาวิทยาลัยเกษตร สาขาแม่โจ้ จนได้ไปพบกับ เยอร์บีร่าสายพันธุ์ยุโรป ซึ่งมีสีสันสวยงามสะดุดตา และบานทนทานกว่าเยอร์บีร่าไทย จึงตัดสินใจซื้อเมล็ดพันธุ์กลับมาปลูกเสริมในสวนส้ม 

จังหวะพอดีกับที่ สถานีวิจัยเกษตรบางขุนนนท์กำลังส่งเสริมการเพาะปลูกเยอร์บีร่าพันธุ์ยุโรป เพราะเยอบีร่าพันธุ์พื้นเมืองของบ้านเรายังมีราคาค่อนข้างต่ำในขณะนั้น แต่เนื่องจากเยอร์บีร่าพันธุ์ยุโรปค่อนข้างเซนซิทีฟต่อเชื้อไฟทอปธอร่า (Phytophthora) ทำให้เป็นโรคเหี่ยวเฉา ตายง่าย สวนของคุณมานะ จึงได้รับโอกาสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในโครงการวิจัยของสถานีวิจัยเกษตรบางขุนนนท์ ซึ่งใครจะรู้ว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของ ‘มานะ ออร์คิด’

จากความสามารถในการพัฒนากล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่ ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ “มานะ ออร์คิด” ได้รับเลือกเข้าสู่โครงการเกษตรก้าวหน้าของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งได้พัฒนาต่อยอดจากการสั่งสมประสบการณ์ และองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยที่ ‘มานะ ออร์คิด’ เข้าไปมีส่วนร่วมโดยการบริจาคกล้วยไม้ให้ใช้ในงานวิจัยต่าง ๆ จนสามารถขยับขยายธุรกิจสู่ฟาร์มกล้วยไม้ขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ในจังหวัดนครปฐมได้สำเร็จ

ปัจจุบัน ‘มานะ ออร์คิด’ สามารถพัฒนาสายพันธุ์กล้วยไม้ลูกผสมให้มีสีสันสวยงามหลากหลายกว่า 10 เฉดสี นับร้อยสายพันธุ์ ได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างในวงการกล้วยไม้ไทย อีกทั้งยังเปิดฟาร์มเป็นแหล่งเรียนรู้และพัฒนาพันธุ์กล้วยไม้สกุลหวายระดับประเทศด้วย โดยมีการกำหนดปฏิทินการดูแลกล้วยไม้อย่างละเอียดในแต่ละเดือน แตกต่างจากสวนกล้วยไม้หลายแห่งที่มักจะแบ่งการดูแลกล้วยไม้ออกเป็น 3 ฤดูเท่านั้น

คุณมานะ เผยว่า “นอกจากกล้วยไม้จะเป็นไม้ประดับ และไม้ตัดดอกขายแล้ว เรายังเพิ่มมูลค่า โดยพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมา มีทั้งชากล้วยไม้ เข็มกลัดดอกล้วยไม้ กำไล ต่างหู สร้อยคอจี้ดอกกล้วยไม้ ห่วงกล้วยไม้ที่ใช้เสียบผ้ากันเปื้อน-ผ้าพันคอ กล้วยไม้อบแห้งในโหลแก้ว ฯลฯ”

 ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ที่เห็นสีสันสดใส รูปทรงดอกสมบูรณ์แบบนี้ ล้วนทำมาจากดอกกล้วยไม้จริง ผ่านกระบวนการผลิตที่เอาใจใส่ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกดอกคุณภาพ ไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุเคลือบชนิดพิเศษที่ช่วยคงความสดใสของดอกกล้วยไม้ให้อยู่ได้นานหลายปี

นับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่น่านำไปเป็นแบบอย่าง ให้ SME รุ่นใหม่ไม่หยุดที่จะคิดค้นพัฒนา ซึ่งคุณมานะ ยังบอกอีกว่า สร้อยคอจี้กล้วยไม้ที่นำมาประดับคริสตัลเป็นประกายสวยงามนั้น มีราคาขายอยู่ที่เส้นละ 3,000 บาทเลยทีเดียว 

นอกจากสินค้าหลากหลายรายการที่กล่าวมาข้างต้น ‘มานะ ออร์คิด’ มีสินค้าไฮไลท์อีก 1 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งนับเป็นสินค้าสร้างชื่อของฟาร์มแห่งนี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ “เซรั่มสารสกัดจากกล้วยไม้ดำ (Black Orchid Serum)” ซึ่งมีการจดสิทธิบัตรแล้ว กล้วยไม้ดำอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่มีสรรพคุณมากมาย อาทิ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ หรือ Anti-Aging ฯลฯ

ปัจจุบัน นอกจากคนไทยแล้ว นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็นิยมซื้อผลิตภัณฑ์กล้วยไม้แปรรูปเหล่านี้ ติดไม้ติดมือกลับไปเป็นทั้งของฝาก และบางรายก็ชื่นชอบถึงขั้นซื้อไปขายต่อ ซึ่งล่าสุด ‘มานะ ออร์คิด’ ก็เพิ่งส่งออกกล้วยไม้อบแห้งในโหลแก้วไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วยเช่นกัน

คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่เดียวกันกับ ‘มานะ ออร์คิด’ ซึ่งผู้ที่แวะมาเที่ยวจะได้สัมผัสกับคาเฟ่สไตล์จีน มีทั้งอาหารคาว-หวาน และเครื่องดื่ม แถมยังได้เดินชมความงดงามของดอกกล้วยไม้ที่บานสะพรั่งอยู่ภายในสวน ‘มานะ ออร์คิด’ ด้วย 

เมนู Signature ของแสงเจริญคาเฟ่ จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจาก “ชากล้วยไม้” ผลผลิตจากสวน‘มานะ ออร์คิด’ โดยใช้ดอกกล้วยไม้สีดำ สายพันธุ์ “Suree Black Pearl” ซึ่งมีปลูกที่สวน ‘มานะ ออร์คิด’ ที่เดียวเท่านั้น มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ อุดมด้วยวิตามินซี และคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมาย 

คุณมานะ ระบุว่า “การตลาดออนไลน์บนเว็บไซต์ และเพจที่ให้ลูกชายดูแล ช่วยให้แสงเจริญคาเฟ่มีลูกค้า walk-in มาจากสื่อออนไลน์ค่อนข้างเยอะ ลูกค้าทั้งมาชมกล้วยไม้ และมาถ่ายรูปกันเยอะมาก”

ณ เวลานี้ ‘มานะ ออร์คิด’ ไม่ได้ปลูกแค่กล้วยไม้ แต่ยังมีการจัดสรรพื้นที่ให้เป็นสวนผสมผสาน เพื่อปลูกพืชสวนครัว ทั้งเป็นรายได้เสริม และใช้ภายในกิจการของตนเองด้วย อาทิ มะกรูด มะนาว กะเพรา เตยหอม ตะไคร้ พริกไทย ฯลฯ

คุณมานะ กล่าวทิ้งท้ายว่า “...เรารู้สึกเลยว่า งานเกษตรถ้าไม่มีความรู้ มันอันตรายมาก เพราะมันเป็นกับดัก งานเกษตรถ้าเราทำเพราะเราอยากทำ มีเท่าไหร่ก็ไม่พอที่จะจ่าย เพราะฉะนั้น เราต้องมีองค์ความรู้มากพอสมควร จะต้องเก็บรายละเอียด จะต้องเข้าใจ จะต้องเอาพืชเป็นตัวตั้ง เอาตลาดเป็นตัวนำทาง ส่วนตัวเราเป็นตัวเสริม หาวิธีการจัดการต่าง ๆ ที่เราจะเสริมเข้าไป เพื่อให้พืชเราเจริญเติบโตดี ประสบความสำเร็จ เพื่อไปสู่การตลาดที่ดีได้