6 กลยุทธ์ สำหรับ SME ปั้นแบรนด์ให้ปัง สร้างโอกาสบุกตลาด AEC

SME Update
23/03/2023
รับชมแล้วทั้งหมด 1544 คน
6 กลยุทธ์ สำหรับ SME ปั้นแบรนด์ให้ปัง สร้างโอกาสบุกตลาด AEC
banner
เพราะธุรกิจต้องเติบโต  Bangkok Bank SME จึงอยากชวน SME ไทย ไปบุกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ด้วยกลยุทธ์ปั้นแบรนด์ให้ปัง เจาะตลาดอาเซียน สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย และเหล่า SME ที่ทำธุรกิจ จะได้ปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับการขยายกิจการ สู่ตลาดเพื่อนบ้านนานาประเทศในกลุ่ม AEC ไปพร้อมกัน

หากธุรกิจของคุณ ได้เวลาขยับขยาย สิ่งแรกที่ SME ไทยต้องทำ เพื่อมุ่งสู่ AEC ก็คือการลงทุนด้านการสำรวจตลาดในแต่ละประเทศ ให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสินค้า-บริการ ราคา ช่องทางการจำหน่าย ซึ่งต้องอาศัยคนท้องถิ่นในประเทศนั้น ๆ เป็นตัวช่วยในการสำรวจตลาด จึงจะสามารถเข้าถึง รวมทั้งเข้าใจผู้บริโภคของตลาดได้อย่างชัดเจน 



จากนั้น จึงนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ เพื่อหากลยุทธ์ที่จะสามารถส่งเสริมการตลาด และกำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ซึ่ง SME จำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะขยายธุรกิจสู่ประเทศนั้น ๆ ในรูปแบบใด อาทิ ธุรกิจร่วมทุน ตัวแทนจำหน่าย ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรืออื่น ๆ 

สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การสร้างแบรนด์ (Branding) ให้แข็งแกร่ง โดยมี "Brand Concept" และ "Brand Character" ที่ชัดเจน เป็นการเปิดทางให้สินค้าและบริการของเราเข้าถึงคนในพื้นที่นั้น ๆ ได้ ผ่าน 6 กลยุทธ์ที่ Bangkok Bank SME นำมาฝากกันในวันนี้



1. รู้จัก “BRAND VISION & MISSION” 

ก่อนที่จะทำให้ลูกค้ารู้จัก และยอมรับแบรนด์ของเรา ต้องรู้ก่อนว่า เราสร้างแบรนด์มาเพื่ออะไร พันธกิจ และวิสัยทัศน์ของแบรนด์คืออะไร 



ตัวอย่างเช่น... 
บริษัท WORKPOINT GROUP มีพันธกิจ คือ “การผลิตผลงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างพัฒนา องค์กรสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ให้บริการด้านบันเทิงและส่งเสริมการเรียนรู้แก่สังคม พัฒนาบุคลากรด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและพลังความคิดริเริ่สร้างสรรค์ที่ยึดมั่นในคุณธรรม”



บริษัท MK RESTAURANT GROUP มีวิสัยทัศน์ คือ ส่งมอบความสุขแก่ลูกค้าด้วยอาหารที่อร่อย มีคุณภาพ ท่ามกลางประสบการณ์ ที่ประทับใจ และสร้างโอกาสความก้าวหน้าให้กับพนักงาน ตลอดจนส่งเสริมชุมชนและสิ่งแวดล้อม

หากเจ้าของแบรนด์ และพนักงานทุกคนรู้เป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกันแล้ว จะทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนในการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และเดินทางถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าแบรนด์ที่กำหนดเป้าหมายไม่ชัดเจน



2. รู้จัก “ลูกค้า” 

เมื่อตั้งวิสัยทัศน์ และพันธกิจของแบรนด์ไว้ชัดเจนแล้ว ต่อมา คือต้องทำความรู้จักกับลูกค้าของเรา ด้วยการกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งแต่ละแบรนด์สามารถมีกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายกลุ่ม ขึ้นอยู่กับสินค้าและบริการแต่ละประเภท 

การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ยิ่งจำแนกละเอียดเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีกับการทำการตลาด โดยเฉพาะการทำการตลาดออนไลน์ การยิงโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย 



ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่สินค้าของคุณเป็นอาหารทะเลแช่แข็ง แน่นอนว่ากลุ่มลูกค้าย่อมหลากหลาย คุณอาจแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น...

- กลุ่มพ่อบ้านแม่บ้าน อายุ......... มีความสนใจในเรื่อง.......... มีกิจวัตรประจำวัน......... ชอบไปเดินซื้อของที่.........ฯลฯ 

- กลุ่มร้านอาหาร เป็นร้านอาหารประเภท......... ขนาดของร้านอาหาร...... ปริมาณการสั่งซื้อต่อครั้ง......... ฯลฯ

หรือกลุ่มอื่น ๆ โดยที่ในแต่ละกลุ่มอาจแยกย่อยไปตามช่องทางการซื้อขาย บริเวณที่อยู่อาศัย หรืออื่น ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งไม่มีกฏเกณฑ์ที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละแบรนด์

การกำหนดรายละเอียดลูกค้า หรือสมมุติตัวละครขึ้นมาให้เห็นภาพลูกค้า ช่วยให้เราหาหนทางเจาะตลาดได้ตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดีขึ้น ทั้งในแง่ของเชิงปริมาณ และคุณภาพ



3. สร้างสิ่งที่ทำให้แตกต่างจากคู่แข่ง 

ในโลกที่การสื่อสารทำให้ผู้คนเข้าถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้ทั่วทุกมุมโลก หากแบรนด์ของคุณไม่มีความแตกต่างย่อมถูกกลืนหายไปด้วยจำนวนคู่แข่ง เพราะฉะนั้น เริ่มแรก...แบรนด์ของคุณควรมีคาแรคเตอร์ชัดเจน ในที่นี้หมายรวมถึงจุดยืน ภาพลักษณ์สินค้า รูปแบบบรรจุภัณฑ์ Mood&Tone การทำการตลาด ความคิดสร้างสรรค์ที่สอดแทรกลงไปในทุกรายละเอียดของการสร้างแบรนด์ รูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และที่สำคัญที่สุดคือตัวเจ้าของแบรนด์เอง ต้องกล้าที่จะแตกต่าง

อย่างไรก็ตาม การที่จะสร้างความแตกต่างแล้วได้ผลตอบรับที่ดีนั้น คุณจำเป็นต้องรู้จักสินค้าของตัวเองให้ดีในทุกแง่มุม รวมไปถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ เพื่อที่จะสามารถหาไอเดียมาสร้างความแตกต่างให้แก่สินค้า และบริการของคุณได้อย่างเหมาะสม ตรงจุด และเป็นที่น่าจดจำ จนลูกค้าต้องบอกต่อนั่นเอง



4. Brand Personality 

รู้จัก Law of Attraction ไหม? เรากำลังจะบอกว่า แบรนด์ก็เหมือนกับคนหนึ่งคน จะมีบุคลิกเป็นคนรักสุขภาพ เป็นมิตรน่าเข้าใกล้ เป็นคนสนุกสนาน มีความเป็นอาร์ติสต์ในตัวเอง ชอบการปาร์ตี้ ชอบเดินทางท่องเที่ยว เรียบหรูดูแพง หรือลึกลับน่าค้นหา คุณสามารถออกแบบได้ ซึ่งสิ่งนี้เรียกว่า ‘บุคลิกของแบรนด์ (Brand Personality)’ ที่หลายครั้งมักจะสะท้อนความเป็นตัวตนของเจ้าของแบรนด์ และเชื่อไหมว่า...คุณสร้างแบรนด์บุคลิกแบบไหน คุณก็จะได้ลูกค้าบุคลิกแบบนั้นเป็นส่วนใหญ่ 



การใช้ทฤษฎี ‘Law of Attraction’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘กฏแรงดึงดูด’ มาช่วยในการออกแบบบุคลิกของแบรนด์ นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะทำให้คุณมองภาพแบรนด์ในบุคลิกที่คุณต้องการจริง ๆ ได้อย่างชัดเจน และง่ายขึ้น เพราะคุณจะต้องนึกถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่คุณต้องการควบคู่ไปด้วย ส่งผลให้การออกแบบบุคลิกของแบรนด์ การวางแผนทำการตลาด การตั้งกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงการดำเนินงานในขั้นตอนอื่น ๆ สามารถดำเนินการไปได้อย่างสอดคล้องกันมากขึ้น ลดปัญหาการขัดแย้งของแผนงาน และย่นระยะเวลาการทำงานได้อีกด้วย



5. การออกแบบโลโก้ 

โลโก้ (Logo) เปรียบเสมือนหน้าตาของแบรนด์ โลโก้ ที่ดี คือ โลโก้ที่ทำให้คนจดจำได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เพียงได้เห็นโลโก้ ก็รู้แล้วว่าสินค้าคืออะไร เพราะ โลโก้ มีหน้าที่ในการสื่อสารความเป็นแบรนด์ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตัวอักษร ลายเส้น รูปภาพ หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ มาประกอบเป็นโลโก้  



ยกตัวอย่าง โลโก้ของ Instagram หลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่า นอกจากจะเป็นโลโก้แล้ว ยังถูกใช้เป็นไอคอนของแอปพลิเคชันไปในตัวด้วย ซึ่งนอกจากรูปแบบการไล่สีบนโลโก้จะโดดเด่น และจำง่าย ด้วยการใช้สัญลักษณ์ของกล้องบนโลโก้ Instagram ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกล้องโพลารอยด์ ซึ่งภาพนั้น ยังสามารถสื่อถึงจุดยืนของแอปพลิเคชัน Instagram ที่เป็นเหมือนอาร์ตแกลลอรี่ เน้นให้ผู้ใช้งานได้ถ่ายภาพ และแชร์ภาพเป็นหลักนั่นเอง แตกต่างจากแอปฯ โซเชียลอื่น ๆ ที่อาจเน้นการแชร์ข้อความ หรือบอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวอักษรเป็นส่วนใหญ่

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะจ้างนักออกแบบโลโก้มืออาชีพ หรือเด็กจบใหม่ สุดท้ายแล้ว คนที่สื่อสารตัวตนแบรนด์ออกมาได้ดีที่สุดคือตัวคุณเอง เราไม่ได้บอกให้คุณต้องไปเรียนออกแบบโลโก้ด้วยตัวเอง แต่การศึกษาหาความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการออกแบบโลโก้ และรูปแบบต่าง ๆ ของโลโก้ อาจช่วยให้คุณสื่อสารกับผู้ที่ทำหน้าที่ออกแบบโลโก้ได้เข้าใจตรงกันมากขึ้น 



6. งานดีไซน์ 

งานดีไซน์ ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างเป็นรูปธรรม จับต้องได้ และยังสามารถส่งเสริมภาพลักษณ์ ยกระดับแบรนด์ของคุณให้ดูมีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นได้เช่นกัน 

ไม่ว่าสินค้าของคุณจะถูกขนาบข้างด้วยสินค้าคู่แข่งหลากหลายแบรนด์ ที่เบียดเสียดแย่งซีนกันอยู่บนเชลฟ์ หรือเป็นภาพถ่ายสินค้าท่ามกลางภาพสินค้านับร้อยนับพันบนหน้าฟีดแอปพลิเคชันช้อปปิ้งต่าง ๆ งานดีไซน์ที่ดี จะทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นขึ้นมา จนลูกค้าเลือกหยิบขึ้นมาดู และตัดสินใจซื้อในที่สุด ซึ่งผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เลือกซื้อสินค้าโดยดูจากแพ็กเกจ หรือดีไซน์ของสินค้านั้น ๆ เป็นลำดับแรก ๆ ดูได้จากบทความ และงานวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก



ทั้งนี้ งานดีไซน์ที่ดีนั้น ควรมี Mood&Tone สอดคล้องไป Brand Personality, Brand Vision& Mission และตัวสินค้า โดยถ่ายทอดออกมาผ่านรูปทรง ลวดลาย สี วัสดุ ฯลฯ ซึ่งต้องมีความเป็นเอกลักษณ์ สื่อสารถึงตัวสินค้าได้ดี และต้องไม่จมหายเมื่ออยู่ท่ามกลางแบรนด์อื่น ๆ

แม้ว่าสินค้าไทย จะเป็นที่ยอมรับในเรื่องของคุณภาพ แต่หากเป็นสินค้าที่มีการสร้างแบรนด์อย่างแข็งแกร่ง จะยิ่งสร้างพลังที่ช่วยให้สินค้าของคุณบุกตลาดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ มัดใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น ดังนั้น หากต้องการเจาะตลาด AEC ผู้ประกอบการไม่ควรลุยเข้าไปโดยไร้การสร้างแบรนด์ แต่จำเป็นต้องไปบุกตลาดความพร้อม และ 6 กลยุทธ์ที่กล่าวมาข้างต้น อาจเป็นหนทางสู่โอกาสทางธุรกิจ ให้เกิดความมั่นคงและมีความยั่งยืนต่อไปในระยะยาว 

อ้างอิง : 
-https://99designs.com/blog/logo-branding/worlds-most-famous-logos/
-https://openaccess.nhh.no/nhh-xmlui/bitstream/handle/11250/2560953/masterthesis.PDF?sequence=1
-https://www.researchgate.net/publication/264972193_Impact_of_Product_Design_Representation_on_Customer_Judgment

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

TikTok ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคน ทั้งครีเอเตอร์ คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน และธุรกิจทุกขนาดในไทย ด้วยการเปิดตัว…
pin
1323 | 14/02/2024
ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่ยานพาหนะต่าง ๆ ทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ และเรือ ต่างมุ่งสู่การใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่เป็นพลังงานสะอาดกันแล้ว แต่สำหรับการเดินทางโดยอากาศยาน…
pin
1692 | 26/01/2024
จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

ปี 2024 นี้ ธุรกิจไหนมาแรง ธุรกิจไหนน่าจับตา เทรนด์ธุรกิจใดกำลังมาแรง Bangkok Bank SME สรุปมาไว้ในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางแก่ SME และผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจทุกท่าน…
pin
1933 | 25/01/2024
6 กลยุทธ์ สำหรับ SME ปั้นแบรนด์ให้ปัง สร้างโอกาสบุกตลาด AEC