AEC Connect | รู้จัก 3 เทคโนโลยีช่วยอาเซียนเดินหน้า ‘พลังงานสีเขียว’
เมื่อไม่นานมานี้ความต้องการที่เดินสู่เส้นทาง
‘พลังงานสีเขียว’ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดของโลก
เริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น
โดยเริ่มมีการผลิตพลังงานที่ไม่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างแท้จริงด้วยวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนับตั้งแต่การผลิตไฟฟ้า,
การกักเก็บไฟฟ้า, การแจกจ่าย, การจัดการและการใช้ไฟฟ้าอย่างเหมาะสมซึ่งหากอาเซียนคิดที่จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากกว่านี้ตามที่ให้คำมั่นในที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สมัยที่ 26 (UNFCCC
COP26) ระหว่างวันที่
31 ต.ค. 2564 – 12 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา
ก็มีความเป็นไปได้ ด้วยความก้าวหน้าของการพัฒนาไฮโดรเจนสีเขียว
แบตเตอรี่ และโรงงานไฟฟ้าเสมือน โดยทั้ง 3 เทคโนโลยีจะสามารถช่วยอาเซียนลดก๊าซเรือนกระจกได้
ดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ไฮโดรเจนสีเขียว
สิ่งแรกที่จะพูดถึง
คือ ไฮโดรเจนสีเขียวซึ่งเป็นรูปแบบของไฮโดรเจนที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
เพราะว่าผลิตจากพลังงานหมุนเวียน
เช่น พลังงานแสงอาทิตย์หรือความร้อนใต้พื้นโลก
โดยไฮโดรเจนสีเขียวสามารถผลิตไฟฟ้าได้เมื่อต้องการ
จากนั้นเก็บกักไว้และจ่ายไฟฟ้าออกไป
เพื่อช่วยลดความไม่แน่นอนของพลังงานหมุนเวียน
โดยกระบวนการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากราคาที่ลดลงของไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแสงอาทิตย์และลมซึ่งสามารถใช้ผลิตไฮโดรเจนที่สามารถผลิตไฟฟ้าที่ส่งไปยังบ้าน
ออฟฟิศและโรงงานต่าง
ๆ
แบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่ได้
ความก้าวหน้าของแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จใหม่ได้หลายครั้งก็เตรียมที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
ด้วยแบตเตอรี่ชนิดนี้ทำให้พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานจากใต้พื้นโลกสามารถนำมาแปลงเป็นไฟฟ้าและเก็บกักไว้ในแบตเตอรี่สำหรับใช้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
เช่น SCiB™ ของโตชิบา ที่ใช้ลิเธียมไทเทเนียมที่ขั้วบวกของแบตเตอรี่
เพื่อสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย,
ใช้ได้ในระยะที่ยาวนาน,
อุณหภูมิต่ำ, ชาร์จได้รวดเร็วและมีความจุไฟสูง
โรงไฟฟ้าเสมือน (VPP)
การบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนด้วยการใช้ระบบซอฟต์แวร์ที่อัจฉริยะเพิ่มไปอีกขั้นซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วย
AI และ Internet of
Things (IoT) ส่งผลให้โรงไฟฟ้าเสมือนเกิดขึ้นได้ในปัจจุบัน
โดยเป็นการรวมให้พลังงานไฟฟ้าที่มาจากแผงโซลาร์,
แบตเตอรี่ที่อยู่ตามบ้านและออฟฟิศต่าง
ๆ และพลังงานหมุนเวียนจากบริษัทผู้ผลิตต่าง
ๆ เข้ามาและถูกจัดการและเติมเต็มกันอยู่ภายในโรงงานไฟฟ้าเสมือน
ซึ่งระบบที่ใช้ AI และ IoT จะสามารถคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าและปริมาณไฟฟ้าที่มีอยู่ได้
และยังช่วยส่งเสริมความมั่นคงของระบบผลิตไฟฟ้า
จัดวงจรการใช้และลดการสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย
อย่างไรก็ดี
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง
ๆ จึงทำให้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาดเกิดเสถียรภาพมากขึ้นซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้อาเซียนสามารถเดินตามเส้นทาง
‘พลังงานสีเขียว’ เพื่อช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้อย่างมั่นคงและสิ่งที่สำคัญที่สุด
คือ การดำเนินการตามเป้าหมายและเสาะหาวิธีใหม่
ๆ ที่จะใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและการผลิตไฟฟ้าจากทรัพยากรหรือแหล่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ทำร้ายโลกของเราไปมากกว่านี้