8 ที่เที่ยวหน้าฝน สำหรับสายลุย พร้อมแจกฟรี! ปฏิทินวันหยุดยาวเดือน พ.ค. 66

Edutainment
04/05/2023
รับชมแล้วทั้งหมด 18602 คน
8 ที่เที่ยวหน้าฝน สำหรับสายลุย พร้อมแจกฟรี! ปฏิทินวันหยุดยาวเดือน พ.ค. 66
banner
หลังจากต้องเผชิญอากาศอันแสนอบอ้าว กับความร้อนทะลุปรอทที่ทุบสถิติกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา ทำเอาหลายบ้านต้องทั้งร้อนและ ‘หนาว’ กับบิลค่าไฟฟ้าที่มาจากการใช้งานเครื่องปรับอากาศมากกว่าเดิม แต่เผลอไม่ทันไร ประเทศไทยก็พร้อมก้าวเข้าสู่ช่วงกรีนซีซั่น กับบรรยากาศฝนโปรยปรายให้ได้สัมผัสไอเย็น ๆ ชุ่มฉ่ำที่มาให้ชื่นใจมาให้ได้ฟินกันตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเลยทีเดียว



สำหรับคนรักการเดินทางท่องเที่ยว เชื่อว่า ‘ฤดูฝน’ เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่หลายคนชื่นชอบ และมักจะเลือกออกเดินทางท่องเที่ยวกันในฤดูนี้ เพราะนอกจากจะได้เดินทางไปสัมผัสธรรมชาติท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนจนเกินไป ในยามเช้าและหลังฝนตก คุณจะเจอกับทะเลหมอกแบบเต็มตา ได้ถ่ายรูปสวย ๆ โดยมีหมอกขาวและไอละอองเย็นชื่นใจเป็นองค์ประกอบชั้นดีให้อัปสตอรี่ได้สวยงามไม่แพ้ฤดูหนาว นอกจากนี้ ในเดือนพฤษภาคม ปี 2566 นี้ ยังเป็นใจให้สายลุยเตรียมตัวเก็บกระเป๋าเพื่อออกเดินทางในวันหยุดยาวได้อย่างเต็มอิ่ม มีวันไหนบ้าง เช็คจาก ‘ปฏิทินวันหยุดเดือนพฤษภาคม 2566’ ด้านล่างกันได้เลย



เมื่อได้วันที่จะออกเดินทางกันแล้ว หากใครยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน เรามี 8 ที่เที่ยวหน้าฝน มาแนะนำ สำหรับคนที่กำลังหาสถานที่ไปรับอากาศเย็น เห็นทะเลหมอก พร้อมวิวธรรมชาติอันสวยงาม ความพิเศษที่มีมาให้เห็นกันเฉพาะหน้าฝน ดังต่อไปนี้ 



1.ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

เริ่มต้นกันที่สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนสันเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร อยู่ในเขตหมู่บ้านม้งหนองหอย ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตำบลแม่แรม 



เพราะจังหวัดเชียงใหม่ ไปได้ทุกฤดู อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกบรรยากาศแบบไหน ซึ่งหากคุณเลือกเดินทางไปในช่วงฤดูฝน นอกจากความฟินให้อินกับทะเลหมอกบนภูเขาสูงสุดตา คุณยังได้ชื่นชมความพิเศษของ ‘ม่อนแจ่ม’ ในมิติความสวยงาม ละลานตาด้วยสีม่วงสดใสของดอกเบอร์บีน่า ที่บานสะพรั่งช่วงฤดูฝนเพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเก็บเกี่ยววิวหลักล้าน สวย เย็น สบาย สร้างความประทับใจได้แบบแบบไม่รู้ลืม



หากใครมีแพลนเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ ‘ม่อนแจ่ม’ เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ควรมีในลิสต์ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด! เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศและภูมิประเทศที่สวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของผู้รักธรรมชาติ มีทุ่งดอกไม้สวย ๆ อากาศบริสุทธิ์และเย็นสบาย ตลอดทั้งปี 

ที่มาข้อมูล : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/Attraction/%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%A1
โทรศัพท์ :  08-1806-3993, 08-0854-4906, 08-1950-9767



2. วนอุทยานภูลังกา อำเภอปง จังหวัดพะเยา

‘วนอุทยานภูลังกา’ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ควรค่าแก่การเดินทางไปสัมผัสกับทะเลหมอก ชมความงามของดอกไม้ป่าหน้าฝน พิชิตภูลังกา ภูนม ชมอาทิตย์ขึ้นลง เข้าดงก่อโบราณ กังวาลเสียงนก น้ำตกสวยใส ประทับใจดอกโคลงเคลง

ที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความสมบูรณ์ของผืนป่าขนาดประมาณ 7,800 ไร่ เต็มไปด้วยดอกไม้ป่า พันธุ์ไม้หายาก อย่างต้นชมพูภูพาน เนียมแดง เอื้องสีตาล เทียนธารา สัตฤๅษี รวมถึงสัตว์ป่าที่มีอยู่กว่า 100 ชนิด อีกทั้งภูลังกา มีเรื่องเล่าของชาวเขาเผ่าเย้า ที่เรียกยอดดอยสูงที่สุดบนภูนี้ว่า "ฟินจาเบาะ" อันหมายถึงเป็นที่สถิตของนางฟ้า เทวดา โดยมีคำบอกเล่าถึงความมหัศจรรย์สืบต่อกันมาว่า ทุกวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ จะเกิดปรากฏการณ์แสงสีขาวเปล่งปลั่งเหนือยอดดอย 



สถานที่ท่องเที่ยวบนภูลังกา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาท่องเที่ยวในฤดูฝนถึงฤดูหนาว เพราะจะได้สัมผัสธรรมชาติแบบชุ่มฉ่ำที่สุด เป็นอีกหนึ่งแห่งสำหรับการเดินทางมาชมวิวทะเลหมอกแห่งเดียวของจังหวัดพะเยา ยอดภูที่มีความสูง 1,700 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง รวมทั้งยังมีกิจกรรมสำหรับสำรวจต้นน้ำตามเส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติ เช่น พิชิตยอดดอยต่าง ๆ ของวนอุทยานฯ ได้แก่ ยอดดอยภูลังกา ยอดดอยภูนม ความอลังการจากธรรมชาติรังสรรค์ของน้ำตกภูลังกา ลานหินล้านปี หินแยงฟ้า และอื่น ๆ อีกมากมาย หากใครเป็นสายกางเต็นท์ ที่วนอุทยานฯ มีสถานที่กางเต็นท์และบ้านพักรับรองไว้บริการอีกด้วย



ที่มาข้อมูล : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

พิกัด : ผาช้างน้อย อำเภอปง พะเยา
19°23'28.7"N 100°26'49.9"E

ลานกางเต็นท์แหล่งท่องเที่ยวภูลังกา
9FV2+P2Q, Unnamed Road, ตำบล ผาช้างน้อย อำเภอปง พะเยา 56140 ไทย



3. สะพานมอญ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

หากพูดถึงจังหวัดกาญจนบุรี ‘สะพานมอญ’ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ ถือเป็นหนึ่งไฮไลต์ของจังหวัด กับการเดินข้ามสะพานไม้ทอดยาว พาดผ่านสายน้ำกว้าง ท่ามกลางธรรมชาติ มีความยาวถึง 850 เมตร ซึ่งข้อมูลระบุว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และยาวเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบงของประเทศเมียนมาร์ ถูกใจบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสความงดงามและความอลังการกันอย่างไม่ขาดสาย  



ไม่เพียงแค่ความสวย แต่ ‘สะพานมอญ’ เปรียบเหมือนสะพานที่ร้อยดวงใจของชาวมอญอำเภอสังขละบุรีเข้าไว้ด้วยกัน เพราะเป็นสะพานไม้ที่พวกเขาร่วมแรงร่วมใจ สร้างกันขึ้นมาเพื่อข้ามลำน้ำซองกาเลีย โดยมีหลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ผู้กุมศรัทธาของชาวสังขละบุรีเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของการสร้างสะพานไม้แห่งนี้ ที่นี่จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "สะพานอุตตมานุสรณ์" ตื่นตากับจุดชมวิวทะเลหมอก พร้อมเช็คอิน ณ จุดชมวิวยามพระอาทิตย์ขึ้นในบรรยากาศที่ยากจะลืมเลือน




4. อุทยานแห่งชาติแม่เมย จังหวัดตาก

Topic ที่พูดถึงที่เที่ยวหน้าฝน หนีไม่พ้น ‘อุทยานแห่งชาติแม่เมย’ ที่ต้องเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ต้องมาสักครั้งในชีวิต เพราะที่นี่คือจุดชมทะเลหมอกในฤดูฝนที่เดินทางง่ายสะดวกสบายที่สุดจุดหนึ่ง มีจุดชมสายหมอกปกคลุมขุนเขาถึงสามจุดใหญ่ ๆ คือ ม่อนครูบาใส ม่อนพูนสุดา และม่อนกิ่วลม ทั้งสามม่อนอยู่ริมผา มีที่กางเต็นท์เป็นลานหญ้ากว้าง สามารถชมได้ทั้งหมอก ดาว และตะวัน ม่อนครูบาใสและม่อนพูนสุดา เหมาะกับการชมอาทิตย์ตก ส่วนม่อนกิ่วลมเหมาะกับการชมอาทิตย์ยามเช้า 



หรือหากใครมาพักค้างแรมริมผาหรือนอนริมม่อน นอกจากหมอกยามเช้า ยังได้ทะเลดาวเป็นของรางวัลให้ได้ตื่นตาตื่นใจกับดาวระยิบระยับนับพันที่อวดแสงแข่งกันให้นักท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวความสวยงามได้ทั้งคืน  ซึ่งที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้าจะดีต้องหน้าฝนต่อเนื่องไปถึงหน้าหนาว 

ข้อมูลเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติแม่เมย โทร. 08-8290-7964



5. เขาช่องลม เขื่อนขุนด่านปราการชล, นครนายก

หากคุณมีใจรักการเป็น แบ็กแพ็คเกอร์ เต็มหัวใจ แต่ติดที่อยากได้ที่เที่ยวใกล้ ๆ กรุง ชมธรรมชาติแบบเดินทางไป...แค่เอื้อม ที่นี่คือคำตอบ เพราะนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้คุณสัมผัสธรรมชาติอันเขียวขจี อีกหนึ่งของดียอดฮิตแห่งจังหวัดนครนายก ที่ถือได้ว่าเป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพนิดเดียว แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก วัดวาอาราม ร้านกาแฟ ธีมคาเฟ่สวย ๆ รวมไปชื่นชมธรรมชาติบนเขื่อนขุนด่านปราการชล 



ท่ามกลางธรรมชาติซ่อนอยู่ภายในเขื่อนขุนด่านปราการชล คือ ‘เขาช่องลม’ ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของเขื่อน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวฉบับกรีนโซน รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ครึ้มใจด้วยสีเขียว ตัดกับหมอก ฝน จนเกิดเป็นวิวสวย ๆ  ให้ถ่ายรูปได้ไม่มีเบื่อ ให้คุณได้ปล่อยใจในฟีลรีแล็กซ์ ท่ามกลางความเงียบสงบ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีลำธารใสไหลเย็นให้ชื่นฉ่ำหัวใจ ชาร์จแบตให้วันที่เหนื่อยล้า ด้วยการสูดอากาศแสนบริสุทธิ์ได้แบบเต็มปอด 




6. หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ

ภูสิงห์ เป็นส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู อยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับภูทอก มีแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นคือ ‘หินสามวาฬ’ (Three Whales Rock) ลักษณะเป็นหน้าผาหินทรายขนาดใหญ่ยื่นออกไป เป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงาม และสามาถชมทะเลหมอกยามเช้า ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น คุณจะได้เห็นแสงสีส้มที่ไล่เฉดสีอย่างลงตัว สวยงาม แบบที่คุณไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน  



เป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวไฮไลท์ที่ต้องไปสักครั้ง หากนึกถึงจังหวัดบึงกาฬ และความพิเศษของสถานที่แห่งนี้ คือหินยักษ์รูปวาฬ เก่าแก่อายุประมาณ 75 ล้านปี ลักษณะเป็นก้อนหินขนาดมหึมาวางเรียงกัน 3 ก้อน หากมองไกล ๆ หรือมองจากภาพถ่ายทางอากาศ จะมีรูปร่างคล้ายวาฬ พ่อ แม่ ลูก กำลังว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน เป็นหนึ่งในที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนทางธรรมชาติ 

คุณทรัพย์สิน จงดี (หัวหน้าศูนย์ศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนแห่งชาติ ที่ 154 ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู จังหวัดบึงกาฬ)
ที่ตั้ง : อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ในเขตพื้นที่อนุรักษ์เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา
โทรศัพท์ 08-1708-0734



7. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 

‘อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า’ เป็นอุทยานแห่งชาติที่วางตัวอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบอากาศเย็นสบาย เพราะด้วยลักษณะภูมิประเทศบนที่อยู่บนที่สูงทำให้มีความหนาวเย็นเกือบตลอดปี รวมถึงมีหมอกคลุมทั่วบริเวณ โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องหลังจากนั้นจะเกิดทะเลหมอกยามเช้าสวยงาม โดยเฉพาะบริเวณจุดชมวิว ‘ร่องกล้าฮั่นแน้ว’ ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนตั้งตารอชมความสวยงามก่อนขึ้นอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า



ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ : คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
ในอุทยานฯ มีที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งแบบเต็นท์และบ้านพัก 

ติดต่ออุยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร. 0 5523 3527 
หรือ กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. 0 2562 0760 www.dnp.go.th



8. เขากระโจม จังหวัดราชบุรี

ปิดท้ายที่เที่ยวหน้าฝน ด้วยจังหวัดที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงามและอากาศดี มีหมอกหนา ๆ ให้ไปชื่นชมกันให้เต็มตา ที่ ‘เขากระโจม’ ตั้งอยู่ในตำบลสวนผึ้ง อยู่บริเวณฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดน สุดชายแดนประเทศไทยทางภาคตะวันตก สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร 



นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมบรรยากาศทะเลหมอกที่สวยงามยามเช้าซึ่งคล้ายกับบรรยากาศบนดอยทางภาคเหนือ คำแนะนำคือควรเดินทางไปถึงในช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 05.00-06.00 น. เพื่อรอชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้น ระหว่างเส้นทางจะผ่านพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ และขาลงจากเขาสามารถจอดรถแวะเดินเข้าไปชมน้ำตกผาแดงซึ่งมีกล้วยไม้พันธุ์ที่หายาก 

ระหว่างเส้นทางผ่านทางเข้าน้ำตกผาแดง ในกรณีที่นักท่องเที่ยวไม่ได้นำรถขับเคลื่อน 4 ล้อมา ชมรมรักษ์เขากระโจม มีบริการให้เช่าราคาประมาณ 1,500-2,000 บาท 

โทรศัพท์ 09-2902-9618



และทั้งหมดนี้ คือที่เที่ยวหน้าฝน ที่เราอยากให้คุณลองออกเดินทางไปเยี่ยมเยือนสักครั้ง เพื่อเก็บเกี่ยวความสวยงามตามสไตล์ฟ้าหลังฝน พาร่างกายไปปะทะไอหมอกสีขาว อิ่มใจ สบายตา พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์กันแบบเต็มปอด เพื่อผ่อนคลายการทำงานที่เหนื่อยล้าบอกลาความร้อนสุดปรอทที่เริ่มซอฟท์ลงในช่วงเวลานี้ ให้มีความเย็นฉ่ำชื่นใจ จากสิ่งที่ธรรมชาติได้ซ่อนความสวยงามเอาไว้มากมายให้คลายความอบอ้าวลงไปบ้าง 

ที่สำคัญคือ หากคุณเดินทางท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน อย่าลืมเพิ่มไอเท็มจำเป็นติดกระเป๋าเดินทางไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นชุดกันฝน อุปกรณ์หรือถุงสำหรับป้องกันน้ำ ร่มที่พกพาสะดวก ไฟฉาย ยารักษาโรคทั่วไปและแบบฉุกเฉิน ยาทากันแมลง แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้ คือกล้องถ่ายภาพดี ๆ สำหรับเก็บความประทับใจแบบไม่รู้ลืม ส่วนใครไม่ใช่สายแบก จะฟินกับรูปสวยสุดปังจากสมาร์ทโฟนที่พกพาง่ายได้ทุกที่ อันนี้ไม่ว่ากัน 

ส่วนผู้ประกอบการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน ถือเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปสัมผัสธรรมชาติกันมากมาย หากที่พักของคุณเพิ่มไฮไลต์เรียกความน่าสนใจด้วยกิจกรรมที่เหมาะสำหรับสายลุย เช่นล่องเรือล่องแก่ง ชมทิวทัศน์ธรรมชาติ หรือจัดเมนูพิเศษด้วยอาหารชุดปาร์ตี้ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายให้พอได้ฟีล หากฝนตกสามารถเสิร์ฟที่ห้องพักได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ควรมีการทำความสะอาดสถานที่อย่างสม่ำเสมอ เพิ่มจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ หรือจุดล้างมือ มีจุดสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิ ให้พนักงานสวมหน้ากากอนามัยเมื่อให้บริการ และในยุคดิจิทัล ที่พักและร้านค้าควรมีบริการให้ลูกค้าสามารถชำระเงินแบบลดการสัมผัสได้ เช่น ชำระผ่าน QR Code/บัตรเครดิต/บัตรเครดิตแบบ Contactless เพื่อให้ลูกค้าสะดวก และปลอดภัย เที่ยวได้แบบไร้กังวลทุกฤดูกาล


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ตรุษจีนยุคใหม่ไร้ Foodwaste เคลียร์ของไหว้เป็นเมนูเด็ด แถมลดโลดร้อน

ตรุษจีนยุคใหม่ไร้ Foodwaste เคลียร์ของไหว้เป็นเมนูเด็ด แถมลดโลดร้อน

ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นประเด็นที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะยิ่งนับวัน การคืบคลานเข้ามาของสภาวะโลกร้อนที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหลายภาคส่วน…
pin
774 | 07/02/2024
‘เวียดนาม’ โตไวในธุรกิจรักษ์โลก ไทยอยู่อันดับเท่าไหร่ในตลาดอาเซียน

‘เวียดนาม’ โตไวในธุรกิจรักษ์โลก ไทยอยู่อันดับเท่าไหร่ในตลาดอาเซียน

จากข้อมูลโดย ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (sdgmove)  ระบุว่า เดือนเมษายน ปี 2565 ที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามเผยแพร่ยุทธศาสตร์ชาติ…
pin
11012 | 26/10/2023
#กินเจ2566 เช็ค 8 สถานที่ใกล้ตัว งาน‘เทศกาลกินเจ 2566’ อิ่มท้อง อิ่มใจ ได้บุญ

#กินเจ2566 เช็ค 8 สถานที่ใกล้ตัว งาน‘เทศกาลกินเจ 2566’ อิ่มท้อง อิ่มใจ ได้บุญ

ช่วงเวลาของสายบุญ ที่จะเวียนมาปีละครั้ง สำหรับเทศกาลกินเจ หรือ ประเพณีถือศีลกินผัก ตามประเพณีแบบลัทธิเต๋า รวม 9 วัน โดยกำหนดวันตามจันทรคติ…
pin
13486 | 03/10/2023
8 ที่เที่ยวหน้าฝน สำหรับสายลุย พร้อมแจกฟรี! ปฏิทินวันหยุดยาวเดือน พ.ค. 66